เพจก้าวไกล ชู 45 ร่างกฏหมาย เปลี่ยนประเทศ

พรรคก้าวไกล 26 พ.ค.- ก้าวไกล’ ชู 45 ร่างกฎหมายเปลี่ยนประเทศ พร้อมผลักดันในสภา ครอบคลุมการเมือง เศรษฐกิจ ปฏิรูประบบราชการ


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจของพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ประเด็น 45 ร่างกฎหมายเปลี่ยนประเทศไทย ก้าวไกลพร้อมผลักดันในสภา โดยระบุว่า ในสัญญาประชาคมที่พรรคก้าวไกลให้ไว้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ เรายืนยันว่าหากได้เป็นรัฐบาล จะพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดัน 300 นโยบายก้าวไกลให้สำเร็จ เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้มีการเมืองที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน มีสังคมที่เท่าเทียม เศรษฐกิจเติบโตอย่างเป็นธรรม มีระบบการบริหารราชการที่โปร่งใส มีนิติรัฐ นิติธรรม

ช่องทางในการผลักดัน 300 นโยบาย นอกจากอาศัย ‘กลไกอำนาจบริหาร’ ผ่านการบรรจุนโยบายเข้าไปในวาระ ‘ร่วม’ หรือ MOU จัดตั้งรัฐบาลให้ได้เยอะที่สุด เพื่อผลักดันนโยบายผ่านกระทรวงต่างๆ ซึ่งจนถึงตอนนี้ ต้องรอการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้งว่าพรรคไหนจะรับผิดชอบกระทรวงใด และวาระของแต่ละกระทรวงจะมีอะไรบ้าง


อีกช่องทางหนึ่งซึ่งพรรคก้าวไกลพูดมาตลอดว่าจะใช้ ไม่ว่าเราจะได้เป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน คือการผลักดันนโยบายผ่าน ‘กลไกนิติบัญญัติ’ ของระบบรัฐสภาโดยผู้แทนราษฎรของพรรค โดยเรามีร่างกฎหมายอย่างน้อย 45 ฉบับ เตรียมยื่นต่อสภาฯ แบ่งเป็นด้านต่างๆ ดังนี้

1.ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเมือง 11 ฉบับ

.เป็นร่างกฎหมายที่มุ่งสร้างประชาธิปไตยเต็มใบ ปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง และป้องกันรัฐประหาร เช่น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจทั้งหมด สร้างแรงจูงใจในการสมัครเป็นทหารด้วยสวัสดิการและความก้าวหน้าทางอาชีพ, การจัดระเบียบโครงสร้างภายในของกระทรวงกลาโหมใหม่ แก้ไขให้เฉพาะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจประกาศกฎอัยการศึก, การยุบเลิกหน่วยงานที่คิดค้นในสมัยสงครามเย็นอย่าง กอ.รมน., การแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ด้วยการให้พลเรือนนำทหาร, การปฏิรูปตำรวจ รื้อโครงสร้าง ก.ตร. ให้ยึดโยงประชาชน และการนิรโทษกรรมคดีการเมืองที่เกิดขึ้นนับแต่การรัฐประหารปี 2549


2.ร่างกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ 8 ฉบับ

.แก้ไขกฎหมายเพื่อลดโทษทางอาญาในฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก เช่น การหมิ่นประมาท การฟ้องปิดปาก ความผิดตามมาตรา 112 และ 116 รวมไปถึงการแก้ไข พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ให้เป็นการเอาผิดต่ออาชญากรรมบนระบบคอมพิวเตอร์ตามเจตนารมณ์เดิม ไม่ใช่นำมาใช้เพื่อปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ และการกำหนดโทษแก่เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมที่จงใจบิดเบือนข้อกฎหมาย

.นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายที่ส่งเสริมสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่นกฎหมายสมรสเท่าเทียม ให้บุคคลทุกเพศสามารถแต่งงานกันได้ และการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ สิทธิในการเลือกคำนำหน้านาม และสิทธิของคนข้ามเพศ

3.ร่างกฎหมายเกี่ยวกับบริการสาธารณะ 4 ฉบับ

.ปลดล็อกอำนาจของท้องถิ่นในการให้บริการสาธารณะอย่างมีอิสระมากขึ้น เช่น อำนาจในการดูแลถนนและสะพานทุกเส้นในพื้นที่ ที่ไม่ใช่ถนนเชื่อมระหว่างเมือง, การอนุญาตการเดินรถโดยสารสาธารณะในพื้นที่, การอนุญาตกิจการประปาขนาดเล็กในพื้นที่ รวมไปถึงการมีกลไกควบคุมคุณภาพน้ำประปาและบทลงโทษผู้ให้บริการประปาที่ไม่ได้มาตรฐาน

.

