ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก “โฟโต้” ผู้ต้องหาฆ่าหนุ่มใหญ่หมกศพคอนโด

นนทบุรี 1 มิ.ย.-ตำรวจคุมตัว “โฟโต้” ผู้ต้องหาแทงหนุ่มใหญ่หมกศพคอนโด มาสอบสวนขยายผลต่อที่ สภ.เมืองนนทบุรี เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก ด้านพ่อผู้ต้องหา ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตและประชาชนทุกคน สิ่งที่ลูกทำลงไป ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

เมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 ควบคุมตัว นายภูริณัฐ หรือโฟโต้ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ก่อเหตุฆ่าโหด ใช้มีดปากคอและแทงตามร่างกาย นายไพศาล หรือโต๊ด อายุ 54 ปี พ่อค้าออนไลน์ทำธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสอง กว่า 10 แผล เสียชีวิต ในคอนโดฯ ย่านงามวงศ์วาน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อสอบปากคำและทำบันทึกจับกุม หลังจนมุมถูกจับกุมได้ที่บ้านพักญาติสนิทในพื้นที่จังหวัดชุมพร เมื่อช่วงบ่ายวานนี้


ซึ่ง “โฟโต้” ได้ใส่หมวกปีกกว้างลายพราง สวมแว่นดำ ปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิด หลบสื่อมวลชน เข้าบริเวณประตูด้านข้าง เข้าไปที่ห้องสอบสวน โดยมีการสอบปากคำ เบื้องต้นมีทนายความ และพ่อของผู้ต้องหา ร่วมฟังการสอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหายังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน ก่อนจะนำตัวเข้าห้องควบคุมและรอสอบปากคำอีกครั้ง ในช่วงเช้าวันนี้ โดยเบื้องต้น นายโฟโต้ จะถูกแจ้งดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เบื้องต้น รวม 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ และพกพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และในเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จะแถลงข่าวการจับกุมที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ด้าน นายพรชัย พ่อของโฟโต้ ผู้ต้องหา ได้ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวนายไพศาล ผู้เสียชีวิต และยังขอโทษ ประชาชน ที่ได้ดูข่าว สิ่งที่ลูกชายได้ทำลงไปและมีส่วนทำให้นายไพศาล เสียชีวิต คงต้องได้รับโทษตามกฎหมาย โดยที่ผ่านมาลูกไม่เคยบอกเล่าปัญหาใดๆ ให้ฟัง เมื่อวานเพิ่งได้พูดคุยกับภรรยา และไม่รู้ว่าลูกชได้ทำอะไรลงไปบ้าง แต่ก็ไปทำบุญให้นายไพศาล


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในชั้นจับกุมที่บ้านญาติในจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางเป็นทองแท่งน้ำหนักประมาณ 21 บาท ซึ่งผู้ต้องหา นำบัตรเครดิตของผู้เสียชีวิตไปตระเวนรูดซื้อหลังก่อเหตุ และบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่าทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียชีวิตมาได้ประมาณปีกว่าๆ และอ้างว่าผู้เสียชีวิตได้ โกงเงินไปจำนวน 5 ล้านบาท โดยวันเกิดเหตุตั้งใจจะไปพูดคุยเรื่องหนี้สิน แต่ผู้เสียชีวิตพยายามบ่ายเบียง ประกอบกับผู้เสียชีวิตเป็นคนรูปร่างใหญ่กลัวจะไม่ปลอดภัย โดยวันเกิดเหตุจะไปทวงถามเรื่องหนี้สินอีกครั้ง จึงได้แวะไปหาซื้อมีด เพื่อเตรียมไว้ป้องกันตัว หลังจากมีการพูดคุยกัน กลับถูกผู้เสียชีวิตด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงบันดาลโทสะคว้ามีดที่พกติดตัวไปกระหน่ำแทง ก่อนที่จะบังคับให้บอกเลขรหัสบัตรเครดิต รหัสปลดล็อกมือถือ จากนั้นก็นำไปซื้อทองคำแท่งแล้วหลบหนีไปต่างจังหวัด โดยเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นคู่ขาเกย์กับผู้เสียชีวิต ตามที่เป็นข่าว แค่ทำธุรกิจร่วมกันเท่านั้น

