ปลัด ก.แรงงาน ชี้ยังไม่จัดซื้อเครื่องสแกนม่านตา

ก.แรงงาน 13 พ.ย.-ปลัดฯแรงงาน ชี้การจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตาขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการพิสูจน์อัตลักษณ์ฯ ยันคุ้มค่า แม้เหลือเวลาพิสูจน์สัญชาติถึงสิ้นปีนี้



นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตาเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวว่า ขณะนี้ยังไม่ดำเนินการจัดซื้อแต่อย่างใด โดยการพิจารณาว่าจะจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาการเก็บข้อมูลพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ใช้มาตรา 44 แต่งตั้งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการพิสูจน์อัตลักษณ์ หรือสัญชาติของแรงงานต่างด้าวและเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลดังกล่าว ให้หน่วยงานราชการอื่นๆสามารถดึงไปใช้ได้ จากเดิมที่ฐานข้อมูลอัตลักษณ์ของแรงงานต่างด้าวอยู่แบบกระจัดกระจาย


ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อไปโดยยืนยันว่า  การพิสูจน์อัตลักษณ์โดยเครื่องสแกนม่านตามีความจำเป็นเนื่องจากมีความแม่นยำ มากกว่าการพิมพ์ลายนิ้วมือที่เคยมี ซึ่งปัจจุบันแรงงานต่างด้าวลายนิ้วมือไม่ชัด และหายไป ทำให้การพิสูจน์อาจคาดเคลื่อน และเดิมการใช้เครื่องสแกนม่านตาเริ่มจากกรมเจ้าท่าที่ใช้พิสูจน์แรงงานต่างด้าวในกิจการประมง ซึ่งเมื่อพิสูจน์เสร็จก็ต้องมาขอใบอนุญาตทำงานที่กระทรวงแรงงาน ซึ่งทำให้เกิดความซับซ้อนและยากต่อการดำเนินการ ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวก  กระทรวงแรงงาน  โดยกรมการจัดหางาน รับนโยบายนี้  โดยได้ยืมเครื่องสแกนม่านตาจากกรมเจ้าท่า จำนวน 30 เครื่องที่มี มาดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานในกิจการประมงที่ยังไม่พิสูจน์สัญชาติจำนวน 7-8 หมื่นคนก่อน ซึ่งขณะนี้ผ่านการพิสูจน์แล้วกว่า 2 หมื่นคน แต่ยังเหลือแรงงานต่างด้าวในกิจการทั่วไปอีกกว่า 2 ล้านคนที่ยังไม่พิสูจน์อัตลักษณ์ ขณะที่เครื่องที่มีนี้ไม่เพียงพอ จึงมีแนวทางในการจัดซื้อเพิ่ม แต่จะซื้อกี่เครื่องนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ


ส่วนประเด็นที่ว่า การจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตาจะคุ้มค่าต่อการใช้งานจริงหรือไม่ เพราะรัฐกำหนดให้แรงงานต่างด้าวทุกคนต้องดำเนินการพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสรน็จภายในสิ้นปีนี้ ก่อน พ.ร.บ.บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.2561 ส่วนตัวเชื่อว่าคณะกรรมการชุดนี้ จะสามารถบริหารจัดการได้อย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์สูงสุดแน่นอน

ทั้งนี้ การพิสูจน์อัตลักษณ์ที่แม่นยำไม่เพียงแต่ช่วยให้การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวของไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น แรงงานได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ยังช่วยขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ และเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเชจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]

อุณหภูมิลดอีก 1-3 องศาฯ “อีสาน-เหนือ” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานและเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็น ภาคใต้ฝนเพิ่ม ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.