ตำรวจไซเบอร์จับผู้ต้องหาแฮกเพจเฟซบุ๊ก แล้วเอาไปขายต่อ

กทม. 18 ธ.ค.-ตำรวจไซเบอร์จับผู้ต้องหาแฮกเพจเฟซบุ๊ก แล้วเอาไปขายต่อ หรือข่มขู่เจ้าของเพจให้จ่ายเงินเพื่อคืนเพจให้ พบผู้เสียหายเป็น 100 เพจ มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายกฤต อายุ 22 ปี และนายคุณัชญ์ อายุ 23 ปี

สืบเนื่องจากผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของค่ายเพลงฮิตสาวน่ารัก และเป็นเจ้าของเพจดังจำนวน 5 เพจ คือ 1.เพจงมงาย (ผู้ติดตามประมาณ 1.8 ล้านคน) 2.เพจค่ายเพลงฮิตสาวน่ารัก (ผู้ติดตาม 1 ล้านคน) 3.เพจแชร์คลิป (ผู้ติดตาม 9 แสนคน) 4.เพจยอมจากไป (ผู้ติดตาม 5.5 หมื่นคน) 5.เพจเธอทำได้ไง (ผู้ติดตาม 1 แสนคน) ซึ่งแต่ละเพจจะมีการตั้งค่าเฟซบุ๊กเป็นสาธารณะ เพื่อใช้โปรโมทศิลปิน ผลงานเพลง และมีรายได้จากเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวประมาณเดือนละ 3 ล้านบาท ซึ่งได้ทำงานด้านนี้มากว่า 7 ปี แล้ว ได้มีเฟซบุ๊กอวตารทักมาที่ข้อความบัญชีผู้เสียหายที่ชื่อว่า “ชาญศักดิ์ คงเศรษฐกุล” ทักเข้ามาสอบถามถึงการนำเพจที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ไปประกาศขายในกลุ่มปิด คนร้ายได้ส่งภาพหลักฐานการประกาศขายพร้อมทั้งสอบถามว่า มีเพจอื่นจะปะกาศขายอีกไหม ซึ่งผู้เสียหายเชื่อน่าจะเป็นพวกที่ทำการ Hacking เพจดังกล่าวของตนเองไป ผู้เสียหายหลงเชื่อตามคำบอกกล่าวของคนร้าย


พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุทำทีเป็นแนะนำให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่าเพจดังกล่าวโดนแฮก หรือไม่โดยวิธีการดังนี้ คือ ให้ผู้เสียหายกดเข้าไปที่บัญชีธุรกิจของผู้เสียหายเองในบัญชีเฟซบุ๊กซึ่งเชื่อมต่อกับเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ ที่ผู้เสียหายได้สร้างและเป็นแอดมินสูงสุดที่ทำหน้าที่ควบคุมเพจต่าง ๆอยู่ ผู้เสียหายหลงเชื่อตามวิธีการที่คนร้ายแนะนำให้ ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าต่างๆในบัญชีเฟซบุ๊ก จะใช้วิธีการพูดคุยทาง Facebook Messenger โดยการ VDO Call เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อทำตามขั้นตอนที่คนร้ายบอกวิธีการต่าง ๆ พบข้อมูลในวันต่อมาว่าตนเองไม่สามารถเข้าถึงเพจบัญชีต่าง ๆ ได้อีก ผู้เสียหายพยายามติดต่อกลุ่มคนร้ายเพื่อขอเพจคืนโดยกลุ่มคนร้ายยินยอมที่จะคืนเพจให้แต่ได้มีการเรียกร้องเงินเพื่อแลกกับการคืนเพจดังกล่าว ผู้เสียหายจึงเชื่อได้ว่าตนเองได้ถูกกลุ่มคนร้ายทำการแฮกเพจ จึงได้แจ้งความกับทางตำรวจไซเบอร์ กก.3 บก.สอท.5 สืบสวนจนทราบตัวคนร้ายได้ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช

