1 ก.ย.ยกเลิกปิดแสตมป์จดทะเบียนนิติบุคคล

นนทบุรี  31 ส.ค. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอำนวยความสะดวกผู้ประกอบธุรกิจ ยกเลิกการปิดอากรแสตมป์ในเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคลทุกประเภท เปลี่ยนเป็นชำระเงินสดแทน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป


นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560          นี้เป็นต้นไปกรมพัฒนาธุรกิจการค้ายกเลิกการปิดอากรแสตมป์ในเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคลทุกประเภท โดยเปลี่ยนเป็นชำระเงินสดแทน เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจ

ทั้งนี้ เนื่องจากกรมฯ ได้ดำเนินการพัฒนาระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) เพื่อปรับปรุงระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลให้มีความทันสมัยและสามารถให้บริการรับจดทะเบียนฯ ได้อย่างครบวงจร โดยการพัฒนาดังกล่าวได้มีการปรับปรุงกระบวนการจดทะเบียนฯ รวมทั้งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการปรับเปลี่ยนกระบวนการจดทะเบียนฯ ไปใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับการชำระค่าอากรแสตมป์สำหรับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนฯ บางประเภท เช่น หนังสือบริคณห์สนธิ ข้อบังคับ และหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น ซึ่งเดิมใช้วิธีการปิดอากรแสตมป์เป็นดวง แต่ในการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น ไม่สามารถชำระค่าอากรแสตมป์โดยใช้วิธีการดังกล่าวได้ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการชำระค่าอากรแสตมป์ใหม่โดยให้ชำระเป็นตัวเงินแทน


นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าวว่า กรมสรรพากรภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 56) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ 27 เมษายน 2560 และเสนอออกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการรับชำระและนำส่งเงินค่าอากรแสตมป์จากการจดทะเบียนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงิน เช่น การออกใบเสร็จรับเงิน การนำเงินส่งคลัง การทำรายงาน และการหักเงินค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บอากรแสตมป์ เป็นต้น โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2560 เป็นต้นไป

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2560 และได้มีการรับชำระค่าอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับเอกสารจดทะเบียนที่ยื่นผ่านระบบ e-Registration ดังกล่าว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่สำหรับการยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านช่องทางปกตินั้น กรมฯ จะเริ่มรับชำระค่าอากรแสตมป์เป็นตัวเงินสำหรับเอกสารจดทะเบียนที่ยื่นผ่านช่องทางปกติพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ดังนั้น ผู้ขอจดทะเบียนจึงไม่ต้องใช้วิธีชำระค่าอากรแสตมป์โดยปิดอากรแสตมป์เป็นดวงอีกต่อไป แต่เปลี่ยนมาเป็นการชำระด้วยเงินสดแทน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย