ชลบุรี 6 ก.ค. – “ศุภชัย” ไม่เปิดเผย กกต. ใช้ช่องทางใด ส่งศาล รธน.ตีความร่าง พ.ร.ป.กกต. ถือเป็นอาวุธลับ พร้อมระบุ กกต.จะยังไม่พ้นตำแหน่ง หากร่าง พ.ร.ป.กกต.ขัด รธน. เผย มีกฎหมายพิเศษรองรับ แต่ไม่เปิดเผยว่ากฎหมายฉบับใด
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึง กรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุว่า กกต.ยังไม่สามารถส่งร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ จนกว่ากฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ว่า กกต.ต้องศึกษาและหารือกันว่า จะยื่นผ่านช่องทางใดให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ใช่ยื่นไปแล้วเสียรังวัด
“ส่วนจะใช้ช่องทางใดในการยื่นนั้น ยังบอกไม่ได้ ถือเป็นอาวุธลับ เพราะทุกฝ่ายก็มีอาวุธลับเป็นของตัวเอง” นาศุภชัย กล่าว
ต่อกรณีที่นายมีชัยระบุว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้ กกต.ต้องพ้นสภาพในทันที นายศุภชัย กล่าวว่า กกต.ไม่ได้วิตกว่า จะพ้นจากหน้าที่เมื่อไร เพราะพร้อมอยู่แล้ว
“พวกเราไมได้กังวล จะช้าหรือเร็ว เราก็ต้องไปอยู่ดี ถ้าเราไปเร็ว เราก็ได้พักผ่อน ไม่ต้องมากังวล หรือถกเถียงอะไรให้วุ่นวาย แม้ตัวเราจะต้องพ้นจากตำแหน่งไป แต่ก็ต้องรักษาองค์กรให้อยู่อย่างมีคุณภาพ เป็นเสือต้องไม่ร้องไห้ ต้องมีศักดิ์ศรี” นายศุภชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายศุภชัย กล่าวว่า หากศาลรัฐธรรมูญชี้ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้ร่างกฎหมายตกไป ใช้บังคับไม่ได้ แต่ กกต.ก็ยังอยู่ตามกฎหมายพิเศษ ไม่ได้ไปทันที ส่วนจะเป็นกฎหมายพิเศษอะไร ยังไม่ขอบอก
เมื่อถามว่า การที่ กกต.มีมติตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะเป็นการต่อรองเรื่องเซ็ตซีโร่หรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการต่อรอง แต่เป็นอำนาจหน้าที่ ที่ กกต.ต้องพิจารณารัฐธรรมนูญ เมื่อคณะรัฐมนตรี หรือ สนช.มีคุณสมบัติไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ ต้องมีเหตุให้พ้นจากตำแหน่ง
“กรณีนี้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ยื่นคำร้องมาให้ กกต.ตรวจสอบ เมื่อยื่นเข้ามา กกต.ก็ต้องตรวจสอบก่อน ไม่ใช่ยื่นฟ้องศาลทันที ต้องดูว่าคำร้องถูกต้อง มีมูลตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของการประทบสิทธิ แต่ถ้าเราไม่รับเรื่องมา ก็จะโดนข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เพราะเรามีอำนาจเรียกมาไต่สวน .-สำนักข่าวไทย