พิษบาทแข็งฉุดส่งออกอาหารปีนี้พลาดเป้า

กรุงเทพฯ  13 ธ.ค. – องค์กรอาหารยอมรับเงินบาทแข็งค่าฉุดยอดส่งออกอาหารพลาดเป้า เรียกร้องรัฐดูแลหวั่นกระทบการส่งออกปี 61


นายยงวุฒิ  เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ปี 2560 เงินบาทแข็งค่าส่งผลกระทบอุตสาหกรรมอาหารไทย แม้ภาคการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 แต่การส่งออกคาดว่าจะมีปริมาณ 32.5 ล้านตัน มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 4.5 และร้อยละ 5.3 ตามลำดับ อัตราการขยายตัวลดลงเล็กน้อยจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะส่งออกได้ 33.0 ล้านตัน มูลค่า 1.03 ล้านบาท  โดยปีนี้การส่งออกสินค้าหลักหลายรายการลดลงกว่าที่คาด โดยเฉพาะกุ้ง ปลาทูน่ากระป๋อง มันสำปะหลัง และน้ำผลไม้ ประกอบกับการแข็งค่าของเงินบาททำให้มูลค่าส่งออกในรูปเงินบาทลดลง แม้ว่ามูลค่าส่งออกในรูปดอลลาร์จะขยายตัวในอัตราร้อยละ 10.0 

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ CLMV ยังคงเป็นตลาดส่งออกอาหารอันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วนร้อยละ 16.6 รองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น ร้อยละ 13.5  อาเซียนเดิม ร้อยละ 11.6  สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 10.6 แอฟริกา ร้อยละ 9.3  จีน ร้อยละ 9 สหภาพยุโรป  (อียู) ร้อยละ  6.0 ตะวันออกกลาง ร้อยละ4.2 โอเชียเนียร้อยละ 3.3 สหราชอาณาจักร ร้อยละ 3.0 และเอเชียใต้ ร้อยละ 1.6 โดยตลาดส่งออกหลักของไทยส่วนใหญ่ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า ยกเว้นตลาดอาเซียนเดิม (ASEAN-5) ลดลงร้อยละ 10.7 ตามปริมาณการส่งออกสินค้าหลัก อาทิ น้ำตาลทราย และแป้งมันสำปะหลังที่ลดลง สหรัฐอเมริกา ลดลงร้อยละ 2.3 จากการส่งออกสับปะรดกระป๋อง และปลาทะเลแช่แข็งที่หดตัวลง และสหราชอาณาจักร ลดลงร้อยละ 10.9 จากการเผชิญภาวการณ์ชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการแข็งค่าของค่าเงินปอนด์เทียบบาท 


 “แม้ว่าสินค้าส่งออกหลักหลายรายการจะชะลอตัวลง แต่มีสินค้าส่งออกกลุ่มใหม่ที่ขยายตัวสูงและคาดว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าดาวเด่นของไทยในอนาคต ได้แก่ กลุ่มผลไม้สดไม่รวมผลิตภัณฑ์มะพร้าว ปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 72,340 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 ปีล่าสุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 23  เครื่องดื่มชูกำลัง 22,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ10 ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ 13,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 นม 10,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ6 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่รวมวิตามิน  3,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 และไอศกรีม  2,122 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 โดยสินค้าส่วนใหญ่มีตลาดหลักอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน ทั้ง 3 องค์กรจะร่วมกันผลักดันสินค้าในกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผลักดันสินค้าในกลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพมากขึ้น” นายยงวุฒิ กล่าว

นายยงวุฒิ กล่าวต่อว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารไทยปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2560 ในอัตราร้อยละ 7.0 มีมูลค่าส่งออก 1.07 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญฟื้นตัวต่อเนื่อง ผลผลิตวัตถุดิบสินค้าเกษตรในปีการผลิต 2560/2561 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำฝนและนโยบายสนับสนุนภาคเกษตรกรรมและเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาล ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs และกลุ่ม OTOP) โดยสินค้าที่คาดว่าจะมีมูลค่าส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ข้าว ไก่ น้ำตาลทราย กุ้ง และ ทูน่ากระป๋อง ส่วนสินค้าที่คาดว่าจะมีมูลค่าขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มะพร้าว เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 แป้งมันสำปะหลัง, อาหารพร้อมรับประทาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10, กุ้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3, น้ำตาลทราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 , เครื่องปรุงรส เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8,ไก่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 และน้ำผลไม้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 

สำหรับปี 2561 มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม ได้แก่ การแข็งค่าของค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ราคาพลังงานที่สูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนสินค้าและค่าขนส่ง แนวโน้มการขาดแคลนแรงงานทั้งภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม และต้นทุนแรงงานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 


นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เงินบาทแข็งค่าตั้งแต่ปลายปี 2559 กว่า 2 บาทแล้ว เงินบาทของไทยแข็งค่ากว่าเงินของอินโดนีเซียและเวียดนาม ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในการส่งออกสินค้าของไทย ปัญหาเงินบาทแข็งค่าจึงเป็นปัญหาที่น่าห่วงมากที่สุดในปีหน้า เพราะรายได้จากการส่งออกเมื่อแปลงมาเป็นเงินบาทแล้วลดลงกระทบผลประโยชน์ที่จะตกลงไปถึงมือเกษตรกรและเอสเอ็มอีลดลงตามไปด้วย ดังนั้น จึงอยากให้ทางการเข้ามาดูแลให้เงินบาทอ่อนค่าอย่างสมดุลกับค่าเงินของประเทศที่เป็นคู่แข่งในการส่งออกสินค้า เพื่อช่วยให้การแข่งขันในการส่งออกของประเทศไทยดีขึ้น  อีกปัญหา คือ ค่าแรง หากค่าแรงปรับเพิ่มขึ้นอีกก็จะยิ่งมีผลกระทบต่อการดำรงชีพของคนไทยและการส่งออกที่มีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง