ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก “โฟโต้” ผู้ต้องหาฆ่าหนุ่มใหญ่หมกศพคอนโด

นนทบุรี 1 มิ.ย.-ตำรวจคุมตัว “โฟโต้” ผู้ต้องหาแทงหนุ่มใหญ่หมกศพคอนโด มาสอบสวนขยายผลต่อที่ สภ.เมืองนนทบุรี เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก ด้านพ่อผู้ต้องหา ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตและประชาชนทุกคน สิ่งที่ลูกทำลงไป ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

เมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 ควบคุมตัว นายภูริณัฐ หรือโฟโต้ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ก่อเหตุฆ่าโหด ใช้มีดปากคอและแทงตามร่างกาย นายไพศาล หรือโต๊ด อายุ 54 ปี พ่อค้าออนไลน์ทำธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสอง กว่า 10 แผล เสียชีวิต ในคอนโดฯ ย่านงามวงศ์วาน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อสอบปากคำและทำบันทึกจับกุม หลังจนมุมถูกจับกุมได้ที่บ้านพักญาติสนิทในพื้นที่จังหวัดชุมพร เมื่อช่วงบ่ายวานนี้


ซึ่ง “โฟโต้” ได้ใส่หมวกปีกกว้างลายพราง สวมแว่นดำ ปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิด หลบสื่อมวลชน เข้าบริเวณประตูด้านข้าง เข้าไปที่ห้องสอบสวน โดยมีการสอบปากคำ เบื้องต้นมีทนายความ และพ่อของผู้ต้องหา ร่วมฟังการสอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหายังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน ก่อนจะนำตัวเข้าห้องควบคุมและรอสอบปากคำอีกครั้ง ในช่วงเช้าวันนี้ โดยเบื้องต้น นายโฟโต้ จะถูกแจ้งดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เบื้องต้น รวม 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ และพกพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และในเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จะแถลงข่าวการจับกุมที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ด้าน นายพรชัย พ่อของโฟโต้ ผู้ต้องหา ได้ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวนายไพศาล ผู้เสียชีวิต และยังขอโทษ ประชาชน ที่ได้ดูข่าว สิ่งที่ลูกชายได้ทำลงไปและมีส่วนทำให้นายไพศาล เสียชีวิต คงต้องได้รับโทษตามกฎหมาย โดยที่ผ่านมาลูกไม่เคยบอกเล่าปัญหาใดๆ ให้ฟัง เมื่อวานเพิ่งได้พูดคุยกับภรรยา และไม่รู้ว่าลูกชได้ทำอะไรลงไปบ้าง แต่ก็ไปทำบุญให้นายไพศาล


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในชั้นจับกุมที่บ้านญาติในจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางเป็นทองแท่งน้ำหนักประมาณ 21 บาท ซึ่งผู้ต้องหา นำบัตรเครดิตของผู้เสียชีวิตไปตระเวนรูดซื้อหลังก่อเหตุ และบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่าทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียชีวิตมาได้ประมาณปีกว่าๆ และอ้างว่าผู้เสียชีวิตได้ โกงเงินไปจำนวน 5 ล้านบาท โดยวันเกิดเหตุตั้งใจจะไปพูดคุยเรื่องหนี้สิน แต่ผู้เสียชีวิตพยายามบ่ายเบียง ประกอบกับผู้เสียชีวิตเป็นคนรูปร่างใหญ่กลัวจะไม่ปลอดภัย โดยวันเกิดเหตุจะไปทวงถามเรื่องหนี้สินอีกครั้ง จึงได้แวะไปหาซื้อมีด เพื่อเตรียมไว้ป้องกันตัว หลังจากมีการพูดคุยกัน กลับถูกผู้เสียชีวิตด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงบันดาลโทสะคว้ามีดที่พกติดตัวไปกระหน่ำแทง ก่อนที่จะบังคับให้บอกเลขรหัสบัตรเครดิต รหัสปลดล็อกมือถือ จากนั้นก็นำไปซื้อทองคำแท่งแล้วหลบหนีไปต่างจังหวัด โดยเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นคู่ขาเกย์กับผู้เสียชีวิต ตามที่เป็นข่าว แค่ทำธุรกิจร่วมกันเท่านั้น

ด้าน แม่ของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ บอกว่า ลูกเล่าให้ฟังว่าได้ทำธุรกิจ แต่ลูกไม่เคยบอก ลูกเพิ่งมาบอกต่อหน้าตำรวจว่าผู้เสียชีวิตเอาเงินเขาไป 5 ล้าน เขาก็ไปขอคืน เมื่อได้จะเอามาคืนแม่ เพราะก่อนหน้านี้ เขาเอาเงินแม่ไป 2 ล้าน เมื่อไปทวง ผู้เสียชีวิตไม่ยอมจ่ายคืน และเป็นฝ่ายบีบคอเขาก่อน เขาก็เลยต้องป้องกันตัว โดยตอนเห็นข่าว ตามล่าฆาตกรสวมฮู้ดลากกระเป๋า แม่ก็เอ๊ะ มันคุ้น เหมือนเสื้อของลูกหมดทุกอย่าง ก็เค้นถามลูกตั้งแต่แรก แต่เขายังไม่ยอมบอก บอกแต่ว่าไม่ใช่เขา แค่คนหน้าเหมือน เดี๋ยวตำรวจก็จับคนร้ายได้เองแหละ

ส่วนที่ สภ.เมืองนนทบุรี พี่ชายและแม่ผู้เสียชีวิต เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยพี่ชายไม่เชื่อว่าน้องชาย ติดหนี้ผู้ต้องหา เพราะภาพจากการพูดคุยในลิฟท์ ถ้าสังเกตให้ดีในลิฟท์น้องชายจะถามเขาว่าทำไมไม่ออกกำลังกาย เขาบอกว่าไม่ค่อยมีตังค์ แล้วแบบนี้มันจะทำธุรกิจยังไง เรื่องนี้ขอฝากดูหลักความเป็นจริงด้วย ขณะที่แม่ผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าลูกไม่มีนิสัยที่จะโกง มีแต่จะให้เท่านั้น ที่เขามาอ้างแบบนี้รู้สึกโกรธมาก เป็นใครจะไม่โกรธ ทั้งนี้หากผู้ก่อเหตุ อยากจะมาขอขมาศพก็มาได้ แต่ส่วนตัวไม่ให้อภัย


ย้อนคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบศพนายไพศาล ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ใช้มีดปาดคอ และถูกแทงตามร่างกายกว่า 10 แผล เสียชีวิตในห้องพัก คอนโดแห่งหนึ่ง ถนนงามวงศ์วาน ใกล้กับกระทรวงสาธารณสุข หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน เร่งค้นหาพยานหลักฐาน และพบเบาะแสสำคัญของคนร้ายเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย บริเวณคอนโดที่เกิดเหตุ และขึ้นลงลิฟท์หลายครั้ง มีการวางแผนตระเตรียมการก่อเหตุมาอย่างดี ตั้งแต่การไปซื้อมีดก่อเหตุที่ห้างฯ ย่านรัชโยธิน ก่อนขึ้นแท็กซี่มาพบผู้ตายในวันที่ 20 พฤษภาคม หลังก่อเหตุ เมื่อวันที่ 25พ.ค. มีการไปตระเวนซื้อทองคำแท่งน้ำหนัก 23 บาท ที่ห้างย่านลาดพร้าว โดยใช้โทรศัพท์ของผู้ตาย ไปสแกน QR Code จากนั้นในวันที่ 26 พ.ค.จะย้อนกลับมาใช้บัตรเครดิตของผู้เสียชีวิตซื้อทองคำแท่งอีกครั้ง น้ำหนัก 5 บาท รวม 2 วัน คนร้ายได้ทำธุรกรรมซื้อทองคำแท่งไปน้ำหนัก 28 บาท มูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังนำโทรศัพท์ของผู้ตาย 2 เครื่อง ไปขายที่ห้างย่านปทุมวัน โดยคนร้ายได้สวมบัตรประชาชนของผู้ตาย และอ้างกับเจ้าของร้านทั้ง 2 แห่งว่า ไปศัลยกรรมมา จึงทำให้หน้าตาตัวจริง ไม่เหมือนกับรูปในบัตร

หลังก่อเหตุในพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้หลบหนีไปที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากนั้นเรียกแท็กซี่จากพัทยา ไปส่ง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วขึ้นรถทัวร์ต่อมาที่ชุมพร แต่ตีตั๋วลงปลายทางที่ จ.สุราษฎร์ธานี แล้วลงที่แยกปฐมพร จากนั้นได้โทรศัพท์ให้ญาตินำรถเก๋ง มารับไปยังบ้านญาติ ซึ่งเป็นอดีตผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งที่ ม.4 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากสี่แยกปฐมพร เพียง 20 กม. โดยบ้านของอดีตผู้นำท้องถิ่นรายนี้ อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม สายชุมพร-ระนอง เส้นทางเข้า จ.ชุมพร เพียง 400 เมตร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกในสวนทุเรียน กว่า 10 ไร่ และจากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาเป็นชาว จ.ชุมพร ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 4 ต.วังใหม่ จึงนำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]