กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – ก.พลังงานพร้อมนำเงินกองทุนน้ำมันฯ ดูแลราคาแอลพีจี กบง.เดือนตุลาคมเตรียมพิจารณาแนวทางรับซื้อโซลาร์รูฟท็อป เบื้องต้นต่ำกว่า 2.60 บาท
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนา Energy Symposium 2017 เรื่อง Energy 4.0 โอกาสอุตสาหกรรมไทย ซึ่งจัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ว่า ยอมรับว่าคาดการณ์ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ตลาดโลกผิดคาด เนื่องจากปกติช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนจะเป็นช่วงขาลงและจะปรับขึ้นช่วงสิ้นปี แต่ปีนี้ราคาเริ่มปรับขึ้นเร็ว ทำให้ราคาขายปลีกแอลพีจี 2 เดือนนี้สูงขึ้นผิดปกติ และนับจากช่วงนี้ไปจนถึงต้นปีเป็นช่วงเข้าฤดูหนาว ดังนั้น ราคาแอลพีจีตลาดโลกจึงมีทิศทางทรงตัวหรือปรับสูงขึ้น จากราคาเดือนกันยายนอยู่ที่ประมาณ 490 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานจะดูแลไม่ให้ราคาผันผวนมากเกินไปโดยนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีแอลพีจีที่เหลือประมาณกว่า 5,800 ล้านบาทมาดูแล ซึ่งหากหมดก็อาจนำเงินบัญชีน้ำมัน 32,700 ล้านบาทมาดูแล
“เงินกองทุนน้ำมันฯ 5,800 ล้านบาท หากราคาไม่เปลี่ยนแปลงคงจะใช้ดูแลได้อีก 10 เดือนเท่านั้น แต่ละครั้งพยายามจะไม่ให้เกินถังละ 10 บาทต่อกิโลกรัม (ถัง 15 กก.)” รมว.พลังงาน กล่าว
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เดือนตุลาคมจะมีการพิจารณาแนวทางการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัยหรือโซลาร์รูฟท็อปในส่วนที่เหลือใช้ โดยอัตราการรับซื้อเบื้องต้นจะต้องต่ำกว่าราคาขายส่งที่ปัจจุบันอยู่ที่ 2.60 บาทต่อหน่วย และคาดว่าจะประกาศรับซื้อได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยหลักการจะส่งเสริมให้ผลิตเองใช้เองก่อนที่เหลือจึงจะขายได้ แต่การรับซื้อจะแบ่งเป็นประเภททั้งบ้านอยู่อาศัยและประเภทธุรกิจ โดยอัตราค่าไฟที่รับซื้อจากส่วนเกินประเภทบ้านที่อยู่อาศัยจะให้ราคาที่สูงกว่าธุรกิจ.-สำนักข่าวไทย