4.ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ 6 ฉบับ

ยกเครื่องประสิทธิภาพของระบบราชการ ให้เป็น ‘ราชการเพื่อราษฎร’ ด้วยการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การสร้างรัฐโปร่งใส ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลแทบทุกชิ้นที่รัฐมีอยู่ได้, การทำให้คนโกงวงแตก ด้วยการออกกฎหมายคุ้มครองคนที่ออกมาแฉหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดกันทุจริตก่อนให้รับการลดโทษหรือกันเป็นพยาน, การแก้ไขปัญหาการรอการอนุญาตที่ยาวนานของทางราชการ โดยกำหนดให้ใบอนุญาตเกือบทุกประเภทต้องสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตภายใน 15 วันหลังยื่นขอ

.

5.ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดิน 8 ฉบับ

ปัญหาการจัดสรรที่ดินอย่างไม่เป็นธรรมเป็นปัญหาเรื้อรังของประเทศ จึงต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนซึ่งถูกกล่าวหาว่ารุกที่ป่า ทั้ง ๆ ที่บริเวณนั้นไม่ได้มีสภาพเป็นป่ามานับร้อยปีแล้ว เช่น ปลดล็อกที่ดิน ส.ป.ก. โดยการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนด อย่างเป็นธรรม คืนให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ และแก้ไขปัญหา ‘ปลูกมะนาวกลางกรุง’ ด้วยการแก้ไข พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

.6.ร่างกฎหมายเกี่ยวกับเศรษฐกิจ 4 ฉบับ

.

แก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจ ด้วยการปลดล็อกข้อจำกัดในธุรกิจผูกขาด โดยเฉพาะธุรกิจสุรา ให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถผลิตสุราได้, เพิ่มเงื่อนไข สร้างกลไกป้องกันทุนใหญ่กินรวบผูกขาดทางการค้า, ปรับบทลงโทษ ลดเงื่อนไข แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการออก พ.ร.ก. ประมง สมัย คสช. ที่ทำให้การประมงไทยตกต่ำ และการเก็บภาษีความมั่งคั่งจากคนที่มีทรัพย์สินรวมเกิน 300 ล้านบาท

7.ร่างกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 2 ฉบับ

.สิทธิในการหายใจด้วยอากาศที่สะอาดเป็นสิทธิของคนไทยทุกคน จึงต้องมีกฎหมายเพื่อรับประกันสิทธิและสร้างเครื่องมือในการลงโทษผู้ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ รวมไปถึงการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ประชาชนในละแวกใกล้เคียงได้ตระหนักเตรียมพร้อมรับมือกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

.นอกจากนี้ ต้องมีการสร้างกลไกการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจัง เช่น การสร้างตลาดคาร์บอนเครดิตภาคบังคับสำหรับธุรกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ได้ตามเป้าหมายร่วมกันของประชาคมโลก

8.ร่างกฎหมายเกี่ยวกับแรงงาน 2 ฉบับ

.ประกันสิทธิในการรวมตัวกันของแรงงานทุกประเภท เสริมสร้างสวัสดิการที่ดีขึ้นให้กับพี่น้องแรงงานทุกคน อาทิ การกำหนดให้ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ (หยุดเสาร์-อาทิตย์) หากเกินต้องมี OT การลาคลอดโดยได้รับค่าจ้าง 180 วัน แบ่งวันลากันได้ระหว่างพ่อ-แม่ การห้ามเลือกปฏิบัติในการรับเข้าทำงาน เช่น การห้ามบังคับตรวจโรคที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน .พรรคก้าวไกลยืนยันว่า เราเดินบนเส้นทางการเมือง ไม่ใช่เพื่อตำแหน่งหรืออำนาจ แต่เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง กฎหมายทั้ง 45 ฉบับนี้ จะสามารถแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้จริง และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทยมีการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต.-สำนักข่าวไทย

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0Qg9UrmA4nyijj5vsskmK5s4rmn7s3T5NzyY4HB4wFmMzU3vvCzxzvkVebNgvddH3l&id=100050380844643&mibextid=Nif5oz

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]