กรมป่าไม้ 9 พ.ค.-กรมป่าไม้เตรียมฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย “นายอุดม-นางแดง ศิริสอน” คดีรุกป่า จ.กาฬสินธุ์ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนลงพื้นที่ขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงกรณีนายอุดมและนางแดง ศิริสอน ที่ตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันบุกรุกแผ้วถางป่า จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2553 โดยศาลฎีกามีคำพิพากษา และคดีถึงที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ในส่วนของกรมป่าไม้กำลังให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทั้งในพื้นที่และจากส่วนกลางลงพื้นที่สอบสวนสืบสวนเพื่อขยายผลไปยังเครือข่ายของกลุ่มตัดไม้ทำลายป่ากลุ่มนี้ โดยทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากข้อมูลและพยานหลักฐานขณะนี้ พบหลักฐานใหม่ที่มีความเชื่อมโยงหลายอย่าง แต่เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 ทำให้การหาพยานบุคคลและพยานหลักฐานค่อนข้างทำได้ยาก
ทั้งนี้ กรมป่าไม้ยืนยันปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด และจะดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่าทุกราย โดยไม่มีข้อยกเว้น
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้กรมป่าไม้กำลังดำเนินการเพื่อฟ้องทางแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายจากนายอุดมและนางแดง ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปีพุทธศักราช 2535 ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการประเมินมูลค่าความเสียหายของกรมป่าไม้กำลังประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อคำนวณออกมาเป็นตัวเลขในการฟ้องเรียกค่าเสียหาย ซึ่งคำนวณจาก 2 ส่วนรวมกัน คือจากงบประมาณหรือค่าใช้จ่ายในการปลูกและดูแลป่าในพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางไป และคำนวณจากราคาของไม้ซึ่งไม้สัก จะมีมูลค่าสูงตั้งแต่ 20,000 บาท ถึงหลักแสนบาท ในกรณีนี้เป็นไม้สักอายุประมาณ 17 ปี ซึ่งมูลค่าน่าจะอยู่ประมาณลูกบาศก์เมตรละ 20,000 บาท ยืนยันไม่ได้เป็นการซ้ำเติมทั้ง 2 คน แต่เป็นการปฏิบัติตามกฏหมายและมีหลักฐานชัดเจนว่าทั้ง 2 คน ร่วมในขบวนการตัดไม้ด้วย.-สำนักข่าวไทย