ตำรวจไซเบอร์จับผู้ต้องหาแฮกเพจเฟซบุ๊ก แล้วเอาไปขายต่อ

กทม. 18 ธ.ค.-ตำรวจไซเบอร์จับผู้ต้องหาแฮกเพจเฟซบุ๊ก แล้วเอาไปขายต่อ หรือข่มขู่เจ้าของเพจให้จ่ายเงินเพื่อคืนเพจให้ พบผู้เสียหายเป็น 100 เพจ มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายกฤต อายุ 22 ปี และนายคุณัชญ์ อายุ 23 ปี

สืบเนื่องจากผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของค่ายเพลงฮิตสาวน่ารัก และเป็นเจ้าของเพจดังจำนวน 5 เพจ คือ 1.เพจงมงาย (ผู้ติดตามประมาณ 1.8 ล้านคน) 2.เพจค่ายเพลงฮิตสาวน่ารัก (ผู้ติดตาม 1 ล้านคน) 3.เพจแชร์คลิป (ผู้ติดตาม 9 แสนคน) 4.เพจยอมจากไป (ผู้ติดตาม 5.5 หมื่นคน) 5.เพจเธอทำได้ไง (ผู้ติดตาม 1 แสนคน) ซึ่งแต่ละเพจจะมีการตั้งค่าเฟซบุ๊กเป็นสาธารณะ เพื่อใช้โปรโมทศิลปิน ผลงานเพลง และมีรายได้จากเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวประมาณเดือนละ 3 ล้านบาท ซึ่งได้ทำงานด้านนี้มากว่า 7 ปี แล้ว ได้มีเฟซบุ๊กอวตารทักมาที่ข้อความบัญชีผู้เสียหายที่ชื่อว่า “ชาญศักดิ์ คงเศรษฐกุล” ทักเข้ามาสอบถามถึงการนำเพจที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ไปประกาศขายในกลุ่มปิด คนร้ายได้ส่งภาพหลักฐานการประกาศขายพร้อมทั้งสอบถามว่า มีเพจอื่นจะปะกาศขายอีกไหม ซึ่งผู้เสียหายเชื่อน่าจะเป็นพวกที่ทำการ Hacking เพจดังกล่าวของตนเองไป ผู้เสียหายหลงเชื่อตามคำบอกกล่าวของคนร้าย


พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุทำทีเป็นแนะนำให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่าเพจดังกล่าวโดนแฮก หรือไม่โดยวิธีการดังนี้ คือ ให้ผู้เสียหายกดเข้าไปที่บัญชีธุรกิจของผู้เสียหายเองในบัญชีเฟซบุ๊กซึ่งเชื่อมต่อกับเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ ที่ผู้เสียหายได้สร้างและเป็นแอดมินสูงสุดที่ทำหน้าที่ควบคุมเพจต่าง ๆอยู่ ผู้เสียหายหลงเชื่อตามวิธีการที่คนร้ายแนะนำให้ ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าต่างๆในบัญชีเฟซบุ๊ก จะใช้วิธีการพูดคุยทาง Facebook Messenger โดยการ VDO Call เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อทำตามขั้นตอนที่คนร้ายบอกวิธีการต่าง ๆ พบข้อมูลในวันต่อมาว่าตนเองไม่สามารถเข้าถึงเพจบัญชีต่าง ๆ ได้อีก ผู้เสียหายพยายามติดต่อกลุ่มคนร้ายเพื่อขอเพจคืนโดยกลุ่มคนร้ายยินยอมที่จะคืนเพจให้แต่ได้มีการเรียกร้องเงินเพื่อแลกกับการคืนเพจดังกล่าว ผู้เสียหายจึงเชื่อได้ว่าตนเองได้ถูกกลุ่มคนร้ายทำการแฮกเพจ จึงได้แจ้งความกับทางตำรวจไซเบอร์ กก.3 บก.สอท.5 สืบสวนจนทราบตัวคนร้ายได้ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช

