เร่งยื่นหลักฐานผ่านกลไกออตตาวา ปมเขมรลอบวางทุ่นระเบิด

กระทรวงการต่างประเทศ 18 ส.ค.- โฆษก กต. เผยทูตไทยประจำกรุงเจนีวา เร่งเดินหน้ายื่นหลักฐานต่อกลไกอนุสัญญาออตตาวา เหตุเขมรลอบวางทุ่นระเบิดในไทย จ่อประชุมครั้งต่อไป 22 ส.ค.นี้


นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค.68 ที่ผ่านมา มีการจัดคณะลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนทางกัมพูชาที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยผู้ช่วยรัฐมนตรีการต่างประเทศ กองทัพบก และกระทรวงมหาดไทย พร้อมเชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา องค์กรภาคประชาสังคมเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมทั้งสื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนต่างประเทศ เพื่อสังเกตการณ์จัดสถานที่จริงเกี่ยวกับเหตุ ระหว่างลอบวางทุ่นระเบิดในดินแดนไทยของฝ่ายกัมพูชา

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้มีการบรรยาสรุปเกี่ยวกับข้อเท็จจริงลำดับเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบระเบิดทุ่มระเบิดในดินแดนไทน ซึ่งมีการสังเกตภารกิจการเก็บกู้ระเบิดในสถานที่จริงของหน่วยปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม โดยหน่วยทหาร บริเวณภูมะเขือจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้เห็นหลักฐานการวางทุ่นสังหารบุคคลของฝ่ายกัมพูชาในดินแดนไทย โดยคณะได้รับทราบข้อเท็จจริงจากหน่วยปฏิบัติการจริงพร้อม เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มีการวางระเบิดใหม่ซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บและทุพพลภาพถาวร รวมถึงส่งผลกระทบต่อประชาขนและสังคมในระยะยาว


นอกจากนี้คณะได้สังเกตการณ์ว่าได้รับประชาชนในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของฝ่ายกัมพูชา พร้อมทั้งได้รับทราบการดำเนินการให้ความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อย้ำว่ากัมพูชารอบวางทุนระเบิดดังกล่าวในดินแดนไทย ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย การกระทำของกัมพูชายังขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมถึงพันธะกรณีตาม อนุสัญญาออตตาวา ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นภาคี นอกจากนี้เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซึ่งกำหนดให้ทั้งสองฝ่ายยุติการใช้อาวุธทุกชนิด และไม่รอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลด้วย

นอกจากนี้ การลงพื้นที่ยังให้ประชาคมระหว่างประเทศ ทบทวนการช่วยเหลือที่ให้กัมพูชาเก็บกู้ทุ่มระเบิด และร่วมกันกดดันให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธะกรณี ที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่มีความรับผิดชอบ

ส่วนการดำเนินการของไทย ภายใต้อนุสัญญาออตตาวา กระทรวงการต่างประเทศมีการประท้วงโดยตรงไปยังกัมพูชาทุกครั้ง รวมไปถึงส่งไปยังประธานอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย เกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ในเวทีพหุภาคีเอกอัครราชทูตถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ทั้งที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ทำงานอย่างแข็งขัน ในการขับเคลื่อนอนุสัญญาออตตาวายิ่งขึ้น ฝ่ายไทยได้จุดชนวนทางการ ภายใต้กรอบอนุสัญญาว่าก่อนที่จะจะถึงการประชุมรัฐภาคีในเดือนธันวาคมปีนี้เพื่อชี้ชัดเรื่องการละเมิดอนุสัญญาที่เกิดขึ้น กดดันให้ปฏิบัติตามพันธะกรณีของตน


ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูต ประจำกรุงเจนีวา ได้เข้าประชุมเรื่องรายละเอียดการละเมิดอนุสัญญาของกัมพูชา ซึ่งจะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 22 ส.ค.นี้ โดยจะเข้าร่วมอีกเช่นกันเพื่อนำเสนอข่อเท็จจริงและหลักฐานเพิ่มเติมทั้งหมดนี้ ขอยืนยันว่าคณะกรรมการดังกล่าวเป็นกลไกอนุสัญญาออตตาวาที่ให้ประเทศภาคีที่ถูกกระทำอย่างไทย ได้นำเรื่องไปเป็นหนึ่งในข้อพิจารณาของคณะกรรมการ เพื่อสร้างแรงกดดันให้ประเทศภาคีที่ละเมิดอนุสัญญาเข้ามาชี้แจงและแก้ไข