ด้าน แม่ของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ บอกว่า ลูกเล่าให้ฟังว่าได้ทำธุรกิจ แต่ลูกไม่เคยบอก ลูกเพิ่งมาบอกต่อหน้าตำรวจว่าผู้เสียชีวิตเอาเงินเขาไป 5 ล้าน เขาก็ไปขอคืน เมื่อได้จะเอามาคืนแม่ เพราะก่อนหน้านี้ เขาเอาเงินแม่ไป 2 ล้าน เมื่อไปทวง ผู้เสียชีวิตไม่ยอมจ่ายคืน และเป็นฝ่ายบีบคอเขาก่อน เขาก็เลยต้องป้องกันตัว โดยตอนเห็นข่าว ตามล่าฆาตกรสวมฮู้ดลากกระเป๋า แม่ก็เอ๊ะ มันคุ้น เหมือนเสื้อของลูกหมดทุกอย่าง ก็เค้นถามลูกตั้งแต่แรก แต่เขายังไม่ยอมบอก บอกแต่ว่าไม่ใช่เขา แค่คนหน้าเหมือน เดี๋ยวตำรวจก็จับคนร้ายได้เองแหละ

ส่วนที่ สภ.เมืองนนทบุรี พี่ชายและแม่ผู้เสียชีวิต เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยพี่ชายไม่เชื่อว่าน้องชาย ติดหนี้ผู้ต้องหา เพราะภาพจากการพูดคุยในลิฟท์ ถ้าสังเกตให้ดีในลิฟท์น้องชายจะถามเขาว่าทำไมไม่ออกกำลังกาย เขาบอกว่าไม่ค่อยมีตังค์ แล้วแบบนี้มันจะทำธุรกิจยังไง เรื่องนี้ขอฝากดูหลักความเป็นจริงด้วย ขณะที่แม่ผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าลูกไม่มีนิสัยที่จะโกง มีแต่จะให้เท่านั้น ที่เขามาอ้างแบบนี้รู้สึกโกรธมาก เป็นใครจะไม่โกรธ ทั้งนี้หากผู้ก่อเหตุ อยากจะมาขอขมาศพก็มาได้ แต่ส่วนตัวไม่ให้อภัย


ย้อนคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบศพนายไพศาล ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ใช้มีดปาดคอ และถูกแทงตามร่างกายกว่า 10 แผล เสียชีวิตในห้องพัก คอนโดแห่งหนึ่ง ถนนงามวงศ์วาน ใกล้กับกระทรวงสาธารณสุข หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน เร่งค้นหาพยานหลักฐาน และพบเบาะแสสำคัญของคนร้ายเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย บริเวณคอนโดที่เกิดเหตุ และขึ้นลงลิฟท์หลายครั้ง มีการวางแผนตระเตรียมการก่อเหตุมาอย่างดี ตั้งแต่การไปซื้อมีดก่อเหตุที่ห้างฯ ย่านรัชโยธิน ก่อนขึ้นแท็กซี่มาพบผู้ตายในวันที่ 20 พฤษภาคม หลังก่อเหตุ เมื่อวันที่ 25พ.ค. มีการไปตระเวนซื้อทองคำแท่งน้ำหนัก 23 บาท ที่ห้างย่านลาดพร้าว โดยใช้โทรศัพท์ของผู้ตาย ไปสแกน QR Code จากนั้นในวันที่ 26 พ.ค.จะย้อนกลับมาใช้บัตรเครดิตของผู้เสียชีวิตซื้อทองคำแท่งอีกครั้ง น้ำหนัก 5 บาท รวม 2 วัน คนร้ายได้ทำธุรกรรมซื้อทองคำแท่งไปน้ำหนัก 28 บาท มูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังนำโทรศัพท์ของผู้ตาย 2 เครื่อง ไปขายที่ห้างย่านปทุมวัน โดยคนร้ายได้สวมบัตรประชาชนของผู้ตาย และอ้างกับเจ้าของร้านทั้ง 2 แห่งว่า ไปศัลยกรรมมา จึงทำให้หน้าตาตัวจริง ไม่เหมือนกับรูปในบัตร

หลังก่อเหตุในพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้หลบหนีไปที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากนั้นเรียกแท็กซี่จากพัทยา ไปส่ง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วขึ้นรถทัวร์ต่อมาที่ชุมพร แต่ตีตั๋วลงปลายทางที่ จ.สุราษฎร์ธานี แล้วลงที่แยกปฐมพร จากนั้นได้โทรศัพท์ให้ญาตินำรถเก๋ง มารับไปยังบ้านญาติ ซึ่งเป็นอดีตผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งที่ ม.4 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากสี่แยกปฐมพร เพียง 20 กม. โดยบ้านของอดีตผู้นำท้องถิ่นรายนี้ อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม สายชุมพร-ระนอง เส้นทางเข้า จ.ชุมพร เพียง 400 เมตร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกในสวนทุเรียน กว่า 10 ไร่ และจากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาเป็นชาว จ.ชุมพร ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 4 ต.วังใหม่ จึงนำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

“วันหงส์แดงแห่งชาติ” ลิเวอร์พูลฉลองแชมป์สมัยที่ 20

25 พ.ค. – แฟนบอลลิเวอร์พูลในเมืองไทย จัดงาน “วันหงส์แดงแห่งชาติ” เฉลิมฉลองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สมัยที่ 20 โดยมี ยอห์น อาร์เน่ รีเซ ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล ร่วมขึ้นรถแห่ฉลอง.-สำนักข่าวไทย

งานวิ่งทิพย์ไร้ผู้จัด นักวิ่งกว่าพันคนโดนเท

กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – นักวิ่งนับพันคนโดนเทในงานวิ่งทิพย์ “Run for destination” แห่แจ้งความวุ่น ขณะที่สาวชุดดำ หนึ่งในสตาฟฟ์ โผล่มาคนเดียว ประกาศคืนเงินคนละ 10 บาท เรื่องวุ่นๆ ของคนรักวิ่ง เช้านี้ (25 พ.ค.) นักวิ่งถึงกับมึนเมื่อโดนผู้จัดงานเท กลายเป็นงานวิ่งทิพย์ มีแค่ซุ้มประตู เต็นท์กิจกรรม และรถห้องน้ำ แต่ไม่มีผู้จัด หนึ่งในสตาฟฟ์โผล่มาคนเดียว บอกไม่ได้อ่านไลน์กลุ่ม จึงไม่ทราบผู้จัดและทีมงานถอนตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว กลายเป็นวุ่นวายกันตั้งแต่ช่วงเช้า (25 พ.ค. 68) เมื่อนักวิ่งต่างแห่แชร์ในโลกโซเชียล งานวิ่ง Run For Destination 2025 เป็นงานวิ่งทิพย์ ตามกำหนดจัดขึ้นที่สวนหลวง ร.9 กรุงเทพฯ และทุกอย่างพร้อม นักวิ่งพร้อม แต่ไม่มีผู้จัดงาน โดนเทกันครั้งใหญ่ สำหรับงานวิ่ง Run For Destination 2025 มีกำหนดวิ่งในวันนี้ ที่สวนหลวง ร.9 […]

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจ ฮ.ตก

25 พ.ค. – พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้าน ผบ.ตร. สั่งเร่งสอบสวนหาสาเหตุ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาและให้กำลังใจครอบครัว ความคืบหน้ากรณีเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ 3 นายตำรวจ ประกอบด้วย พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี, ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 พ.ค.) ขณะเฮลิคอปเตอร์กำลังบินจาก […]

นายกฯ จ่อถกนอกรอบเมียนมา แก้น้ำท่วมเชียงราย

บน.6 25 พ.ค. – นายกฯ เตรียมถกนอกรอบเมียนมา แก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงราย บอกสถานการณ์คลี่คลายเร็ว เพราะเตรียมพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 46 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก ว่า เรื่องสารปนเปื้อนได้สั่งการแล้ว แต่ต้องดูรายละเอียดต่อ ซึ่งได้มีการคุยกันนอกรอบแล้ว และมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูเรื่องนี้ด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้คลี่คลายลงแล้ว มีการจัดตั้งโรงครัวดูแลพี่น้องประชาชน และจากที่พื้นที่แจ้งมา ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต น้ำท่วมครั้งนี้คลี่คลายได้เร็ว เพราะเรามีบทเรียนจากปีที่แล้ว ซึ่งตนได้สั่งการตั้งแต่ปีที่แล้วว่า เป้าหมายของเราจะทำอย่างไรไม่ให้แย่ไปกว่าเดิม ไม่ให้น้ำท่วมหนักเหมือนเดิม อะไรที่เคยเกิดขึ้นแล้วต้องเบาลงทุกอย่าง นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติอะไรก็ตาม จะต้องเบาลง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ฤดูฝนนี้เรามีการขุดลอกคูคลอง ซึ่งได้ทำไว้ตั้งแต่น้ำท่วมปีที่แล้ว จึงทำให้น้ำท่วมครั้งนี้ไม่หนัก ซึ่งถือว่าช่วยได้เยอะมาก ส่วนเส้นทางของน้ำที่เราตกลงกับเมียนมา ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ในส่วนของเราเริ่มแล้ว แต่บังเอิญทางเมียนมามีปัญหาเรื่องแผ่นดินไหว เขาจึงเริ่มช้ากว่าเรา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศและกองทัพคุยหมดแล้ว และเขาเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มแล้ว การที่ตนไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน […]