สาวท้อง2เดือนนำผลตรวจร่างกายแจ้ง ตร.สน.สายไหม อ้างถูกเสี่ยเอ็มทำร้าย

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.- สาวท้อง 2เดือนอ้างถูก เสื่ยเอ็มหลานอาม่า แฟนหนุ่มทำร้ายนำผลตรวจร่างกายจากแพทย์มอบให้ตำรวจแล้ว พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด ขณะที่เสี่ยเอ็มประสานขอเวลาตั้งตัวก่อนเข้าให้ปากคำ


จากบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Khun Shane Rajatabhaiboon” ออกมาโพสต์บอกเล่าเรื่องราวของน้องสาวของตัวเอง ที่ถูก นายชลวิทย์ หรือ เสี่ยเอ็ม หลานอาม่า แฟนหนุ่ม ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน โดยได้มีการระบุข้อความว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นกับน้องสาวของผม ถูกผู้ชายทำร้ายร่างกาย ซึ่งก็คือแฟนของเธอเอง โดยที่เธอกำลังตั้งครรภ์ได้สองเดือนกว่า ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บ มีแผลฉีกเป็นรูลงไปที่ขมับใกล้คิ้วและตาด้านขวา หลังมีอาการปวดอย่างรุนแรง แขนและนิ้วช้ายมีอาการปวดจากการฟกช้ำ ส่วนเด็กในครรภ์โชคดีปลอดภัย ซึ่งนอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินที่เสียหายอีกมากทั้งโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอแตกละเอียด รวมถึงไอแพดที่เปื้อนเลือดเกรอะกรัง โดยฝ่ายหญิงยังบอกอีกว่า เสี่ยเอ็มได้เอาเงินไปอีก 150,000 บาท พร้อมกับบอกว่าจะไม่คืนให้ ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา หลังจากนี้ฝ่ายหญิงผู้เสียหายจะไปขอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลเพื่อนำเข้าประกอบการแจ้งความกับพนักงานสอบสวนตามกระบวนการทางกฏหมายต่อไป

ล่าสุด น.ส.ยศวดี จุงสุพงษ์ อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม กับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม หลังไปตรวจร่างกายจากแพทย์ รพ.ภูมิพล โดยแพทย์ แจ้งว่า  การถูกทำร้าย ยังไม่เป็นอันตราย แก่เด็กในครรภ์ เพราะว่าอายุครรภ์ยังน้อย และทางแพทย์จะนัดไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีนายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์  แฟนหนุ่ม ที่ทำร้ายร่างกายให้ถึงที่สุด และหลังจากเกิดเหตุ นาย ชลวิทย์ ก็โทรมาแต่ไม่ได้รับสาย และไม่คิดจะกลับไปหานายชลวิทย์อีกแล้ว


ด้าน พ.ต.อ ธนกรณ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน สายไหม  เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนรับเป็นคดีแล้ว จากนั้นก็นำผลแพทย์มาประกอบการพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหา กับนายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์ ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยพบว่าได้รับบาดเจ็บ ที่ศรีษะ หลังเกิดเหตุ ได้ให้ฝ่ายสืบสวนไปติดตามแต่ไม่พบตัว และได้โทรศัพท์ติดต่อไปหานาย ชลวิทย์ ผู้ที่ถูกกล่าวหาแล้ว ซึ่งนาย ชลวิทย์ ได้บอกว่า ภายในอาทิตย์นี้จะเข้าพบแต่ขอเวลาไปตั้งหลักก่อน แต่เจ้าหน้าที่จะไม่รอ โดยเตรียมออกหมายเรียกแต่หากยังบิดพลิ้วไม่มาตามกำหนด หากพบตัวที่ไหนก็จะจับกุมทันที ส่วนที่มีเหตุ ใน พื้นที่ สน คลองตัน และ สน.ลาดพร้าว ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานขอรายงานผลทางคดี เพื่อจะนำมาประกอบการพิจารณาการให้ประกันตัวหรือไม่

สำหรับนายชลวิทย์ผู้ก่อเหตุ เป็นคนเดียกันกับผู้ที่ขับรถปอร์เช่ชนสามีภรรยาคู่หนึ่ง เมื่อเดือนเมษายน 2560 และเมื่อปี 2555 ก็เคยมีคดีขับรถมินิคูเปอร์ชน 4 นักศึกษาเอแบค จนหนึ่งในผู้บาดเจ็บเกือบเป็นอัมพาต.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