ด้าน พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ใช้วิธีการแฮกบัญชีเพจเฟซบุ๊กโดยใช้เฟซบุ๊กอวตารที่ตนเองได้สร้างขึ้นมาโดยการใช้ข้อมูลปลอมในการสร้างเฟซบุ๊กอวตาร ทักเข้าไปหาเจ้าของเพจเฟซบุ๊กโดยจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกคนที่จะทำหน้าที่คัดเลือกเหยื่อและส่งช่องทางการแฮกให้ผู้ต้องหา เคสคุณหมอที่ตนเองได้กระทำนี้ คนร้ายใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “อีปากแดง ร่างสองไฉไลกว่าเดิม” เข้ามาพูดคุยทักทายถึงวิธีการตั้งค่าเพจให้ปลอดภัย (บัญชีธุรกิจ) อันเป็นวิธีการหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อทำตามขั้นตอนของคนร้ายเพื่อให้ได้รับสิทธิเป็นตัวจัดการธุรกิจของเพจดังกล่าว ซึ่งสิทธิดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนร้ายจัดการสิทธิ์การอนุญาตในบัญชี Meta Business ของเพจได้ด้วยตนเองโดยทำหน้าที่เป็นแอดมินเพจสูงสุด เพราะตัวจัดการธุรกิจจะมาควบคุมบริหารและจัดการเพจอีกที (คนอื่นไม่สามารถทำการลบหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้) เมื่อทำการยึดเพจได้แล้วก็จะทำการเพิ่มบัญชีแอดมินของคนร้าย (บัญชีอวตาร) ซึ่งถือว่าวิธีการดังกล่าวเป็นการยึดเพจของผู้เสียหายโดยสมบูรณ์เมื่อยึดเพจต่างๆ ได้แล้วผู้ร่วมขบวนการอีกคนจะดำเนินการโอนเงินให้เป็นค่าตอบแทนการทำงานอัตราค่าตอบแทน (นับจากยอดคนติดตาม) แสนละ 3,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท (โอนครั้งละ 15,000) โดยโอนเงินผ่านบัญชี True Money ของคนร้าย รู้จักกันผ่านการเล่นเกมส์ออนไลน์ มีความสนิทสนมกันมาก รู้จักกันประมาณ 2-3 ปี จะใช้การติดต่อสื่อสารทางแพลตฟอร์มออนไลน์ Telegram เป็นหลัก ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวจะใช้สำหรับการติดต่อพูดคุยงานและการส่งลิงค์บัญชีธุรกิจ (กรณีให้ลูกค้าทำตามขั้นตอนที่คนร้ายแนะนำ) มีรายได้เดือนละหลายล้านบาทจากการกระทำการยึดเพจดังกล่าว โดยจะนำเพจที่ยึดได้ไปทำการประกาศขายต่อใน กลุ่มปิด ในกลุ่มตลาดมือที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ Call Center เป็นต้น ข้อสังเกต บางครั้งการถูก Hacking เพจ (Fanpage Facebook) อาจเกี่ยวเนื่องกับ Meta Business Suite หรือตัวจัดการธุรกิจ เพราะตัวจัดการธุรกิจจะมาควบคุมบริหารและจัดการเพจนั้นอีกที

จึงทำให้คนร้ายสามารถอาศัยช่องโหว่ตรงนี้เข้ามาทำการยึดเพจไปเป็นของตนเอง โดยคนร้ายอาจจะเข้ามาโดยวิธีการต่างๆ เช่น ขอเป็นเพื่อน ขอลงโฆษณา ลงโพส ขอซื้อเพจ แนะนำวิธีการจัดการการตั้งค่าความปลอดภัยต่างๆ ขอให้ช่วยสอนเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับเพจโดยการส่งลิงค์มาให้กด เมื่อผู้เป็นเจ้าของเพจหลงเชื่อกระทำตามที่คนร้ายแนะนำ ก็อาจจะกลายเป็นการสร้างบัญชีธุรกิจขึ้นมา หรือดึงเขาเข้ามาในบัญชีธุรกิจนั้นโดยที่ผู้เป็นเจ้าของไม่ได้มีความต้องการในเรื่องดังกล่าว หรือในบางกรณีที่เราเคยมีบัญชีธุรกิจอยู่แล้ว ทำให้คนร้ายสามารถเข้ามาอยู่ในบัญชีธุรกิจเราได้ และสามารถควบคุมและยึดเอาเพจผู้เสียหายไปได้โดยง่ายดาย โดยการเพิ่มบัญชีเพื่อทำการเปลี่ยนตัวแอดมินควบคุมเพจดังกล่าว จนทำให้ผู้เป็นเจ้าของเพจที่แท้จริงไม่สามารถเข้าถึงระบบและข้อมูลอันมีมาตรการเป็นการเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน เมื่อคนร้ายยึดเพจได้แล้วก็เริ่มทำการทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ กระทำด้วยประการใดๆ โดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งบัญชีธุรกิจนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนค่อนข้างมาก เป็นช่องทางที่ให้คนร้ายใช้เข้ามาทำการแฮก. -412-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]