ฮ่องกง 27 เม.ย. – “สมคิด” ดึงผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมหนุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ด้านไชน่าเมอร์ชานท์กรุ้ปยักษ์ใหญ่โลจิสติกส์ฮ่องกงสนใจพัฒนาแหลมฉบังเฟส 3
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน 2560 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเยือนเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เพื่อชักจูงการลงทุน ซึ่งวันที่ 26 เมษายน นายสมคิด ได้หารือรายบริษัทกับไชน่า เมอร์ชานท์ กรุ้ป ซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญของยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีน เนื่องจากทำธุรกิจครอบคลุมทั้งโลจิสติกส์โดยเฉพาะท่าเรือ ที่ปัจจุบันกลุ่มบริหารท่าเรืออยู่ 48 แห่ง 20 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจการเงินปัจจุบันใหญ่เป็นอันดับ 5 ของจีน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทขนาดใหญ่ของฮ่องกงและจีนที่จะไปลงทุนในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มไชน่าเมอร์ชานท์มีความสนใจลงทุนในไทยโดยเฉพาะธุรกิจท่าเรือ ซึ่งขณะนี้ไทยต้องการให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในโครงการแหลมฉบังเฟส 3 เพราะเป็นท่าเรือที่มีศักยภาพโดยเฉพาะเป็นพื้นที่ที่รถไฟจากจีนเชื่อมมาถึงในอนาคตและจะเป็นเส้นทางการขนส่งที่มีศักยภาพสูง และยังให้ความสนใจโครงการพัฒนาเมืองในระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ด้วย เพราะปัจจุบันกลุ่มเมอร์ชานท์มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งจีนและประเทศต่าง ๆ รวม 12 ล้านตารางเมตร และยังเป็นกลุ่มการเงินใหญ่อันดับ 5 ของจีนที่พร้อมสนับสนุนนักลงทุนจีนที่เข้ามาลงทุนในไทย นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังจะมีการเจรจาเป็นรายบริษัทกับอีกหลายบริษัท รวมถึงพบนักลงทุนเป็นกลุ่ม เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการและสิทธิประโยชน์ของโครงการอีอีซี
“การเจรจาชักจูงการลงทุนกับเมอร์ชานท์กรุ้ปเหมือนกับการได้คุยกับนักลงทุนกลุ่มใหญ่ เพราะธุรกิจจีนที่จะไปลงทุนทั่วโลกต้องปรึกษาเมอร์ชานท์ว่าจะไปลงทุนที่ไหน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีศักยภาพหากจะเข้ามาลงทุนก็ต้องเข้าสู่ระบบการประมูลเช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ” นายกอบศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเดินทางเยือนฮ่องกงรองนายกรัฐมนตรีได้หารือแบบรายบริษัทกับบริษัท Hybrid Kinetic ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกใหม่และแบตเตอรี่ลิเที่ยมที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ และปัจจุบันมีการตั้งสำนักงานและดำเนินการผลิตทั้งในจีน เซี่ยงไฮ้ และมณฑลเจียงซู และประเทศสหรัฐในรัฐโคโลราโด ทั้งนี้ บริษัท Hybrid Kinetic แสดงความสนใจที่จะลงทุนในประเทศไทย หลังจากรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนผลิตรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า โดยการหารือครั้งนี้รองนายกรัฐมนตรีให้รายละเอียดถึงนโยบายการให้การส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล พร้อมระบุว่ากิจการของบริษัทฯ เป็นกิจการเป้าหมายเป็นที่ต้องการของประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ปี 2553 Hybrid Kinetic เริ่มดำเนินกิจการร่วมค้ากับ Anhui Jianghuai Automobile ในเมืองเหอเฝย ประเทศจีน ด้วยเงินลงทุน 295 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หากสำเร็จจะนำไปสู่การผลิตเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ที่ออกสู่ตลาดต่อไป
สำหรับผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทปัจจุบัน ประกอบด้วย รถยนต์ เช่น Electric Bus และ Extended Range Car ผลิตแบตเตอรรี่และระบบควบควม ประกอบด้วย แบตเตอรี่ลิเที่ยม (LTO) มอเตอร์ไฟฟ้าระบบควบคุมแบตเตอรี่ (BMS) โมดูลแบตเตอรี่และกล่องแบตเตอรี่ รวมถึงอยู่ระหว่างการพัฒนาแกรฟีนเพื่อนำไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น หน้าจอแสดงผล วงจรไฟฟ้า และเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีน้ำหนักเบา บาง ยืดหยุ่นแต่คงทน อุปกรณ์ทางการแพทย์ กระบวนการทางสารเคมีและอุตสาหกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินการให้บริการทางการเงินด้วย.-สำนักข่าวไทย