ด้าน พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ใช้วิธีการแฮกบัญชีเพจเฟซบุ๊กโดยใช้เฟซบุ๊กอวตารที่ตนเองได้สร้างขึ้นมาโดยการใช้ข้อมูลปลอมในการสร้างเฟซบุ๊กอวตาร ทักเข้าไปหาเจ้าของเพจเฟซบุ๊กโดยจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกคนที่จะทำหน้าที่คัดเลือกเหยื่อและส่งช่องทางการแฮกให้ผู้ต้องหา เคสคุณหมอที่ตนเองได้กระทำนี้ คนร้ายใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “อีปากแดง ร่างสองไฉไลกว่าเดิม” เข้ามาพูดคุยทักทายถึงวิธีการตั้งค่าเพจให้ปลอดภัย (บัญชีธุรกิจ) อันเป็นวิธีการหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อทำตามขั้นตอนของคนร้ายเพื่อให้ได้รับสิทธิเป็นตัวจัดการธุรกิจของเพจดังกล่าว ซึ่งสิทธิดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนร้ายจัดการสิทธิ์การอนุญาตในบัญชี Meta Business ของเพจได้ด้วยตนเองโดยทำหน้าที่เป็นแอดมินเพจสูงสุด เพราะตัวจัดการธุรกิจจะมาควบคุมบริหารและจัดการเพจอีกที (คนอื่นไม่สามารถทำการลบหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้) เมื่อทำการยึดเพจได้แล้วก็จะทำการเพิ่มบัญชีแอดมินของคนร้าย (บัญชีอวตาร) ซึ่งถือว่าวิธีการดังกล่าวเป็นการยึดเพจของผู้เสียหายโดยสมบูรณ์เมื่อยึดเพจต่างๆ ได้แล้วผู้ร่วมขบวนการอีกคนจะดำเนินการโอนเงินให้เป็นค่าตอบแทนการทำงานอัตราค่าตอบแทน (นับจากยอดคนติดตาม) แสนละ 3,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท (โอนครั้งละ 15,000) โดยโอนเงินผ่านบัญชี True Money ของคนร้าย รู้จักกันผ่านการเล่นเกมส์ออนไลน์ มีความสนิทสนมกันมาก รู้จักกันประมาณ 2-3 ปี จะใช้การติดต่อสื่อสารทางแพลตฟอร์มออนไลน์ Telegram เป็นหลัก ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวจะใช้สำหรับการติดต่อพูดคุยงานและการส่งลิงค์บัญชีธุรกิจ (กรณีให้ลูกค้าทำตามขั้นตอนที่คนร้ายแนะนำ) มีรายได้เดือนละหลายล้านบาทจากการกระทำการยึดเพจดังกล่าว โดยจะนำเพจที่ยึดได้ไปทำการประกาศขายต่อใน กลุ่มปิด ในกลุ่มตลาดมือที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ Call Center เป็นต้น ข้อสังเกต บางครั้งการถูก Hacking เพจ (Fanpage Facebook) อาจเกี่ยวเนื่องกับ Meta Business Suite หรือตัวจัดการธุรกิจ เพราะตัวจัดการธุรกิจจะมาควบคุมบริหารและจัดการเพจนั้นอีกที

จึงทำให้คนร้ายสามารถอาศัยช่องโหว่ตรงนี้เข้ามาทำการยึดเพจไปเป็นของตนเอง โดยคนร้ายอาจจะเข้ามาโดยวิธีการต่างๆ เช่น ขอเป็นเพื่อน ขอลงโฆษณา ลงโพส ขอซื้อเพจ แนะนำวิธีการจัดการการตั้งค่าความปลอดภัยต่างๆ ขอให้ช่วยสอนเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับเพจโดยการส่งลิงค์มาให้กด เมื่อผู้เป็นเจ้าของเพจหลงเชื่อกระทำตามที่คนร้ายแนะนำ ก็อาจจะกลายเป็นการสร้างบัญชีธุรกิจขึ้นมา หรือดึงเขาเข้ามาในบัญชีธุรกิจนั้นโดยที่ผู้เป็นเจ้าของไม่ได้มีความต้องการในเรื่องดังกล่าว หรือในบางกรณีที่เราเคยมีบัญชีธุรกิจอยู่แล้ว ทำให้คนร้ายสามารถเข้ามาอยู่ในบัญชีธุรกิจเราได้ และสามารถควบคุมและยึดเอาเพจผู้เสียหายไปได้โดยง่ายดาย โดยการเพิ่มบัญชีเพื่อทำการเปลี่ยนตัวแอดมินควบคุมเพจดังกล่าว จนทำให้ผู้เป็นเจ้าของเพจที่แท้จริงไม่สามารถเข้าถึงระบบและข้อมูลอันมีมาตรการเป็นการเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน เมื่อคนร้ายยึดเพจได้แล้วก็เริ่มทำการทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ กระทำด้วยประการใดๆ โดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งบัญชีธุรกิจนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนค่อนข้างมาก เป็นช่องทางที่ให้คนร้ายใช้เข้ามาทำการแฮก. -412-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล แจ้งกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นเกิดโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ 6 […]

เตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” และคนขับกระบะเข้าให้การ

กทม. 4 ส.ค.-ตำรวจเตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” มาให้การอย่างละเอียด รวมถึงคนขับกระบะ ด้านผู้ก่อเหตุ สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่าคดี “เป๊ก ผลิตโชค” ถูกฟันบริเวณคาง ภายในปั๊มน้ำมัน คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานได้มากพอสมควรแล้ว ยังเหลือเรื่องของคำให้การของพยาน โดยหลังจากนี้จะเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” ในฐานะผู้ถูกกระทำมาให้การอย่างละเอียด รวมถึงจะเชิญคนขับรถกระบะที่ “เป๊ก” ปีนขึ้นไป ตอนนี้พนักงานสอบสวนพยายามติดต่ออยู่ และพยานต่างๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต้องเรียกมาให้การเพิ่มเติมด้วย ส่วนนายชุติเทพ ที่เป็นผู้ก่อเหตุได้ทำการสอบปากคำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจร่างกายของ “เป๊ก” นั้น ก็เป็นในส่วนของแพทย์.-419.-สำนักข่าวไทย

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ

ทำเนียบ 4 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ หน่วยงานความมั่นคงยังเฝ้าระวัง วางแนวกำลังปฏิบัติการตามแผน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ภาพรวมเหตุการณ์ทั่วไปถึงเช้าวันนี้ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงยังคง เฝ้าระวัง โดยยังวางกำลังตามแนวปฏิบัติการตามแผน เพื่อรักษาอธิปไตยไทยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน.-314.-สำนักข่าวไทย

ปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้า

4 ส.ค. – สมาคมดาราศาสตร์ไทยแจงปรากฏการณ์ “ดาวตกลูกไฟ” โผล่บนท้องฟ้าหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 00.00 น. (วันที่ 4 ส.ค.) สมาคมดาราศาสตร์ไทยได้แจ้งว่า เกิดลูกไฟขนาดใหญ่พร้อมกับเสียงระเบิดดังขึ้นปรากฏบนท้องฟ้าเหนือหลายจังหวัดของประเทศไทย เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา จากตรวจสอบน่าจะเป็น ดาวตกชนิดลูกไฟ (meteoroid) โดยลักษณะที่ปรากฏเป็นแสงสีเขียว อาจบ่งบอกถึงองค์ประกอบของธาตุนิกเกิล โดยทั่วไปแล้ว ดาวตก (Meteor) เกิดขึ้นเมื่อวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็กเคลื่อนที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกและเสียดสีกับอากาศที่ระดับความสูงประมาณ 80-120 กิโลเมตร ทำให้เกิดแสงสว่างวาบพาดผ่านท้องฟ้า ยิ่งวัตถุมีขนาดใหญ่เท่าใด ปริมาณความร้อนและแสงสว่างที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากตามไปด้วย จากภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกมา ดาวตกในครั้งนี้มีขนาดใหญ่และมีความสว่างมากเป็นพิเศษ ความสว่างของมันใกล้เคียงกับดาวศุกร์ ทำให้ถูกจัดเป็นดาวตกชนิด #ลูกไฟ (Fireball) อย่างชัดเจน ส่วนการปรากฏของแสงสีเขียว สามารถตีความได้ว่าดาวตกนี้มีส่วนประกอบของธาตุโลหะอย่างนิกเกิล.-สำนักข่าวไทย