รร.พลาซ่าฯ 14 มิ.ย. – “ศุภชัย” หนุนรัฐบาลเร่งโครงการรถไฟไทย- จีน และอีอีซี เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทยหนีคู่แข่ง
นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการ การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา ( UNCTAD ) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก ( WTO ) กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “การขับเคลื่อนธรรมาภิบาลท่ามกลางกระแสโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง” ว่า สนับสนุนนโยบายการลงทุนของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนและการลงทุนในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เพื่อช่วยยกศักยภาพด้านการแข่งขันให้ประเทศไทยเติบโตมากกว่าคู่แข่งที่ขณะนี้คู่แข่งกำลังไล่หลังและมีแนวโน้มที่จะแซงประเทศไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า เนื่องจากปัจจุบันอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยโตค่อนข้างต่ำเฉลี่ยประมาณร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านและคู่แข่งที่ขยายตัวถึงร้อยละ 6-7 ดังนั้น ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งการลงทุน หากมีเครื่องมือที่สามารถช่วยปลดล็อกการลงทุนให้เกิดขึ้นโดยเร็วได้ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะแม้การลงทุนภาครัฐจะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 15-20 ต่อปี แต่การลงทุนภาคเอกชนกลับหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด หากเอกชนจริงใจควรจะลงทุนทันที โดยไม่ต้องรอรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลลงทุนอย่างเต็มที่และผ่อนคลายกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนให้เอกชนแล้ว
“การที่มีข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ปลดล็อค เพื่อให้โครงการรถไฟไทย – จีน เกิดขึ้นได้เร็วขึ้นนั้น เห็นว่าขึ้นกับนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่สนับสนุนว่าโครงการรถไฟไทย- จีนจะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว แม้จะเริ่มต้นก่อสร้างเพียงไม่กี่กิโลเมตรก็ขอให้ทำ เพราะหากไม่ก่อสร้างต่างชาติก็จะไปลงทุนที่อื่น เหมือนกับที่หลายชาติไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม การเจรจาโครงการนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับไทย โดยเฉพาะต้องเป็นการเปิดประตูอีสานเพื่อการลงทุนเต็มที่และกระจายการลงทุนไปสู่เออีซี ” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศมหาอำนาจใช้นโยบายมาตรการผ่อนคลายในเชิงปริมาณการเงิน (QE) ออกมาจำนวนมาก ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเอเชีย เพราะเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดเอเชีย ทำให้เงินสกุลเอเชียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจัยจากภายนอกยังเป็นปัจจัยหลักที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจเอเชีย ทั้งนโยบายการเงินที่ไม่สมดุลของโลก ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ดังนั้น มีความจำเป็นที่ประเทศในเอเชียต้องผนึกกำลังกันให้แน่น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและเติบโตไปด้วยกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเอเชีย.- สำนักข่าวไทย