ขณะที่กรอบทวิภาคี ไทยได้แสดงความผิดหวังอย่างยิ่งที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (16 ส.ค.68) และการที่กัมพูชาโดย CMAA แถลงเมื่อเช้านี้โดยอ้างเหตุการณ์ไปนานา ซึ่งเป็นท่าทีที่ย้อนแย้งของกัมพูชาซึ่งกล่าวว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงอย่างถูกใช้อยู่และยังคงอยู่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและข้อตกลงหยุดยืนอย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตความปลอดภัยของมนุษย์ที่ประชาชนของทั้งสองประเทศ

ส่วนที่มีการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนเพื่อให้เกิดความสับสนโดยผู้อำนวยการ CMAC ขอยืนยันอีกครั้งว่าฝ่ายไทยได้นำท่อนระเบิดที่ตรวจพบทั้งในสองลักษณะได้แก่ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ได้นำไปติดตั้ง และทุ่นระเบิดที่ติดตั้งแล้วรวมทั้งได้นำเสนอชิ้นส่วนของท่อระเบิดที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสและทำให้ทหารไทยพิการไปแล้วซึ่งถูกเก็บกดมาจากบริเวณที่ทหารกับกัมพูชาเคยวางกำลังอยู่ไม่มีการบิดเบือนและไม่มีการจัดฉากใด ๆ การสื่อสารท่าทีของกัมพูชาในเรื่องนี้แสดงถึงความย้อนแย้งในเชิงหลักการของกัมพูชาอย่างชัดเจนอย่างไรก็ตามกระทรวงการต่างประเทศจะเดินหน้าให้กัมพูชามาร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ระเบิดอย่างจริงจังและจริงใจ พร้อมให้ หน่วยงานระหว่างประเทศมาตรวจสอบอย่างชัดเจน

ขณะที่การลงพื้นที่ของผู้สังเกตการณ์ชั่วคราววันนี้จนถึงวันพุธที่ 20 สิงหาคมกองทัพไทยอยู่ระหว่างการนำผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมติจีบีซีสมัยสามัญ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีศรีสะเกษและสุรินทร์ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ช่วยโทษฝ่ายทหารจากฝ่ายประเทศได้แก่มาเลเซียบรูไนสปอลาวอินโดนีเซียเมียนมาร์ฟิลิปปินส์สิงคโปร์และเวียดนาม รวมทั้งสิ้น 14 คน เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชารวมทั้งขัดขวางขวางการปฎิบัติการเก็บระเบิดของศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิดแห่งชาติและได้เข้าสังเกตการในพื้นที่จริง ในการลงพื้นที่ครั้งนี้จะทำให้เห็นหลักฐานอย่างประจักษ์และเห็นด้วยตนเองที่ไม่มีการจัดฉากใดใดเพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงชี้แจงให้กับประชาคมโลกรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและการละเมิดข้อตกลงจุดยืนของกัมพูชาเพื่อยับยั้งข่าวปลอมที่ฝ่ายกัมพูชาปล่อยออกมาอย่างไม่หยุด

การลงพื้นที่ของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เป็นการลงพื้นที่ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สองหลังจากลงพื้นที่พบกับเชลยครั้งแรก การลงพื้นที่ของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเป็น เครื่องมือยืนยันว่าไทยจะให้ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานระหว่างประเทศและทางการไทยที่ยึดมั่นในหลักการระหว่างประเทศโดยเฉพาะหลักสิทธิมนุษธรรมและหลักปฏิบัติสากลต่างๆ

สุดท้ายนี้ ขอยืนยันว่าไทยมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหา กับกัมพูชาอย่างสันติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ และหวังว่าการประชุมต่าง ๆ ทั้ง RBC GBC และ JBC ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในอนาคตอันใกล้จะช่วยลดความตึงเครียดที่มีอยู่ และเป็นพื้นฐานในการแก้ปัญหาในระยะต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]