วอชิงตัน 16 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า ถ้วยแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก ที่ตั้งไว้ในห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน จะต้องตั้งไว้อย่างถาวร ฟีฟ่าต้องมอบถ้วยแชมป์จำลองให้เชลซีที่เอาชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง คว้าแชมป์ไปได้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีทรัมป์ และ จานนี่ อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้เข้าชมรอบชิงชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลก เมื่อวันอาทิตย์ ก่อนทั้งคู่จะร่วมมอบถ้วยแชมป์ให้กับ รีซ เจมส์ กัปตันทีมเชลซี ซึ่งเขาและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นมีสีหน้าที่งุนงงตอนที่ทรัมป์เข้ามายืนอยู่หน้าสุดตรงกลางขณะรับถ้วย ไม่ได้หลบลงเวทีไป
ถ้วยแชมป์สโมสรโลก เปิดตัวครั้งแรกที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และถ้วยแชมป์ก็ถูกตั้งตกแต่งในห้องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทรัมป์บอกกับนักข่าวไว้ว่าสอบถามทางฟีฟ่าไปว่าจะมารับถ้วยรางวัลกลับไปเมื่อใด ก่อนที่ประธานฟีฟ่าจะแจ้งมาว่าให้เขาเก็บถ้วยรางวัลนี้ไว้ที่ห้องทำงานรูปไข่ได้ตลอดไปเลย เพราะทางฟีฟ่ากำลังทำถ้วยรางวัลจำลองอันใหม่อยู่ ยังไม่ทราบแน่ชัดเรื่องความแตกต่างระหว่างถ้วยรางวัลทั้งสอง

ทรัมป์ยังบอกว่า เขาสามารถออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเปลี่ยนคำว่า “ซอคเกอร์” (Soccer) ซึ่งหมายถึงฟุตบอลในแบบอเมริกัน เป็น “ฟุตบอล” (Football) แบบที่ภาษาอังกฤษที่ทั่วโลกรู้จักได้ และกล่าวว่าผู้นำประเทศอื่นๆ ต่างเรียกสหรัฐว่าเป็นประเทศ ‘ที่ร้อนแรงที่สุดในโลก’ โดยอ้างถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและจุดยืนทางการเมือง พร้อมกล่าวถึงการจัดฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกและฟุตบอลโลกในสหรัฐ ว่าเป็นเรื่องของความสามัคคี การที่ทุกคนมารวมตัวกัน และความรักใคร่ระหว่างประเทศต่างๆ เขาคิดว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่เป็นสากลมากที่สุด ดังนั้น จึงสามารถเชื่อมโยงโลกเข้าด้วยกันได้อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี แผนการจัดฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปีหน้า ที่สหรัฐจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับแคนาดาและเม็กซิโก อาจต้องเผชิญกับอุปสรรคบางประการที่เกิดจากมาตรการของรัฐบาลทรัมป์เอง รวมถึงการห้ามการเดินทางที่จะส่งผลกระทบต่อแฟนบอลทั่วโลก ที่หวังจะเดินทางไปยังสหรัฐ เพื่อชมการแข่งขัน แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นสำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีภัยคุกคามจากการบุกจับของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในระหว่างการแข่งขัน และระยะเวลาการรอคอยวีซ่าเข้าประเทศยาวนาน ที่อาจทำให้แฟนบอลจำนวนมากตัดสินใจไม่มาชมการแข่งขันที่สหรัฐ.-815.-สำนักข่าวไทย