กทม. 19 ต.ค. – พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตริย์ตามโบราณราชประเพณี เพื่อถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่พระเจ้าแผ่นดินอันเป็นที่รัก คราเสด็จสู่สวรรคาลัย กระทำสืบเนื่องมาช้านาน เฉกเช่นเดียวกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทุกรายละเอียดได้เพิ่มเสริมเติมความวิจิตรงดงาม ให้เป็นพระราชพิธีแห่งความอาดูรแห่งศตวรรษ
พระราชพิธีพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นโบราณราชประเพณีที่มีธรรมเนียมแบบแผนมาแต่ครั้งสมัยอยุธยาตอนปลาย มีความสำคัญทัดเทียมกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แม้ว่าจะปรับเปลี่ยนรายละเอียดปลีกย่อยของพระราชพิธีบ้างตามยุคสมัย แต่ยังคงยึดตามความเชื่อว่า พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม ทรงได้รับการเทิดทูนเสมอด้วยสมมติเทพ เมื่อเสด็จสวรรคตถือว่าเสด็จกลับสู่สรวงสวรรค์ เพื่อส่งเสด็จดวงพระวิญญาณกลับสู่สวรรคาลัย จึงประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างยิ่งใหญ่เพื่อให้สมพระเกียรติ
ในสมัยโบราณ การถวายพระเพลิง หรือการออกพระเมรุ จะกำหนดระยะเวลาตั้งแต่ 3 วัน 5 วัน 9 วัน จนถึง 15 วัน
หมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560
วันพุธที่ 25 ตุลาคม เวลา 17.30 น. เป็นพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม เวลา 07.00 น. เชิญพระบรมศพโดยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่1, 2 และ 3 สู่พระเมรุมาศ ในการถวายพระเพลิงพระบรมศพ ริ้วขบวนนี้มีพระบรมวงศานุวงศ์ร่วมเสด็จพระราชดำเนินด้วย
วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม เวลา 08.00 น. พิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ โดยริ้วขบวนที่ 4 เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยาน และเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย
วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม เวลา 17.30 น. พิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม เวลา 10.30 น. ริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นประดิษฐานที่พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เวลา 17.30 น. ริ้วขบวนที่ 6 เชิญพระบรมราชสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์ไปบรรจุ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงม้านำขบวนพระบรมราชอิสริยยศในริ้วขบวนนี้ด้วย
จากนั้นวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม กำหนดให้เป็นวันออกทุกข์
งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นการสืบทอดโบราณราชประเพณีที่งดงามและยิ่งใหญ่สมพระเกียรติแห่งศตวรรษ ด้วยทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม น้ำพระราชหฤทัยที่ทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรทั่วทุกพื้นที่ของประเทศมาเป็นเวลานานถึง 70 ปี จึงทรงเป็นที่จงรักภักดีและเทิดทูนยิ่งของพสกนิกรไทยถ้วนหน้า. – สำนักข่าวไทย