นายกสมาคมฟุตบอลฯ เสียดายความสามารถ “ภูมิรินทร์” ผู้ตัดสินไทยลีก

กรุงเทพฯ 23 พ.ย.-นายกสมาคมฟุตบอล ยอมรับเสียดาย ภูมิรินทร์ คำรื่น ผู้ตัดสินไทยลีก ที่มีชื่อกระทำความผิดคดีล้มบอล ส่วนราชนาวี รอคำตัดสินของศาล ก่อนจะดำเนินการเอาผิดนักเตะทั้ง 4 คนได้


พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยอมรับว่าในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้เพิ่มเติมว่า มีผู้ใดในวงการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการล็อกผลการแข่งขัน และยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ในการสืบสวนเรื่องนี้ ขณะเดียวกันยอมรับว่าเสียดายความสามารถของ ภูมิรินทร์ คำรื่น ผู้ตัดสินไทยลีก ที่เป็น 1 ใน 12 ชื่อที่กระทำความผิด ยอมรับว่าเห็นในฝีมือของ ภูมิรินทร์ จึงเลือกมาเป็นผู้ตัดสินของสมาคม แต่ในเมื่อกระทำความผิด ก็ต้องลงโทษอย่างไม่มีข้อยกเว้น


ทางด้านพลเรือเอกรังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ประธานสโมสรฟุตบอลราชนาวี ออกมาขอโทษแฟนบอลราชนาวีที่ 4 นักเตะของสโมสรพัวพันกับการล้มบอล พร้อมยืนยันเจ้าหน้าที่ทุกคนในสโมสรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่าค่าเหนื่อยที่ไม่มากเหมือนสโมสรอื่นๆ อาจเป็นเหตุจูงใจให้นักเตะกระทำความผิดได้ แต่เนื่องจากเป้าหมายของสโมสรในการทำทีมคือการมุ่งเน้นให้เยาวชนได้แสดงความสามารถด้านกีฬา ห่างไกลยาเสพติด และเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการของทหารเรือ จึงไม่ได้เน้นธุรกิจเหมือนทีมอื่น งบประมาณจึงมีไม่มาก 


โดยตอนนี้สโมสรได้ตั้งกรรมการสอบสวนและเตรียมเรียกนักเตะทั้ง 4 คนเข้ามาชี้แจง ซึ่งเบื้องต้นได้หยุดพักสัญญาของทั้ง 4 คนเอาไว้ก่อน โดย 3 นักเตะที่เป็นข้าราชการทหาร ได้แก่ นายสุทธิพงษ์ เหลาพร นายสุวิทยา นำสินหลาก และนายเสกสันต์ ชาวทองหลาง หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริงโทษสูงสุดอาจถึงขั้นถูกให้ออกจากราชการ ส่วนนายณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตู เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ใช่ข้าราชการทหารก็จะมีบทลงโทษเด็ดขาดเช่นกัน แต่บทลงโทษทั้งหมดจะต้องรอคำตัดสินของศาลอีกครั้ง จึงจะดำเนินการเอาผิดนักเตะทั้ง 4 คนได้ นอกจากนี้ประธานสโมสรราชนาวี เชื่อว่า ยังมีนักเตะและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มบอลอีกแน่นอน ส่วนการเตรียมทีมในฤดูกาลหน้าคงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง หลังจากที่โค้ชฉ่วย สมชาย ชวยบุญชุม ปฎิเสษที่จะทำทีมต่อไป

ด้านสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า ประกาศผลตารางคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง ประจำเดือนพฤศจิกายน 2560 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผลปรากฏว่า ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รั้งอันดับ 132 ของโลก ขึ้นมาหกอันดับโดยมี 225 คะแนน และรั้งอันดับที่ 25 ของทวีปเอเชีย และยังคงเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคอาเซียน รองจากฟิลิปปินส์ และเวียดนาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”