นายกฯ ยันไม่มีซื้อขายตำแหน่ง ตั้งกรรมการปฏิรูปประเทศ

รัฐสภา 31 ก.ค.-นายกรัฐมนตรี ขอบคุณ สปท.ที่ทำงานร่วมกัน ย้ำแผนปฎิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ เป็นภารกิจที่ต้องทำควบคู่กัน เพื่อเดินหน้าอนาคตประเทศ ย้ำตั้งคณะกรรมการปฎิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ  ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับมอบงานจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)  ว่า ขอขอบคุณสมาชิก สปท. ที่ร่วมทำงานมากับรัฐบาลชุดนี้ แม้ระหว่างทางจะมีการลาออก หรือเสียชีวิตไปบ้าง และส่งต่อการปฎิรูปประเทศใน 11 วาระ ให้กับรัฐบาล เป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มี พ.ร.บ.ปฎิรูปประเทศ และพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อพัฒนาประเทศ ภายใต้กรอบตามความเหมาะสม มีเหตุผล มีธรรมาภิบาล นำศาสตร์พระราชา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนามาใช้ ที่สำคัญ เน้นการพัฒนาคน ที่จะต้องมีคุณธรรม และจริยธรรม 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเหตุผลที่เข้ามาบริหารประเทศ ว่า เพราะเกิดวิกฤติ ทั้งปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เกิดความแตกแยกในสังคม ปัญหาทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้  ปัญหาความเลื่อมล้ำในสังคม  ซึ่งการแก้ปัญหาของรัฐบาลได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย รัฐบาลได้ทำงานอย่างอดทน อดกลั้น เพื่อให้ประเทศเกิดความแข็งแกร่งขึ้น 


พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวว่า การจัดทำแผนต่าง ๆ จะต้องทำงานอย่างบูรณาการ มีเป้าหมาย เชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 เพื่อวางรากฐานให้รัฐบาลต่อไป ซึ่ง ยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ได้เข้าไปควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดต่อ ๆ ไป แต่เป็นการวางยุทธศาสตร์เพื่อหวังให้รัฐบาลชุดต่อไป ได้ทำงานตรงตามแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ส่วนเรื่องนโยบายของแต่ละพรรคที่จะใช้หาเสียง ก็เป็นแนวคิดของแต่ละพรรค แต่อยากให้ประชาชนคำนึงด้วยว่า หากจะเลือกตั้งควรจะมองว่าพรรคการเมืองเหล่านั้น ได้วางนโยบายให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติหรือแผนพัฒนาฯฉบับที่ 12 หรือไม่ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปฎิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ เป็นภารกิจคู่แฝด ที่จะต้องเดินหน้าควบคู่ไปด้วยกัน โดยยุทธศาสตร์ชาติ เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทาง ให้เดินตามกรอบ ขณะที่การปฎิรูป เปรียบเป็นเครื่องยนต์ ในการขับเคลื่อน โดยมีระบบควบคุม คือการออกกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้า เป็นเครื่องจักร เครื่องกล ที่แข็งแรง เป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้  การวางแนวทางทั้งหมด เพื่อไปสู่การปฎิรูป ที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฝ่ามือ

“ยุทธศาสตร์ชาติ เป็นการกำหนดเป้าหมายอนาคต เป็นเข็มทิศนำทาง ไม่ให้ตกหลุมตกร่อง การปฏิรูปเปรียบเสมือนการจูนเครื่องยนต์ให้มันดี เป็นการใส่เทอร์โบเข้าไป ให้สามารถไปให้เร็ว ขณะเดียวกันต้องบำรุงรักษา ปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุด ซึ่งก็คือเรื่องของการทุจริต และเรื่องระบบบริหารราชการ ต้องแก้ไขไม่ให้หยุดชะงักระหว่างทาง ไม่ให้เสียบนสะพาน วันนี้เราอยู่บนสะพาน สะพานที่ คสช.สร้างไว้ ข้ามลำน้ำที่เชี่ยวกราก ต้องมีสะพาน เรากำลังทำสะพานให้เขาข้ามอยู่ แต่หากท้ายสุดเราจะตกสะพานไปเอง ก็ไม่เป็นไร เพราะเมื่อเสร็จแล้ว สะพานก็ถูกทุบทิ้งอยู่ดี แต่ไม่เป็นไร ว่ายน้ำให้เป็นแล้วกัน ผมไม่กลัว เพราะผมว่ายน้ำเป็น ต้องดูแลตัวเอง แต่เอาประเทศมาก่อนเสมอ ทำไปเถอะ เชื่อผมสิ ธรรมะจะคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม จำไว้” นายกฯ กล่าว 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง การพิจารณาคดีของศาล ว่า ตนไม่เคยกล่าวหาว่าใครมีความผิด ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐานและขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล รัฐบาลทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับองค์กรอิสระในการทำงาน

“ตัดสินอย่างไรไปว่าตามศาล แต่ตอนนี้คนไทยชอบตัดสินไปเอง เมื่อเช้าก็ดูข่าวทีวีช่องหนึ่ง ในเว็บ ในเฟสบุ๊ค ตัดสินเองไปหมด ผมก็ปวดหัว แต่ต้องกลับมาถ่ายทอดให้กับรัฐมนตรี  รัฐมนตรีก็ปวดหัวไปด้วย บางครั้งรัฐมนตรีก็รับไม่ไหว บอกกับผมว่า อย่าฟังทุกเรื่อง แต่จะไม่ฟังก็ไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้ ปลุกระดมได้ทั้งสิ้น เขาไปปลุกระดมข้างล่าง ต้องให้รัฐมนตรีทุกท่านทราบ ผมอ่านติดตามทุกฉบับ ถ้าสร้างประโยชน์ ผมก็นำมาปฏิบัติ ถ้าไม่สร้างประโยชน์ผมก็เฉย ๆ แต่ก็โมโห เพราะไม่รู้ว่าจะมีเจตนาบิดเบือนหรือไม่ แต่ก็ทำให้การทำงานมีปัญหาไปหมด” นายกฯ กล่าว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการ ตามกรอบ พ.ร.บ.ปฎิรูปประเทศ และพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ ที่กำหนดให้มีคณะกรรมการมาทำงาน จะไม่มีการวิ่งเต้น ซื้อขายตำแหน่ง  เพราะพิจารณาด้วยตนเอง  ขอให้คณะกรรมการ ที่จะเข้ามาสานต่องานอีกครึ่งหนึ่งในวันนี้ ทำงานให้สำเร็จลุล่วง ให้การปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติเสร็จสมบูรณ์ และให้ถือเป็นผลงานประวัติศาสตร์ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจร่วมกัน ตนจึงอยากให้กำลังใจทุกคนในการทำงาน เพื่อเดินหน้าประเทศ และ ขอให้ทุกคนให้กำลังใจตนและคณะรัฐมนตรีด้วย

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนปรบมือให้กำลังใจทุกฝ่าย ที่ร่วมทำงานกันมาอย่างเต็มที่ ซึ่งตนพร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกคน แม้จะไม่อยู่ในตำแหน่งนี้แล้ว และขอให้ทุกคนช่วยปฎิรูปทั้งการศึกษา สาธารณสุข และลดความขัดแย้ง ใช้สติในการติดตามข่าวสารผ่านสื่อโซเซียล และย้ำว่าส่วนตัวพร้อมสู้ เพราะไม่คิดว่าจะทำอะไรผิด “ผมก็โดนเยอะ แต่ผมสู้ได้ ผมไม่คิดว่าผมจะทำอะไรผิด ผิดอยู่แค่วันเดียว คือวันที่ 22 พฤษภาคม” 

ท้ายสุด นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกคนรับประทานอาหารร่วมกัน และขอให้จ่ายค่าชดเชย กับร้านค้าในรัฐสภา ที่ต้องหยุดขายในวันนี้ เพราะได้รับการร้องเรียนมาแล้ว .-สำนักข่าวไทย                    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย