ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก “โฟโต้” ผู้ต้องหาฆ่าหนุ่มใหญ่หมกศพคอนโด

นนทบุรี 1 มิ.ย.-ตำรวจคุมตัว “โฟโต้” ผู้ต้องหาแทงหนุ่มใหญ่หมกศพคอนโด มาสอบสวนขยายผลต่อที่ สภ.เมืองนนทบุรี เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก ด้านพ่อผู้ต้องหา ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตและประชาชนทุกคน สิ่งที่ลูกทำลงไป ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

เมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 ควบคุมตัว นายภูริณัฐ หรือโฟโต้ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ก่อเหตุฆ่าโหด ใช้มีดปากคอและแทงตามร่างกาย นายไพศาล หรือโต๊ด อายุ 54 ปี พ่อค้าออนไลน์ทำธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสอง กว่า 10 แผล เสียชีวิต ในคอนโดฯ ย่านงามวงศ์วาน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อสอบปากคำและทำบันทึกจับกุม หลังจนมุมถูกจับกุมได้ที่บ้านพักญาติสนิทในพื้นที่จังหวัดชุมพร เมื่อช่วงบ่ายวานนี้


ซึ่ง “โฟโต้” ได้ใส่หมวกปีกกว้างลายพราง สวมแว่นดำ ปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิด หลบสื่อมวลชน เข้าบริเวณประตูด้านข้าง เข้าไปที่ห้องสอบสวน โดยมีการสอบปากคำ เบื้องต้นมีทนายความ และพ่อของผู้ต้องหา ร่วมฟังการสอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหายังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน ก่อนจะนำตัวเข้าห้องควบคุมและรอสอบปากคำอีกครั้ง ในช่วงเช้าวันนี้ โดยเบื้องต้น นายโฟโต้ จะถูกแจ้งดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เบื้องต้น รวม 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ และพกพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และในเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จะแถลงข่าวการจับกุมที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ด้าน นายพรชัย พ่อของโฟโต้ ผู้ต้องหา ได้ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวนายไพศาล ผู้เสียชีวิต และยังขอโทษ ประชาชน ที่ได้ดูข่าว สิ่งที่ลูกชายได้ทำลงไปและมีส่วนทำให้นายไพศาล เสียชีวิต คงต้องได้รับโทษตามกฎหมาย โดยที่ผ่านมาลูกไม่เคยบอกเล่าปัญหาใดๆ ให้ฟัง เมื่อวานเพิ่งได้พูดคุยกับภรรยา และไม่รู้ว่าลูกชได้ทำอะไรลงไปบ้าง แต่ก็ไปทำบุญให้นายไพศาล


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในชั้นจับกุมที่บ้านญาติในจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางเป็นทองแท่งน้ำหนักประมาณ 21 บาท ซึ่งผู้ต้องหา นำบัตรเครดิตของผู้เสียชีวิตไปตระเวนรูดซื้อหลังก่อเหตุ และบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่าทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียชีวิตมาได้ประมาณปีกว่าๆ และอ้างว่าผู้เสียชีวิตได้ โกงเงินไปจำนวน 5 ล้านบาท โดยวันเกิดเหตุตั้งใจจะไปพูดคุยเรื่องหนี้สิน แต่ผู้เสียชีวิตพยายามบ่ายเบียง ประกอบกับผู้เสียชีวิตเป็นคนรูปร่างใหญ่กลัวจะไม่ปลอดภัย โดยวันเกิดเหตุจะไปทวงถามเรื่องหนี้สินอีกครั้ง จึงได้แวะไปหาซื้อมีด เพื่อเตรียมไว้ป้องกันตัว หลังจากมีการพูดคุยกัน กลับถูกผู้เสียชีวิตด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงบันดาลโทสะคว้ามีดที่พกติดตัวไปกระหน่ำแทง ก่อนที่จะบังคับให้บอกเลขรหัสบัตรเครดิต รหัสปลดล็อกมือถือ จากนั้นก็นำไปซื้อทองคำแท่งแล้วหลบหนีไปต่างจังหวัด โดยเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นคู่ขาเกย์กับผู้เสียชีวิต ตามที่เป็นข่าว แค่ทำธุรกิจร่วมกันเท่านั้น

ด้าน แม่ของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ บอกว่า ลูกเล่าให้ฟังว่าได้ทำธุรกิจ แต่ลูกไม่เคยบอก ลูกเพิ่งมาบอกต่อหน้าตำรวจว่าผู้เสียชีวิตเอาเงินเขาไป 5 ล้าน เขาก็ไปขอคืน เมื่อได้จะเอามาคืนแม่ เพราะก่อนหน้านี้ เขาเอาเงินแม่ไป 2 ล้าน เมื่อไปทวง ผู้เสียชีวิตไม่ยอมจ่ายคืน และเป็นฝ่ายบีบคอเขาก่อน เขาก็เลยต้องป้องกันตัว โดยตอนเห็นข่าว ตามล่าฆาตกรสวมฮู้ดลากกระเป๋า แม่ก็เอ๊ะ มันคุ้น เหมือนเสื้อของลูกหมดทุกอย่าง ก็เค้นถามลูกตั้งแต่แรก แต่เขายังไม่ยอมบอก บอกแต่ว่าไม่ใช่เขา แค่คนหน้าเหมือน เดี๋ยวตำรวจก็จับคนร้ายได้เองแหละ

ส่วนที่ สภ.เมืองนนทบุรี พี่ชายและแม่ผู้เสียชีวิต เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยพี่ชายไม่เชื่อว่าน้องชาย ติดหนี้ผู้ต้องหา เพราะภาพจากการพูดคุยในลิฟท์ ถ้าสังเกตให้ดีในลิฟท์น้องชายจะถามเขาว่าทำไมไม่ออกกำลังกาย เขาบอกว่าไม่ค่อยมีตังค์ แล้วแบบนี้มันจะทำธุรกิจยังไง เรื่องนี้ขอฝากดูหลักความเป็นจริงด้วย ขณะที่แม่ผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าลูกไม่มีนิสัยที่จะโกง มีแต่จะให้เท่านั้น ที่เขามาอ้างแบบนี้รู้สึกโกรธมาก เป็นใครจะไม่โกรธ ทั้งนี้หากผู้ก่อเหตุ อยากจะมาขอขมาศพก็มาได้ แต่ส่วนตัวไม่ให้อภัย


ย้อนคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบศพนายไพศาล ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ใช้มีดปาดคอ และถูกแทงตามร่างกายกว่า 10 แผล เสียชีวิตในห้องพัก คอนโดแห่งหนึ่ง ถนนงามวงศ์วาน ใกล้กับกระทรวงสาธารณสุข หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน เร่งค้นหาพยานหลักฐาน และพบเบาะแสสำคัญของคนร้ายเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย บริเวณคอนโดที่เกิดเหตุ และขึ้นลงลิฟท์หลายครั้ง มีการวางแผนตระเตรียมการก่อเหตุมาอย่างดี ตั้งแต่การไปซื้อมีดก่อเหตุที่ห้างฯ ย่านรัชโยธิน ก่อนขึ้นแท็กซี่มาพบผู้ตายในวันที่ 20 พฤษภาคม หลังก่อเหตุ เมื่อวันที่ 25พ.ค. มีการไปตระเวนซื้อทองคำแท่งน้ำหนัก 23 บาท ที่ห้างย่านลาดพร้าว โดยใช้โทรศัพท์ของผู้ตาย ไปสแกน QR Code จากนั้นในวันที่ 26 พ.ค.จะย้อนกลับมาใช้บัตรเครดิตของผู้เสียชีวิตซื้อทองคำแท่งอีกครั้ง น้ำหนัก 5 บาท รวม 2 วัน คนร้ายได้ทำธุรกรรมซื้อทองคำแท่งไปน้ำหนัก 28 บาท มูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังนำโทรศัพท์ของผู้ตาย 2 เครื่อง ไปขายที่ห้างย่านปทุมวัน โดยคนร้ายได้สวมบัตรประชาชนของผู้ตาย และอ้างกับเจ้าของร้านทั้ง 2 แห่งว่า ไปศัลยกรรมมา จึงทำให้หน้าตาตัวจริง ไม่เหมือนกับรูปในบัตร

หลังก่อเหตุในพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้หลบหนีไปที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากนั้นเรียกแท็กซี่จากพัทยา ไปส่ง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วขึ้นรถทัวร์ต่อมาที่ชุมพร แต่ตีตั๋วลงปลายทางที่ จ.สุราษฎร์ธานี แล้วลงที่แยกปฐมพร จากนั้นได้โทรศัพท์ให้ญาตินำรถเก๋ง มารับไปยังบ้านญาติ ซึ่งเป็นอดีตผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งที่ ม.4 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากสี่แยกปฐมพร เพียง 20 กม. โดยบ้านของอดีตผู้นำท้องถิ่นรายนี้ อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม สายชุมพร-ระนอง เส้นทางเข้า จ.ชุมพร เพียง 400 เมตร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกในสวนทุเรียน กว่า 10 ไร่ และจากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาเป็นชาว จ.ชุมพร ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 4 ต.วังใหม่ จึงนำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