เมืองทองธานี 28 พ.ค. – งาน THAIFEX – World of Food Asia 2019 หวังนำสินค้าไทย นวัตกรรมสู่สายตาต่างชาติ ทั้ง อาหารและเครื่องดื่ม ผู้ร่วมงานทั่วโลก 106 ประเทศ สร้างมูลค่าการซื้อขาย 11,500 ล้านบาท หวังงัดกลยุทธ์จับมือกับประเทศเพื่อนบ้านบุกทำตลาดร่วมกัน
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า THAIFEX – World of Food Asia เป็นงานแสดงสินค้าและเครื่องดื่มระดับนานาชาติจัดขึ้นปีที่ 28 ยังร่วมมือกับโคโลญเมสเซ่ จากเยอรมนี ร่วมจัดด้านอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลกมาร่วมแสดงสินค้า เพื่อนำผู้ประกอบการ โชว์เทคโนโลยีและบริการทางด้านอาหารเปิดโอกาสให้ผู้ชมงานได้มาอัพเดตสถานการณ์และเทรนด์ของธุรกิจอาหารที่มีความทันสมัย หวังส่งเสริมภาพลักษณ์อาหารไทยไปสู่ครัวของโลก การส่งเสริมนวัตกรรมและการออกแบบในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร การนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้สูงอายุ การแสดงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่น นิทรรศการเทรนด์อาหารของโลกการคัดสรรจากพาณิชย์จังหวัดกว่า 104 บริษัท เพื่อนำสินค้าอาหารอนาคตและสตาร์ทอัป มาสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่
ทั้งนี้ การจัดงานแต่ละครั้งจะมีมูลค่าการซื้อขายและก่อให้เกิดการส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 10,000 ล้านบาท ครั้งนี้มีผู้ประกอบการจาก 40 ประเทศทั่วโลก อาทิ เอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอมริกา ลาตินอเมริกา แอฟริกา ร่วมพร้อมใจกันมาจัดแสดงสินค้ารวมกว่า 2,700 บริษัท 6,000 คูหา มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้ากว่า 7,300 คน จาก 106 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ อเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินเดีย คาดว่าตลอด งานจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 130,000 คน และมีมูลค่าการซื้อขาย 11,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อขายวันเจรจาการค้า 11,445 ล้านบาท และการจำหน่ายปลีก 55 ล้านบาท
“ยอมรับว่าการส่งออกชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ในวันศุกร์นี้เตรียมหารือกับทูตพาณิชย์ เพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออกร่วมกัน แม้การส่งออกจะไม่ขยายตัว แต่ยังส่งออกเท่ากับปีที่ผ่านมา เพราะไม่ใช่ไทยเผชิญปัญหาเพียงประเทศเดียว แต่หลายประเทศเจอปัญหาเดียวกัน จึงต้องงัดกลยุทธ์จับมือกับประเทศเพื่อนบ้านบุกทำตลาดร่วมกัน รวมถึงการส่งเสริมให้เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ นำงานวิจัย นวัตกรรม พัฒนาสินค้า เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านเทคโนโลยีใหม่ โดยหาประสบการณ์จากงาน THAIFEX – World of Food Asia” นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารเปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดและอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ผู้ผลิตจึงต้องคำนึงถึงความต้องการด้านดังกล่าวเพิ่มขึ้น ขณะนี้ไทยให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านเทคโนโลยีมากที่สุดในอาเซียน โดยเฉพาะการลงทุนทางด้านซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น แอพพลิเคชั่นบนมือถือที่พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกผู้บริโภค ดังนั้น งาน THAIFEX – World of Food Asia ปีนี้ จึงหวังสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากลสอดคล้องกับการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของไทย หวังนำสินค้าอาหารและเครื่องดื่มขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในเอเชียสำหรับผู้ซื้อทั้งในภูมิภาคนี้และทั่วโลก
ทางด้านนายแมธเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคโลญเมสเซ่ จำกัด เปิดเผยว่า งาน THAIFEX-World of Food Asia ให้ความสำคัญกับการเจรจาทางธุรกิจเป็นอันดับหนึ่ง จึงเพิ่มช่องทางออนไลน์เพื่อให้เกิดการจับคู่ทางธุรกิจสะดวกยิ่งขึ้น และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงให้ความสำคัญกับการบริการ โดยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนและการเดินทางให้กับผู้ร่วมเจรจาธุรกิจรวมทั้งผู้เข้าร่วมงานทุกคน สำหรับงาน THAIFEX – World of Food Asia 2019 จัดขึ้นบนพื้นที่กว่า 131,000 ตารางเมตร ที่อิมแพคเมืองทองธานี ชาเลนเจอร์ฮอล์ 1-3 และเอ็กซิบิชั่นฮอล์ 5-12 วันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2562 โดยวันที่ 28–31 พฤษภาคม เวลา 10.00 – 18.00 น. เป็นวันเจรจาธุรกิจ ส่วนวันที่ 1 มิถุนายน เวลา 10.00 – 20.00 น. เป็นวันเจรจาธุรกิจและจำหน่ายปลีก.-สำนักข่าวไทย