รมว.พม.หารือเตรียมการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 29 พ.ค.- พม.เตรียมถ่ายโอนศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ ให้ท้องถิ่น เพื่อดูแลผู้สูงอายุป่วยติดเตียง เริ่มดำเนินการกันยายนนี้ 


พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสัง คมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม ได้เข้าเยี่ยม เพื่อหารือข้าราชการ เรื่องการเตรียมการผู้สูงอายุ ที่เกี่ยวข้องกับ พม.พร้อมติดตามความคืบหน้าเกี่ยว กับข้อเสนอการปฏิรูปการพัฒนาแก้ไขกฎระเบียบ ข้อบังคับที่เอื้อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตและดูแลผู้สูงอายุ ตามคำสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ พม.และกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่ง พม.โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ ที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ชี้แจงถึงผลการดำเนินการที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ทั้งเรื่องจ้างงานผู้สูงอายุที่ตั้งเป้าไว้ 3.9 หมื่นตำแหน่ง การจัดตั้งชมรมผู้สูงอายุ กว่า 2.7 หมื่นชมรม อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุกว่า 8 หมื่นคน และการออมรวมถึงที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ เป็นต้น

ส่วนประเด็นข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรี เรื่องการกระจายอำนาจการดูแลผู้สูงอายุให้แก่ท้องถิ่นนั้น ส่วนของ พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ ได้เตรียมถ่ายโอน ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ หรือ ศพอส. ซึ่งปัจจุบันมี 878 แห่ง สู่ระดับตำบลในลักษณะสถานสง เคราะห์ขนาดเล็ก เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ และจะขยายเพิ่มอีก 400 แห่งในปี 2561 ครบทุกตำบลภายใน 5 ปีข้างหน้า  โดย ศพอส.1 แห่งใน 1 ตำบล จะมี care giver หรือคนดูแลผู้สูงอายุ 2 คน โดย 1 คนจะดูแลผู้ป่วยติดเตียงไม่เกิน 10 คน  ทั้งนี้ ตำบลที่จะตั้ง ศพอส.ได้ ต้องผ่านมารตฐานการจัดตั้ง ประกอบด้วย มาตรฐานหลักสูตรอบรมผู้ดูแล มาตรฐานผู้ดูแลผู้สูงอายุ ต้องผ่านการฝึกเป็น care giver และมาตรฐานสถานดูแลผู้สูงอายุ ตามที่กำหนด คาดจะเริ่มทยอยถ่ายโอนสู่ท้องถิ่นได้ประมาณเดือนกันยายนนี้ 


ด้านนายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ประธานสภาคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ส่วนของการดำเนินงานของ พม.ตามที่นำเสนอถือว่ามีความพร้อมในการรองรับนโยบายผู้สูงอายุ แต่ยังติดในเรื่องของสัดส่วน care giver ในระดับตำบล ที่มีแห่งละ 2 คน มองว่าควรเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น เพราะในอนาคต ปี 2564 ไทยจะมีผู้สูงอายุ มาถึง 13.4 ล้านคน  ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงเพิ่มขึ้นคาดไม่น้อยกว่าร้อยละ 1  สัดส่วนคนดูแลตามที่กำหนดอาจไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ พม.เป็นตัวกลางเจรจากับกระทรวงมหาดไทย ในการเร่งแก้ไขกฎระเบียบเรื่องการเบิกจ่ายการเงิน ให้ท้องถิ่นสามารถเบิกจ่ายเงินในการดูแลผู้สูงอายุเองได้เลย เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับผู้สูงอายุในในพื้นที่ จะได้สะดวก รวดเร็ว สามารถดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 10.7 ล้านคนได้อย่างเต็มที่ไม่  ต้องกังวลเรื่องการเบิกจ่ายที่ทำให้การดูแลติดขัดตามไปด้วย.-สำนักข่าวไทย  

           


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย