กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – สสว.ร่วมกับสถาบันอาหารนำผู้ประกอบการคลัสเตอร์มะพร้าวจาก 26 เครือข่าย เจรจาจับคู่ธุรกิจกับเทรดเดอร์ 17 บริษัทที่ไต้หวัน คาดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทในปีแรก
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยความคืบหน้าโครงการสนับสนุนเครือข่ายเอสเอ็มอีปี 2560 ในกลุ่มอุตสาหกรรมมะพร้าว ว่า วันที่ 20 – 22 กันยายนที่ผ่านมาสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นำคณะผู้ประกอบการสมาชิกเครือข่ายมะพร้าวที่ได้รับคัดเลือก 26 ราย จากหลายจังหวัด อาทิ ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฏร์ธานี เป็นต้น เดินทางไปประเทศไต้หวัน เพื่อศึกษาดูงานสำรวจตลาดค้าปลีก พร้อมเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปที่มีชื่อเสียง อาทิ บริษัท I-MEI FOODS จำกัด และเจรจาจับคู่ธุรกิจกับบริษัทนำเข้าและค้าส่งของไต้หวันรวม 17 บริษัท
นายยงวุฒิ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์มะพร้าวน้ำหอมของไทยได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์ไต้หวันค่อนข้างมากทั้งที่เป็นมะพร้าวผลสดตัดแต่งแบบเจียและน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มบรรจุขวด/กระป๋อง เนื่องจากมะพร้าวน้ำหอมของไทยจากภาคกลาง อาทิ ราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม จะมีรสชาติและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในตลาดไต้หวัน นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจน้ำมันมะพร้าว มะพร้าวแก้ว และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวในกลุ่มเครื่องสำอางและอื่น ๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอรวบรวมคำสั่งซื้อ คาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทในปีแรก หลังประสบผลสำเร็จในตลาดจีนจากการนำผลิตภัณฑ์ไปออกบูธในงานมหกรรมอาหาร FHW CHINA 2017 ซึ่งมีมูลค่าคำสั่งซื้อประมาณ 100 ล้านบาท และปลายเดือนกันยายนนี้เตรียมไปเปิดตลาดที่เวียดนามในลำดับต่อไป
นอกจากนี้ ได้จัดทำความร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายในประเทศ โดยการเจรจาจับคู่ธุรกิจกับห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีก-ส่งสมัยใหม่หลายแห่ง เพื่อขยายช่องทางการทำตลาดในประเทศอีกด้วย ทั้งส่งเสริมการทำตลาดออนไลน์ โดยการจัดทำ E-Market Place ผ่านทางเว็บไซต์ shopee และผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มคลัสเตอร์ทั้งหมด 26 เครือข่ายในรูปแบบเว็บไซต์ Coconut Pavilion เพื่อเชื่อมโยงสู่ผู้บริโภคโดยตรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุดวันที่ 26 กันยายนนี้เตรียมแถลงผลสำเร็จโครงการฯ พร้อมจัดประกวดและมอบรางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์มะพร้าวไทยให้แก่เครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการสื่อสารแบรนด์มะพร้าวไทย ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่สมาชิกเครือข่ายและต่อยอดไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย