กนช. มีมติให้กรมทรัพยากรน้ำ มาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี

ทำเนียบฯ 9 ส.ค.- กนช. มีมติให้กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การทำงานมีเอกภาพ บูรณาการอย่างยั่งยืน รวดเร็วทันสถานการณ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำท่วม


นายวรศาสตร์ อภัยพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 2/2560 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติให้กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างมีเอกภาพ มีการบูรณาการการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และเป็นไปอย่างรวดเร็ว 

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการบริหารจัดการน้ำ ต้องประสานงานหลายหน่วยงาน ดังนั้น การให้กรมทรัพยากรน้ำมาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะทำให้สามารถรับข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ได้โดยตรง เพื่อให้เกิดการประสานการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ โดยการปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะไม่มีอุปสรรค เพราะทางกรมมีโครงสร้างการทำงานในลักษณะนี้อยู่แล้ว ส่วนจะมีการเปลี่ยนชื่อเป็น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือไม่ จะต้องรอกระบวนการปรับเปลี่ยนตามกฎหมายที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีการออกคำสั่งตามมาตรา 44 มาดำเนินการและคงใช้เวลาไม่นาน


“นายกรัฐมนตรีมองว่า ประสิทธิภาพยังไม่ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะภาวะฉุกเฉิน ภาวะน้ำท่วม อีกหน่อยก็จะมีภาวะภัยแล้ง ท่านอยากให้การแก้ปัญหาดังกล่าว เบ็ดเสร็จรวดเร็ว จึงมีนโยบายให้กรมทรัพยากรน้ำมาขึ้นตรงสำนักนายกรัฐมนตรี” อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าว

นายวรศาสตร์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณฝนสะสมสูงกว่าค่าปกติ ร้อยละ 43 และจากการคาดการณ์ปริมาณฝน พบว่า เดือนสิงหาคม-กันยายน นี้ จะมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมถึงภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนในช่วงเดือนตุลาคม มีโอกาสที่พายุจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ หรือผ่านภาคใต้ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น ทั้งนี้ ต้องขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและรับฟังคำเตือนจากหน่วยงานราชการต่อไป

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ โดยน้อมนำแนวทางพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการน้ำ ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงทั้งน้ำแล้ง และน้ำท่วม ในทั้ง 4 ภาค รวมถึงพื้นที่กรุงเทพมหานครและการป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ รวมถึงแผนป้องกันอุทกภัยเฉพาะพื้นที่ ให้แก้ไขปัญหาไม่น้อยกว่าร้อยละ 30-50 ในช่วง 2 ปีแรก (ปี 2560-2562) พร้อมทั้งเร่งจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำให้แล้วเสร็จ โดยให้ทุกหน่วย ส่งข้อมูลให้ กนช. นำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในหนึ่งเดือน นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ที่จังหวัดนครราชสีมา จะมีการหารือถึงแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งระบบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย               


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส