กรุงเทพฯ 4 ต.ค.-เหตุการณ์ปล้นเงินสด 196 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทย 60 ล้านบาท ถือเป็นเหตุอุกอาจกลางกรุงท้าทายตำรวจเป็นอย่างมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงสั่งระดมทีมสืบสวนคลี่คลายคดี ทีมข่าวอาชญากรรม สำนักข่าวไทย ลงพื้นที่หาเบาะแสสำคัญ
เหตุปล้นเงิน 196 ล้านเยน จากนักธุรกิจค้าเครื่องประดับ บริเวณลานจอดรถชั้น 5 คอนโดฯ ภายในซอยรัชดาภิเษก 30 เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตำรวจยังพุ่งเป้าไปที่คนใกล้ชิดผู้เสียหาย 9-10 คน ซึ่งรู้ความเคลื่อนไหวการขนเงินเป็นอย่างดี อีกทั้งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าป้อมยาม หน้าลิฟต์และภายในลิฟต์ รวมถึงบริเวณลานจอดรถชั้น 1-4 ไม่พบรถแปลกหน้าหรือบุคคลภายนอกเข้าออกก่อนเกิดเหตุตลอดทั้ง 2 วัน
เจ้าหน้าที่ประจำคอนโดฯ ระบุผู้เสียหายได้เช่าห้องพักบริเวณชั้น 15 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว จำนวน 2 ห้อง เปิดเป็นบริษัทมีพนักงานประจำประมาณ 6-10 คน ทุกคนมีคีย์การ์ดผ่านเข้า-ออกอาคารได้ และไม่พบบุคคลภายนอกเข้าออกในช่วงเวลาเกิดเหตุ สอดคล้องกับข้อมูลของตำรวจที่พบว่ากล้องวงจรปิดทุกตัว ไม่พบบุคคลภายนอกเข้าออกอาคารแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุเป็นจุดอับ ปลอดสายตาผู้คนและไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งปกติบริเวณนี้จะไม่มีใครขึ้นไปจอดรถ เพราะแสงสว่างน้อย มีเพียงกลุ่มผู้เสียหายเท่านั้นที่จอดรถในบริเวณนี้ นอกจากนี้ จากการเดินตรวจสอบที่เกิดเหตุของผู้สื่อข่าว ยังพบว่ามีประตูเหล็กเล็กๆ ด้านหลังลานจอดรถชั้น 5 เมื่อเปิดประตูเข้าไป จะพบเป็นบันไดหนีไฟ ซึ่งสามารถเดินขึ้นลงจากชั้น 1-5 ได้ ตลอดเส้นทางไม่พบกล้องวงจรปิดติดอยู่แต่อย่างใด เมื่อสอบถามผู้อยู่อาศัยภายในอาคาร ยอมรับคอนโดฯ หลังนี้มีทางเข้าออกหลัก 2 ทาง คือ ประตูหน้า ซึ่งต้องใช้คีย์การ์ดสแกนก่อนเข้า เมื่อเข้าประตูมาได้ สามารถขึ้นอาคารได้ 2 ช่องทาง คือ ผ่านทางลิฟต์หรือจะผ่านบันไดหนีไฟ
ส่วนอีกหนึ่งช่องทาง คือ ลานจอดรถ ก็สามารถขึ้นลงได้ 2 ทางเช่นเดียวกัน คือ ทางขึ้นลานจอดรถปกติและบันไดหนีไฟด้านหลัง ซึ่งมีเพียงคนในเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ เพราะเป็นจุดเปาะบางเรื่องความปลอดภัย หากคนร้ายจะใช้ทางนี้ขึ้นมาก่อเหตุก็มีความเป็นไปได้
เหตุปล้นเงิน 60 ล้านบาทครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งคดีใหญ่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ มีการระดมกำลังตำรวจทั้งนครบาล สอบสวนกลาง ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งล่าสุดตำรวจพบภาพไอ้โม่ง 4 คน ขับรถฟอร์ดสีส้มเลี้ยวซ้ายออกจากคอนโดฯ ที่เกิดเหตุ จึงมีความเป็นไปได้ว่า คนร้ายอาจใช้เส้นทางรัชดาภิเษก 30 หรือลาดพร้าว 23 หลบหนี
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 20.00 น. ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพร้อมตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีประชุมหารือแนวทางจับกุมตัวคนร้ายที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องตัวผู้ต้องสงสัยมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย