สโมสรทหารบก 9 ต.ค.- คลังคาดสรุปภาษีที่ดินฯพ.ย.นี้ หลังพบกรรมาธิการ สนช. เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยเก็บภาษีราคาบ้านไม่เกิน 20 ล้านบาท
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการ สนช.เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวคิดการปรับลดเพดานจัดเก็บภาษีที่ดินฯ สำหรับที่อยู่อาศัยจากเดิมกำหนดบ้านราคาบ้านหลังแรกไม่เกิน 50 ล้านบาทได้รับการยกเว้นภาษี ปรับลดเหลือ 20 ล้านบาทต่อหลัง คาดว่าจะสามารถสรุปแนวทางทั้งหมดได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากกรรมาธิการขอขยายเวลาการพิจารณาออกไปอีก 60 วัน เพื่อรวบรวมข้อมูล ด้วยการมอบหมายให้กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ สศค.ศึกษาข้อมูลใหม่ ร่วมกับข้อมูลเก่าซี่งใช้เสนอ ครม.เห็นชอบร่างกฎหมาย เพราะต้องการนำทำเลที่ดินใจกลางเมืองชั้น ชั้นกลาง และทำเลชั้นนอก และจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ มาใช้เทียบเคียงราคาเมินประเมินแบบใหม่ เพื่อประเมินว่าผู้เสียภาษีในอัตราใหม่เท่าใด
นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่า การกำหนดแบบขั้นบันได เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงไม่ได้เน้นจัดเก็บจำนวนมาก เพราะเป็นช่วงเร่ิมแรกของการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน จึงไม่ต้องการให้ได้รับผลกระทบ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงไม่ได้รายได้สูงมากในช่วงแรก อย่างเช่น บ้านราคา 30 ล้านบาท ได้รับยกเว้น 20 บ้านบาทแรก จึงให้นำวงเงิน 10 ล้านบาทมาคำนวณแบบขั้นบันได หากเก็บภาษีร้อยละ 0.02 คิดเป็นภาระภาษีประมาณ 500 บาทต่อเดือน มองว่าหากคนมีรายได้สูงขนาดนั้นอาจไม่เป็นภาระมากนัก แต่สำหรับเกษตรกร ร้านค้าเชิงพาณิชย์พร้อมจัดเก็บให้เกิดความสมดุลระหว่างความเป็นธรรมและความเต็มใจสำหรับผู้ใช้ที่ดินเพื่อสาธารณะและสาธารณูปโภค เพื่อให้ร่วมใช้ร่วมจ่ายภาษีด้วยกัน เพื่อเร่ิมจัดเก็บจริงในปี 2562 เพราะต้องการผลักดันภาษีทรัพย์เกิดขึ้นให้ได้ในรัฐบาลนี้
สำหรับปัญหาการใช้บัตรสวัสดิการยังติดตั้งเครื่องรูดบัตรไม่ทั่วถึง เพื่อให้ร้านธงฟ้าประชารัฐติดตั้งเครื่องรูดบัตรได้ทันตามกำหนด รองรับการใช้จ่ายของประชาชน รัฐบาลจึงประสานความร่วมมือสถาบันการเงินเร่งรัดการติดตั้งเครื่องรูดบัตร คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้จะติดตั้งได้แล้วเสร็จ รองรับการใช้บัตรสวัสดิการของประชาชนในเดือนพฤศจิกายน สำหรับการโจมตีนโยบายดังกล่าวจากฝ่ายต่างๆ ยืนยันว่า การดูแลผู้มีรายได้น้อย เพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพ และนำค่าใช้จ่ายเดิมมาปรับแแผนการช่วยเหลือ ขณะนี้กำลังศึกษานำข้อมูลผู้ลงทะเบียนเดิมมาประเมินรายได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้เดินทางมาลงทะเบียนทุกปี นอกจาก นั้น เตรียมขยายการช่วยเหลือไปยังการส่งเสริมการออมระยะยาว เพื่อดูแลสังคมผู้สูงอายุ ให้มีความพร้อมในเรื่องการออมทั้งนอกระบบ ในระบบ ทั้งการซื้อประกันสุขภาพ การออมภาคบังคับ ภาคสมัครใจ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในการตระหนักความสำคัญของการออม ขณะนี้กฎหมายกองทุนบำเหน็จบำนาญแแห่งชาติ อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย