นครนายก 8 มี.ค. – อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ดัน GI “มะยงชิด- มะปรางหวานนครนายก” กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น คาดส่งออกเพิ่มรายได้แตะหลัก 100 ล้านบาท
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกับจังหวัดนครนายกและหน่วยงานท้องถิ่น จัดงาน “มะยงชิด มะปรางหวาน ของดีนครนายก ประจำปี 2563” บริเวณสี่แยกช้าง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก อย่างยิ่งใหญ่ โดยยกขบวนสินค้า GI มะยงชิดนครนายก มะปรางหวานนครนายก และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ มาให้เลือกชม ชิม ช้อป ร่วมด้วยการจัดประกวดผลผลิตของเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมเผยแผนการตลาดกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
สำหรับมะยงชิดนครนายกและมะปรางหวานนครนายกเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดที่มีคุณภาพและเอกลักษณ์โดดเด่นจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2559 ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาขอชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนภายในจังหวัดให้ความสำคัญส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าดังกล่าวเป็นอย่างดี ทั้งการผลิต การตลาด ตลอดจนการพัฒนามาตรฐานการส่งออก งานมะยงชิด มะปรางหวาน ของดีนครนายก จัดขึ้นครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้าดังกล่าวให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม และน่ายินดีปีนี้สภาพภูมิอากาศเอื้อต่อการปลูกมะยงชิดนครนายกและมะปรางหวานนครนายก ทำให้ผลผลิตมีปริมาณมากและมีคุณภาพตามมาตรฐานสินค้า GI โดยมะยงชิดนครนายกที่นำมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงานมีลักษณะเด่น คือ มีผลใหญ่รูปไข่ เนื้อแน่น กรอบ มีกลิ่นหอม และรสชาติหวานอมเปรี้ยว ส่วนมะปรางหวานนครนายกมีผลใหญ่ยาวรี เปลือกบาง มีกลิ่นหอม และรสชาติหวานกรอบ ซึ่งทางจังหวัดคาดว่าปีนี้จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตโดยรวมได้ประมาณ 400 ตัน เพียงพอต่อความต้องการของตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในชุมชนกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้น กรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงอยากฝากไปถึงพี่น้องเกษตรกรชาวสวนมะยงชิดนครนายกและมะปรางหวานนครนายกให้รักษาคุณภาพการผลิตสินค้าให้ปลอดภัยและได้มาตรฐาน GI เพื่อสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคตลอดจนเครือข่ายการตลาดส่งผลให้มีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้มั่นคงให้แก่เกษตรกรชาวสวนโดยรวมต่อไป
นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวว่า ปัจจุบันผลผลิตมะยงชิดนครนายกและมะปรางหวานนครนายกกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทางจังหวัดจึงเร่งส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ผลิตที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการควบคุมมาตรฐาน GI ทำเรื่องขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ GI เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพการผลิตสินค้าทั้ง 2 ประเภทให้ได้มาตรฐาน และยังช่วยป้องกันการปลอมปนและแอบอ้างใช้ตราสัญลักษณ์ GI เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรท้องถิ่นดีขึ้นอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย