ดัน “ส้มบางมด-ลิ้นจี่บางขุนเทียน” ขึ้นทะเบียน GI

กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ลงพื้นที่เร่งฟื้น “ส้มบางมด-ลิ้นจี่บางขุนเทียน” ขึ้นทะเบียนสินค้า GI กรุงเทพฯ ตั้งเป้าผลักดันอีก 7 จังหวัดภายในปีนี้


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปีนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ลงพื้นที่เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและส่งเสริมให้เกิดการยื่นคำขอสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ให้ครบทั้ง 77 จังหวัด ภายใต้โครงการส่งเสริมหนึ่งจังหวัดหนึ่งสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ปี 2560 ปัจจุบันมี 8 จังหวัด ที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอ GI ได้แก่ กรุงเทพฯ สระแก้ว สิงห์บุรี สมุทรสาคร สตูล กาญจนบุรี ระนอง และกระบี่ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่กรุงเทพมหานคร โดยวิสาหกิจชุมชนจอมทองพัฒนาได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์สินค้า “ส้มบางมด”และ“ลิ้นจี่บางขุนเทียน” ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาในการลงพื้นที่ครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ส้มบางมดเป็นส้มเขียวหวานมีทรงผลกลมมน หรือแป้นเล็กน้อย ผิวผลเรียบ เปลือกบาง เนื้อส้มภายในเป็นสีส้มอมทอง ฉ่ำน้ำ ซังนิ่ม กลีบแยกออกจากกันง่าย เมื่อแกะออกมาแล้วกลิ่นจะติดจมูก มีรสชาติอร่อยหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย จากประวัติพบว่าส้มบางมดนำมาปลูกในพื้นที่ตำบลบางมด ปัจจุบันคือ แขวงบางมดในเขตทุ่งครุและเขตจอมทองของกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2468 โดยนายเสม และมีการปลูกทั่วไปในพื้นที่จนเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงในชื่อ “ส้มบางมด” ต่อมาปี 2526 เกิดน้ำท่วมใหญ่ ทำให้สวนส้มบางมดล่มจำนวนมาก และปี 2533 มีน้ำทะเลหนุนเข้ามาประกอบกับเกิดโรคระบาด รวมถึงประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ต้นส้มบางมดยืนต้นแห้งตาย จนกระทั่งปี 2546 สำนักเขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร สนองพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดทำโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสวนส้มบางมด (Chom Thong Model) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ และได้เชิญชวนเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ ทำให้เกษตรกรสนใจและให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และปลูกพืชที่มีชื่อเสียงมายาวนานอย่างส้มบางมด และส่งเสริมให้สวนส้มบางมดเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านเกษตร และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกด้วย ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกใน 8 เขตของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตจอมทอง เขตบางขุนเทียน เขตทุ่งครุ   เขตราษฎร์บูรณะ เขตบางบอน เขตภาษีเจริญ เขตบางแค และเขตหนองแขม


 

