สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 18 พ.ค.- “รสนา” ยื่นเอกสารเพิ่มขอให้ส่งร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมให้ศาล รธน. วินิจฉัยว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วย รธน.หรือไม่
น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายทิฆัมพร ยะลา เจ้าหน้าที่สอบสวนผู้ชำนาญการ สำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน เพื่อยื่นข้อมูลเพิ่มเติม ตามคำร้อง เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2560 ที่ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่ผ่านการพิจารณาของ สนช. เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
น.ส.รสนา กล่าวว่า วันนี้เป็นการยื่นเพิ่มเติม เพราะการที่ สนช.ผ่านร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เป็นช่วงรอยต่อ ก่อนที่รัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ จะประกาศใช้เพียง 6 วัน ซึ่งมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ออกมาตรการปฏิบัติตาม มาตรา 77 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ ว่าทุกหน่วยงานที่จะตรากฎหมายขึ้น จะต้องให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และจัดทำรายงานผลกระทำอย่างรอบด้าน ซึ่ง สนช.ย่อมรู้แนวทางการจัดทำร่างกฎหมายตามบทบัญญัติของ มาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่ สนช.ไม่ได้มีการดำเนินการจัดทำความคิดเห็นตาม มาตรา 77 วรรคสอง ย่อมทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์ในการร่วมตรากฎหมายตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
“พบว่า สนช. ตัด มาตรา 10/1 ออกไป โดยไม่ถูกต้องตามข้อบังคับการประชุม และไม่มีการลงมติให้ตัดออกโดยที่ประชุม สนช. ทราบว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นคนขอไว้ ใช้เทคนิคเหมือนเป็นการล้มมวย ก่อนที่ไม่มีการลงมติ และใช้วิธีการถอนออกไป” น.ส.รสนา กล่าว
เมื่อถามว่า ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมเป็นเพียงร่างกฎหมาย อาจจะไม่อยู่ในอำนาจผู้ตรวจการการแผ่นดิน น.ส.รสนา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เราก็ใช่ช่องทางตามรัฐธรรมนูญตาม มาตรา 213 ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว แต่การมายื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นอีกช่องทางหนึ่งตาม มาตรา 77 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเราเห็นว่าการที่จะทูลเกล้าฯ ร่างกฎหมายจะต้องไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ .- สำนักข่าวไทย