ประจวบคีรีขันธ์ 15 ส.ค.- หน.อช.แก่งกระจานเผยปัญหาช้างป่าหากินนอกเขตต้องเร่งแก้ไขให้ชัดเจนทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะการบุกพื้นที่ป่ากระทบแหล่งอาหารของสัตว์ป่า ด้านกรมอุทยานฯ เป็นห่วงเตรียมประชุม 16 ส.ค.นี้
นายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยถึงปัญหาช้างป่าละอูออกมาหากินนอกเขตว่า วันที่ 16 สิงหาคมนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะประชุมเชิงปฏิบัติการที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อร่วมแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นจะสำรวจพื้นที่เพื่อสร้างแหล่งน้ำและแหล่งอาหารในพื้นที่ป่าธรรมชาติจำนวน 3 จุด ส่วนระยะยาวคือ จัดการปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งเรื่องนี้จะต้องประสานกับหลายหน่วยงานดำเนินการอย่างจริงจัง รวมทั้งหน่วยงานระดับพื้นที่จัดสรรงบทำรั้วกั้นช้าง ล่าสุดมีช้างป่าละอูเข้ามากินทุเรียนที่เก็บไว้รอจำหน่ายในอาคารสำนักงานสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ผนังอาคารพังและผลผลิตเสียหาย
นางสุนันทา พิมพ์ไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ช่วงนี้ได้รับการร้องเรียนกรณีมีช้างป่าเข้ามาหากินในสวนทุเรียน และ อบต.ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณมาเยียวยาได้ ดังนั้น แนวทางป้องกันทาง อบต.ได้เสนองบประมาณ 29 ล้านบาท เพื่อทำสร้างรั้วกันช้างป่าความยาว 15 กิโลเมตร ซึ่งในปีงบประมาณ 2561 ทราบว่าจะได้รับการจัดสรรงบมา 15 ล้านบาท
นายกิตติกรณ์ เทพอยู่อำนวย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสารณภัย ( ปภ.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ปัญหาช้างป่าละอูทำลายพืชสวนในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เป็นปัญหาสำคัญที่หลายฝ่ายต้องประสานงานแก้ไข เพื่อไม่ให้มีผลกระทบและเกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า จากการสำรวจล่าสุดพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น กระทบต่อระบบนิเวศวิทยาพื้นที่ธรรมชาติของสัตว์ป่า ประกอบกับพฤติกรรมของช้างป่าในปัจจุบันใกล้เคียงกับช้างบ้านมีทั้งการออกมาเดินตามถนน ขณะที่การไล่ด้วยประทัดยักษ์เป็นวิธีที่ปลอดภัยและใช้มานาน ช้างอาจเกิดความคุ้นเคย.-สำนักข่าวไทย