นอกจากนี้ ลิ้นจี่บางขุนทียนถูกนำมาปลูกตั้งแต่ยุคต้นรัตนโกสินทร์ในสมัยรัชกาลที่ 3 ตามบันทึกของบาทหลวงปาเลอกัวร์ เมื่อ พ.ศ. 2397 บันทึกไว้ว่า “มีการปลูกลิ้นจี่ในพระนครอย่างหนาแน่นโดยเฉพาะที่ตำบลโพงพาง ตำบลบางขุนเทียน และตำบลบางค้อ” ในอดีตคลองบางขุนเทียน ซึ่งแยกจากคลองด่านและคลองสนามชัยที่บรรจบกัน คลองบางขุนเทียนนี้จะโค้งและมีคุ้งน้ำอยู่เลยเข้าไปจากวัดบางขุนเทียนนอก วัดบางขุนเทียนกลางและวัดบางขุนเทียนใน สองฝั่งของคุ้งน้ำจะเต็มไปด้วยสวนลิ้นจี่ รวมถึงคลองบางประทุน และริมสองฝั่งคลองสายต่าง ๆ ในพื้นที่เขตจอมทองและเขตราษฎร์บูรณะ ปัจจุบันชุมชนเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมืองหลวงยังพบสวนลิ้นจี่บางขุนเทียนโบราณที่มีต้นลิ้นจี่อายุกว่า 100 ปี ในเขตจอมทองด้วย จากการสำรวจและเก็บข้อมูลสายพันธุ์ลิ้นจี่บางขุนเทียนจะพบพันธุ์ทางการค้าที่มีการปลูกมากที่สุด คือ พันธุ์กะโหลกใบยาว สำหรับพันธุ์พื้นเมืองที่คนทั่วไปมักไม่คุ้นหู เช่น พันธุ์กระโถนท้องพระโรง พันธุ์กะโหลกในเตา พันธุ์กะโหลกไฟไหม้ พันธุ์กะโหลกใบอ้อ พันธุ์สาแหรกทอง พันธุ์บางหญ้าแพรก เป็นต้น เนื่องจากสภาพดินพื้นที่ดังกล่าวเป็น “ดินลักจืดลักเค็ม” ทำให้ได้ผลผลิตลิ้นจี่บางขุนเทียนที่มีรสชาติหวาน กลิ่นหอม แห้งน้ำ ไม่มีรสฝาดเจือ ที่ปลูกในเขตจอมทอง และเขตราษฎร์บูรณะ ของกรุงเทพมหานคร

นอกจากสภาพดินที่ส่งผลต่อลิ้นจี่บางขุนเทียนให้ได้รสชาติดีแล้ว สภาพอากาศก็ส่งผลต่อลิ้นจี่เช่นกัน เนื่องจากลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่ชอบอากาศหนาว ถ้าปีไหนอากาศหนาวจัดก็จะออกผล ด้วยอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป นับตั้งแต่ 2558 ลิ้นจี่จึงไม่ออกผลผลิตมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงได้แต่หวังว่าหากอากาศหนาวติดต่อกันยาวนาน เราคงได้มีโอกาสเห็นลิ้นจี่บางขุนเทียนออกผลมาให้ได้รับประทานครั้งนึงในชีวิตนี้


อย่างไรก็ตาม  คาดหวังว่าอีก 7 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว สิงห์บุรี สมุทรสาคร สตูล กาญจนบุรี ระนอง และกระบี่ จะสามารถดำเนินการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียน GI เพื่อยื่นต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ภายในปี 2560 และกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้วางแผนเจาะตลาดของสินค้า GI ซึ่งเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยจะเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) สำหรับผู้บริโภคที่นิยมชมชอบสินค้าที่มีจุดเด่น มีคุณภาพดี มีความแตกต่างและไม่เหมือนใคร ดังนั้น การนำ GI มาใช้ประโยชน์ตรงนี้จะเป็นการตอบโจทย์ในการพัฒนาสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า GI เป็นสินค้าคุณภาพดีที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลิตได้เฉพาะท้องถิ่น และมีปริมาณที่จำกัด ซึ่งตรงกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มที่จะหาซื้อสินค้าคุณภาพสูง ที่เป็นของดี ของแท้ ของหายากที่มาจากท้องถิ่นนั้นจริง ๆ

ในปีนี้กรมฯ ร่วมกับบริษัทเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด จัดมุม GI Corner เพื่อขยายช่องทางการตลาดสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ไทย โดยนำร่อง 2 สาขา คือ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาเซ็นทรัล  ชิดลม และท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ คาดว่าสิ้นปี 2560 จะมี GI Corner ครบ 100 สาขา  และผลจากการจัดงาน GI Market 2017 ระหว่างวันที่ 27 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2560 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาแจ้งวัฒนะ ที่ผ่านมามียอดจำหน่ายสินค้ากว่า 5 ล้านบาท และยอดเจรจาธุรกิจสินค้าแห้วสุพรรณบุรี เพื่อส่งออกไปสหรัฐอเมริกาและเกาหลีกว่า 4 ล้านบาท อีกทั้งปีนี้กรมฯ ยังเริ่มโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์สินค้า GI ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคสมัยใหม่ โดยปีนี้จะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 16 ราย เป็นปีแรกอีกด้วย โดยถ้าได้รับการตอบรับอย่างดีก็จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปีต่อ ๆ ไป

