กรุงเทพฯ 4 ก.ย. – บางจากฯ ออกแถลงการณ์ ระบุการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น เป็นไปกลไกตลาด หลังจากมีข่าวการเปลี่ยนแปลงโยงใยการเมืองไทย-กัมพูชา
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ ระบุถึงกรณีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นว่า บริษัทเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ การซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ เป็นไปตามกลไกตลาด ภายได้กฎเกณฑ์และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำหรับการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นล่าสุดผู้ถือหุ้นรายใหม่ได้แต่งตั้งผู้แทนกรรมการตามสัดส่วนจำนวน 2 ท่าน จากกรรมการทั้งหมด 15 ท่าน โดยกรรมการผู้แทนล้วนมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย และมีประสบการณ์การทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก
ขณะนี้ บริษัทฯ และคณะกรรมการกำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนธุรกิจระยะกลางถึงระยะยาว ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอได้เร็ว ๆ นี้ และเป็นการต่อยอดแนวยุทธศาสตร์ Bangchak 100x ให้มีความกระชับและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยยังให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน
บริษัทฯ ขอยืนยันถึงความเป็นมืออาชีพของคณะกรรมการและผู้บริหาร การยึดมั่นในจริยธรรม และความโปร่งใส ในการดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ บางจากฯ ได้รับการจัดอันดับ Top 196 ของโลกด้านความยั่งยืนในหมวด Oil & Gas Refinery and Marketing จาก S&P Global CSA (DJSI) ประจำปี 2025 สะท้อนถึงความยึดมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและได้มาตรฐาน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้านสื่อในกัมพูชารายงานว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ สม รังสี แกนนำฝ่ายค้านที่ลี้ภัยในต่างประเทศ ซึ่งโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ร่วมมือผ่านนายทักษิณ ชินวัตร พยายามเข้าถือหุ้นบางจากฯ ในสัดส่วน 24% ดำเนินการผ่านนายหน้าชื่อ “เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์” ชาวแอฟริกาใต้ที่ถือสัญชาติกัมพูชา แต่กองทุนประกันสังคมของไทยซึ่งถือหุ้นอยู่ 14% ไม่ยอมขาย ทำให้ฮุน เซน โกรธจัด และถูกฉ้อโกงเงินไปหลายร้อยล้านดอลลาร์ และเรื่องที่เริ่มจากความขัดแย้งทางธุรกิจ ได้บานปลายเป็นปัญหาระดับชาติ ข้อกล่าวหาของรังสีอ้างอิงข้อมูลจากบทความในเว็บไซต์เอเชีย เซ็นติเนล (Asia Sentinel) ระบุเมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือที่รู้จักในชื่อ “เบ็น สมิท” ว่าเป็นตัวกลางมีความเชื่อมโยงกับทั้งทักษิณและสมเด็จฯ ฮุน เซน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ ระบุข้อกล่าวอ้างของทั้งเอเชีย เซ็นติเนล และ สม รังสี ว่าเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น ยืนยันสมเด็จเดโช ฮุน เซน, สมเด็จธิบดีฮุน มาเนต และครอบครัว ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับนายหน้าชาวแอฟริกาใต้คนดังกล่าว และไม่เคยซื้อหุ้นในบริษัทไทยใด ๆ ตามที่ถูกกล่าวหา และระบุนาย สม รังสี มักเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน เพื่อทำลายชื่อเสียงของผู้นำระดับสูงของกัมพูชา. -511-สำนักข่าวไทย