ซิดนีย์/โตเกียว 5 ส.ค. – นายริชาร์ด มาร์ลส์ รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าววันอังคารว่า บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ ของญี่ปุ่นจะส่งมอบเรือฟริเกตใหม่ลำแรกให้กับกองทัพเรือออสเตรเลียภายใต้ข้อตกลงมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาสร้างเรือฟริเกต 3 ลำนี้ จะเป็นการจัดซื้อด้านการป้องกันประเทศที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย นับตั้งแต่รัฐบาลได้ตกลงที่จะสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ร่วมกับสหรัฐและอังกฤษเมื่อปี 2023 และยังเป็นหนึ่งในข้อตกลงการส่งออกอาวุธที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วย
นายมาร์ลส์กล่าวว่า การจัดซื้อครั้งนี้จะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในด้านการเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพเรือของออสเตรเลียในการแสดงแสนยานุภาพ ซึ่งการแสดงแสนยานุภาพที่มีประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญของความท้าทายเชิงยุทธศาสตร์ และเสริมว่า ข้อตกลงนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากในความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างออสเตรเลียและญี่ปุ่น
ด้านนายเก็น นาคาตานิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่าข้อตกลงนี้คือก้าวสำคัญในการร่วมมือด้านการป้องกันประเทศของญี่ปุ่น โดยเขาให้ข้อมูลในการแถลงข่าวที่กรุงโตเกียวว่า ผลประโยชน์ที่ได้รับคือการยกระดับการปฏิบัติการร่วมกันและความเข้ากันได้ของระบบ (interoperability) ที่ใช้ในออสเตรเลียและสหรัฐ
เรือฟริเกตชั้น “โมกามิ” (Mogami) ของบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ ได้รับการคัดเลือกโดยเอาชนะคู่แข่งคือเรือ “เมโก เอ-สองร้อย” (MEKO A-200) ของบริษัท “ทิสเซนครุปป์ มารีน ซิสเต็มส์” (ThyssenKrupp Marine Systems) จากเยอรมนี ในการประชุมของคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลออสเตรเลียเมื่อวันจันทร์
นายมาร์ลส์ กล่าวว่าเรือฟริเกตชั้น “โมกามิ” ที่ได้รับการอัปเกรดแล้วสามารถยิงขีปนาวุธพิสัยไกลได้ และมีพิสัยทำการสูงถึง 10,000 ไมล์ทะเล เทียบกับเรือฟริเกตชั้น “แอนแซก” (Anzac) ของออสเตรเลียในปัจจุบันที่มีพิสัยทำการประมาณ 6,000 ไมล์ทะเล นอกจากนี้ยังใช้ลูกเรือน้อยกว่าเรือชั้น “แอนแซก” อีกด้วย
รัฐบาลระบุในปี 2024 ว่าจะใช้จ่ายเงินสูงสุด 10,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียสำหรับเรือฟริเกตอเนกประสงค์เพื่อทดแทนเรือชั้น “แอนแซก” โดยเรือเหล่านี้จะติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการทำสงครามใต้น้ำและป้องกันภัยทางอากาศ เพื่อรักษาความปลอดภัยเส้นทางการค้าทางทะเลและพื้นที่ทางเหนือของออสเตรเลีย
เรือฟริเกตอเนกประสงค์ 3 ลำแรกจะถูกสร้างในญี่ปุ่น และเรืออีก 8 ลำที่เหลือคาดว่าจะถูกสร้างโดยบริษัท “ออสตัล” (Austal) ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย โดยเรือฟริเกตลำแรกคาดว่าจะส่งมอบได้ในปี 2029
สัญญาสร้างเรือฟริเกตนี้เป็นข้อตกลงด้านการป้องกันประเทศที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ยกเลิกการสั่งห้ามการส่งออกอาวุธทางทหารที่ยาวนานมาหลายทศวรรษในปี 2014 และเป็นครั้งที่สองหลังจากที่ญี่ปุ่นเคยตกลงที่จะจัดหาระบบเรดาร์ป้องกันภัยทางอากาศให้กับฟิลิปปินส์
นายนาคาตานิกล่าวว่า ความร่วมมือนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นและเสริมว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนการประมูลของมิตซูบิชิ หลังจากที่เคยแพ้การประมูลเรือดำน้ำของออสเตรเลียให้กับฝรั่งเศสเมื่อสิบปีก่อน
เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียและญี่ปุ่นกล่าวว่าการเจรจาสัญญาจะเริ่มขึ้นในปีนี้ และคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาในปี 2026 เจ้าหน้าที่ระบุว่า การสรุปราคา การบำรุงรักษาและข้อตกลงด้านการสนับสนุน และการถ่ายโอนการผลิตไปยังออสเตรเลียในภายหลัง เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจัดการต่อไป.-813.-สำนักข่าวไทย
เรีอฟริเกต, ญี่ปุุุ่น, ออสเตรเลีย, โมกามิ,