ทั้งนี้ ยืนยันสินค้าใดที่ขึ้นทะเบียน GI สินค้าเหล่านั้นจะมีราคาสูงขึ้นทุกรายการ แต่จะต้องดูแลคุณภาพสินค้าที่ขึ้นทะเบียนไปแล้วให้ดีต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าความตัองการสินค้าผลไม้ที่ขึ้นทะเบียน GI จะมีความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นจนต้องมีการจองผลไม้ชนิดต่าง ๆ กันแบบล่วงหน้า โดยกรณีส้มบางมดปกติแต่ละปีเมื่อผลผลิตออกช่วงเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนมกราคมของทุกปี ราคาปกติจะอยู่ที่ 150 บาทต่อกิโลกรัม น่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือหากขึ้นตามห้างต่าง ๆ จะมีราคาสูงขึ้นอย่างมากด้วยเช่นกัน หลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะเร่งส่งเสริมให้ผู้ปลูกผลไม้ไทยต้องรักษาคุณภาพให้ดีขึ้นและพร้อมที่จะเร่งหาตลาดต่างประเทศ เพื่อให้ราคาผลไม้ไทยมีราคาสูงและเพียงพอต่อการบริโภคทั้งในช่วงฤดูและหลังฤดูต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ลึกกว่า 10 ม.

กทม. 19 พ.ค. – เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมลึกกว่า 10 ม. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม เกิดเหตุคนพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 ขนาดความลึกประมาณ 15-19 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างช่วยเหลือ โดยโรยตัวลงไปช่วยผู้ติดอยู่ภายในหลุม สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ดันปลอกเหล็กขึ้นลงเพื่อขุดดินก่อสร้างสถานีหลานหลวง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

คุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ส่งศาลฝากขัง

บางซื่อ 19 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ไปฝากขังศาลอาญาแล้ว พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่วนนิติบุคคลบริษัท ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว ช่วงบ่ายวันนี้ (19 พ.ค.68) พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ควบคุมตัวนายพลเดช กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ขึ้นรถตู้ตำรวจไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บรรยากาศระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายพลเดช ออกมาจากห้องสอบสวน บริเวณชั้น 1 ของโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้พานายพลเดช เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนจะพาเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงพัก แล้วพาเดินลงมาขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ โดยระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กังวลหรือไม่เรื่องการยื่นขอประกันตัว และสอบถามอีกว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่นายพลเดช ไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีสีหน้าค่อนข้างกังวล ก่อนจะขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ ขณะที่นายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความ เดินตามมาทีหลัง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า นายพลเดช ให้การว่าอย่างไรบ้าง ปฏิเสธหรือยอมรับข้อกล่าวหา […]

นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับ ปธน.อินโดนีเซีย

ทำเนียบ 19 พ.ค.- นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยในรอบ 20 ปี พร้อมสานต่อความสัมพันธ์ 75 ปี ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกมิติ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายปราโบโว ซูบียันโต (H.E. Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ในรอบ 20 ปี ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และนายกรัฐมนตรี เชิญประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถ่ายภาพร่วมกัน ณ บันไดโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึก ณ ห้องสีงาช้าง (ด้านนอก) ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นผู้นำทั้งสอง หารือข้อราชการเต็มคณะ ภายใต้กลไก Leaders’ Consultation ครั้งแรก […]

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]