กรุงเทพฯ 21 เม.ย.- ศาลชั้นต้นสั่งประหารชีวิตอาเธอร์ฆ่าหั่นศพแช่แข็งเพื่อนชาวสเปน ชี้แรงจูงใจหวังเงินในบัญชีผู้เสียชีวิตที่มีกว่า 10 ล้านบาท
คดีนี้อัยการยื่นฟ้องนายอาเธอร์ เซการา พรินเซพ หรืออาร์ตู (Mr.Segarra Princep Artur) อายุ 38 ปี สัญชาติสเปน ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย, หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ, ลักทรัพย์
กรณีนายอาเธอร์ จำเลย ได้พานายเดวิด เบอเนต โมราด ชาวสเปน ผู้เสียชีวิต เข้าไปในห้องพักที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านพระราม 9 ก่อนฆ่าหั่นศพ และนำชิ้นส่วนศพทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนถูกพบเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2559 จากนั้นได้หลบหนีไปพร้อมเงินของนายเดวิด ผู้เสียชีวิต จำนวน 734,940 บาท
ศาลเบิกตัวนายอาเธอร์ จำเลย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อฟังคำพิพากษา ซึ่งนายอาเธอร์ถูกคุมขังมานานกว่า 1 ปี 2 เดือน นับตั้งแต่ถูกจับกุมและฝากขังเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 และชั้นพิจารณาคดี นายอาเธอร์ จำเลย แถลงต่อศาลให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยระบุว่าได้อาศัยอยู่ในคอนโดฯ ดังกล่าว แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ตาย
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าแม้คดีนี้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยกระทำความผิด แต่เมื่อพิจารณาจากพยานแวดล้อม ประกอบคำเบิกความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่คอนโดฯ และพื้นที่ใกล้เคียง พบภาพนายอาเธอร์พานายเดวิด ผู้เสียชีวิต เข้าไป แต่ไม่ปรากฎภาพว่านายเดวิดออกมาจากคอนโดฯ ดังกล่าว และยังพบภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานเบิกความว่านายอาเธอร์ขี่รถจักรยานยนต์บรรทุกถุงดำออกจากคอนโดฯ จนมีผู้พบชิ้นส่วนศพในภายหลัง และยังพบหลักฐานว่านายอาเธอร์ซื้อตู้แช่แข็ง เครื่องเจียลูกหมู และใบเลื่อยขนาดต่างๆ ในช่วงก่อนเกิดเหตุ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานยังตรวจสอบห้องพักในคอนโดฯ พบคราบเลือดที่ผนังห้องน้ำ มีดีเอ็นเอตรงกับนายเดวิด รวมถึงพบดีเอ็นเอในเครื่องเจียลูกหมู ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญ ทางนิติวิทยาศาสตร์ มีความถูกต้อง แม่นยำ เชื่อถือได้
ส่วนมูลเหตุจูงใจมีเจ้าหน้าที่ธนาคารเบิกความเชื่อมโยงกันว่าพบการโอนเงินจากบัญชีของนายเดวิด ผู้เสียชีวิตจากประเทศสิงคโปร์ เข้าบัญชีของนายอาเธอร์ จำเลย และยังมีแฟนสาวของจำเลย เบิกความว่านายอาเธอร์ จำเลย ให้บัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน และจากหลักฐานแสดงว่านายเดวิดมีเงินฝากหลายสิบล้านบาท เชื่อว่าเป็นเหตุจูงใจฆ่าเพื่อเอาเงินของนายเดวิด ผู้เสียชีวิต โดยนำตัวมากักขัง บังคับเอาข้อมูลส่วนตัว รหัสธนาคาร ก่อนฆ่าโดยนำศพแช่แข็ง แล้วใช้เครื่องเจียลูกหมู และเลื่อยหั่นศพ โดยนำชิ้นส่วนไปทิ้งยังที่ต่างๆ
ศาลจึงพิพากษาประหารชีวิตนายอาเธอร์ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นไปใช้ จำคุก 5 ปี ฐานนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จำคุก 10 ปี ฐานปลอมแปลงข้อมูลอีเมล จำคุก 4 ปี และฐานทำลาย ซ่อนเร้น อำพรางศพ จำคุก 2 ปี แต่เมื่อศาลลงโทษประหารชีวิตแล้วจึงไม่อาจรวมโทษจำคุกในข้อหาอื่นได้ พร้อมให้คืนเงินกว่า 7 แสนบาท กับญาติผู้เสียชีวิต
ขณะที่บรรยากาศในห้องพิจารณาคดีมีเจ้าหน้าที่จากกงสุลสเปน ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เข้าร่วมฟังการพิจารณาคดี รวมถึงญาติของนายอาเธอร์ จำเลย ซึ่งภายหลังศาลพิพากษาญาติได้ร้องให้และเข้ากอดนายอาเธอร์ แต่นายอาเธอร์กลับมีสีหน้าที่เรียบเฉยและยิ้มแย้ม
ด้านนายวรสิทธิ์ พิริยะพิบูรณ์ ทนายจำเลย ได้กล่าวว่าหลังจากนี้จะยื่นอุทธรณ์คดีภายใน 30 วัน โดยจะขอต่อสู้ในประเด็นฐานเจตนาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะจำเลยยังยืนยันว่าไม่ได้ฆ่าผู้เสียชีวิตตามที่ถูกกล่าวหา.-สำนักข่าวไทย