fbpx

กรมประมงแจงปิดอ่าวไทยปลาทูเพิ่มขึ้น

บางเขน  17 พ.ค. – กรมประมงระบุปิดอ่าวไทย 3 เดือน ทรัพยากรสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะปลาทูกลับมาชุกชุม และพบชาวประมงทำผิดกฎหมายน้อยลง


นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง แถลงผลการฟื้นฟูทรัพยากรปลาทูในอ่าวไทย ว่า  หลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกประกาศ เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ในพื้นที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ภายในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฝั่งทะเลอ่าวไทยประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง15 พฤษภาคม 2560 รวมระยะเวลา 3 เดือน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 26,400 ตารางกิโลเมตร

ทั้งนี้ จากการสำรวจติดตามสถานการณ์ในเขตปิดอ่าวและบริเวณใกล้เคียงตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมาเจ้าหน้าที่กรมประมงใช้เครื่องมือตรวจสอบฝูงปลา (Sounder) ตรวจพบพ่อแม่พันธุ์ปลา 3,000 กิโลกรัม และฝูงลูกปลา 10,000 กิโลกรัม บริเวณเกาะพะงัน และยังพบข้อมูลชาวประมงพื้นบ้านจับปลาทูขนาดใหญ่ได้บริเวณอ่าวชุมพร โดยใช้เครื่องมืออวนติดตาขนาดไม่ต่ำกว่า 2 นิ้ว นอกจากนี้ ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายังได้รับรายงานว่าพบฝูงลูกปลาทูขนาดเล็กชุกชุมจำนวนมากบริเวณห่างฝั่ง 3-5 ไมล์ทะเล ตั้งแต่จังหวัดชุมพรถึงสุราษฎร์ธานี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลบริเวณฝั่งอ่าวไทยเริ่มฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง  


นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังออกประกาศ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมง และพื้นที่ทำการประมงในพื้นที่จับสัตว์น้ำบางแห่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2560 เพิ่มจากเดิมและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560  โดยประกาศฉบับนี้ได้ห้ามใช้เครื่องมืออวนทุกชนิดที่ใช้ประกอบเรือกลทำการประมง โดยใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) ทำการประมงในพื้นที่จับสัตว์น้ำบางแห่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ด้วย และจากข้อมูลการปิดอ่าวไทยสามารถยืนยันได้ว่า “ปลาทูไทย ไม่ได้หายไปไหน” แต่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือ ร่วมใจ ของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน และพาณิชย์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันอนุรักษ์ฟื้นฟู งดเว้นการจับพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำในฤดูวางไข่ ซึ่งจะสามารถทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำฟื้นฟูตัวเองกลับมาได้ตามธรรมชาติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย