อุทยานทางทะเลเริ่มใช้ E-Ticket เต็มรูปแบบ 15 ต.ค.นี้

กรุงเทพฯ 29 เม.ย. – กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เตรียมเดินหน้าใช้ระบบ E-Ticket เต็มรูปแบบในอุทยานแห่งชาติทางทะเล 15 ตุลาคมนี้ ครอบคลุมถึงอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่บนบก เพื่อลดการรั่วไหลของรายได้และเพิ่มความโปร่งใสในการจัดเก็บค่าบริการ พร้อมขยายระบบครอบคลุมอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่บนบก


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ระบบ E-Ticket เป็นกลไกสำคัญในการควบคุมการจัดเก็บรายได้ของอุทยานแห่งชาติ โดยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีกำหนดเริ่มใช้ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี พังงา สุรินทร์ และสิรินาถ ซึ่งมีรายได้รวมคิดเป็น ครึ่งหนึ่งของรายได้อุทยานฯ ทั่วประเทศ ระบบใหม่จะดำเนินการในรูปแบบ ดิจิทัล 100% ไม่มีการขายบัตรหน้าด่านหรือเงินสด โดยนักท่องเที่ยวต้องซื้อบัตรผ่าน QR Code, Online หรือ Kiosk ที่จัดตั้งไว้บริเวณทางเข้า

ระบบใหม่จะช่วยควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับขีดความสามารถของพื้นที่ (Carrying Capacity) พร้อมติดตั้งทุ่นจอดเรือ ทุ่นกันแนว ท่าเทียบเรือลอยน้ำ กล้องวงจรปิด และระบบสแกนบัตร เพื่อรองรับการใช้งาน E-Ticket อย่างครบวงจร โดยเฉพาะในอุทยานทางทะเลซึ่งไม่มีระบบประตูตรวจสอบเหมือนอุทยานฯ บนบก


ทั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ มีนโยบายบริหารพื้นที่กว่า 73 ล้านไร่ หรือ 23% ของพื้นที่ประเทศ มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ การท่องเที่ยว และการวิจัย โดยมีแนวทางปฏิบัติ 6 ด้าน ได้แก่

  1. จัดโซนพื้นที่ตามศักยภาพ แบ่งเขตหวงห้ามและเขตท่องเที่ยว
  2. กำหนดขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity) พร้อมใช้ E-Ticket ควบคุม
  3. บังคับใช้กฎระเบียบอุทยานฯ เข้มงวด ห้ามให้อาหารสัตว์ ห้ามอาวุธ
  4. เพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและสุภาพ
  5. พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกตามหลัก Universal Design พร้อมระบบประกันอุบัติเหตุ
  6. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น แบ่งรายได้ 5% ให้ อปท.

นายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ในช่วง 1 ต.ค.67-20 เม.ย.68 มีนักท่องเที่ยวเข้าอุทยานทั่วประเทศ 11.74 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.36% สร้างรายได้ 1,551.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% โดยงบประมาณปี 68 วงเงิน 2,199.72 ล้านบาท ใช้จ่ายไปแล้ว 99.19% แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 68.93% และรายจ่ายตามภารกิจ 31.07% ยืนยันความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินอุทยานฯ ปี 68 อนุมัติแล้ว 99.19% ของงบ 2,181 ล้านบาท แบ่งเป็น
• งบคืนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5%
• งบบริหารจัดการอุทยานฯ 20%
• งบอนุรักษ์ ฟื้นฟู 60%
• งบสำรองเร่งด่วน 15%


พร้อมปรับเพิ่มสวัสดิการเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า กรณีเสียชีวิตจากปะทะ ลาดตระเวน หรือถูกสัตว์ป่าทำร้าย จาก 5 แสนบาท เป็น 1 ล้านบาท และเสียชีวิตจากเหตุอื่นๆ เพิ่มเป็น 5 แสนบาท รวมถึงช่วยเหลือกรณีพิการสูงสุด 1 ล้านบาท ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ 18,533 คน ทั่วประเทศ

นายอริยะ เชื้อชม ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยว่า ระบบ E-Ticket นี้จะช่วย แก้ปัญหาการสวมสิทธิ์บัตรคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัททัวร์ที่อาจซื้อบัตรราคาคนไทยแต่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ซึ่งระบบใหม่จะตรวจสอบยอดนักท่องเที่ยวจริงที่ลงพื้นที่เทียบกับข้อมูลในระบบ หากไม่ตรงจะถูกเรียกเก็บค่าปรับทันที

กรมอุทยานฯ ยังเดินหน้าพัฒนา E-National Park ขยายการใช้งาน E-Ticket ครอบคลุม 133 อุทยานฯ ทั้งทางทะเลและทางบก โดยเชื่อมโยงกับฐานข้อมูล ThaiID ลดขั้นตอนกรอกข้อมูลและยืนยันตัวตน พร้อมรองรับ Mobile App, Website, EDC และ QR Code เพื่อความสะดวกในการชำระเงิน นอกจากนี้ยังเตรียมหาแหล่งงบประมาณเพิ่มเติมจากหน่วยงาน เช่น ป.ป.ช. เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

นายอรรถพล ยืนยันว่า รายได้จากอุทยานแห่งชาติเป็นงบประมาณหลักในการขับเคลื่อนภารกิจ ของกรมฯ จึงไม่ปล่อยให้เกิดการรั่วไหลหรือทุจริต พร้อมเปิดโอกาสให้หน่วยงานภายนอกเข้าตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]