กรุงเทพฯ 28 ต.ค. – กรมส่งเสริมการเกษตรยืนยันโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการปลูกข้าวนาปรังเป็นประโยชน์ เพิ่มรายได้ ลดปริมาณผลผลิตข้าวที่ล้นตลาด ย้ำรัฐคัดเลือกพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสมกับการปลูกและเกษตรกรต้องสมัครใจเข้าร่วมโครงการ ระบุมีตลาดรับซื้อผลผลิตแน่นอน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง ว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในการประสานพลังประชารัฐ เพื่อทำให้ภาคการเกษตรมีความเข้มแข็ง ทั้งด้านการผลิตและการตลาดที่สอดคล้องกัน โดยให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาภาคเกษตรให้การผลิตมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังมีโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนข้าวนาปรังด้วย เช่น พืชผักอายุสั้น และถั่วต่าง ๆ เป็นต้น
นายสมชาย กล่าวว่า กรมฯ มีเป้าหมายเพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า จึงต้องการปรับลดพื้นที่การปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งใช้น้ำในปริมาณสูงถึง 1,200-3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ เมื่อเทียบกับการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีการใช้น้ำตลอดการปลูกเพียง 500-700 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ และปัจจุบันผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังเป็นที่ต้องการของตลาดกว่า 7.2 ล้านตัน นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกจะช่วยตัดวงจรการเจริญเติบโตและการสะสมของโรคแมลงจากการปลูกพืชชนิดเดิมซ้ำ ๆ
นายสมชาย กล่าวต่อว่า จากข้อมูลการผลิตข้าวรอบ 4 ปีที่ผ่านมาที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร คือ ตั้งแต่ปี 2555/2556 – 2558/2559 พบว่า มีพื้นที่ที่ดินมีความเหมาะสมกับการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาก และเหมาะสมปานกลาง รวมกว่า 8 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในเขตชลประทาน 31 จังหวัด รวม 2 ล้านไร่ และจากที่ได้นำร่องส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนข้าวนาปรังปีที่ผ่านมา พบว่า เกษตรกรสามารถผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เฉลี่ย 900-1,000 กิโลกรัมต่อไร่ มีกำไรจากการผลิตไร่ละ 2,000-4,000 บาท
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวด้วยว่า บริษัทเมล็ดพันธุ์ที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ค้าพันธุ์พืชไทย พร้อมสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการอบรมเกษตรกร และให้คำแนะนำการปลูกกับเกษตรกรอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมกับภาคเอกชนในการรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามมาตรฐานที่กรมการค้าภายในกำหนด โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เบอร์ 2 ความชื้น 14.5% ราคาไม่ต่ำกว่า 8 บาทต่อกิโลกรัม ณ หน้าโรงงานกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา โดยปกติจะมีคุณภาพดีกว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลูกในฤดูฝน เนื่องจากเก็บเกี่ยวในช่วงปลอดฝน.-สำนักข่าวไทย