เทียนจินตรวจโควิดทั้งเมือง 14 ล้านคนรอบใหม่

เทียนจิน 12 ม.ค.- เทศบาลนครเทียนจิน ทางเหนือของจีนเริ่มการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กับคนทั้งเมือง 14 ล้านคนรอบใหม่ในวันนี้ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่า มาตรการจำกัดการระบาดอาจกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจจีน เมืองเทียนจินพบการติดเชื้อในชุมชนที่มีอาการ 33 คนเมื่อวันอังคาร เพิ่มขึ้นจาก 10 คนเมื่อวันจันทร์ ทางการสั่งให้พนักงานบริษัทและหน่วยงานต่าง ๆ ลางานครึ่งวันในวันนี้ แล้วให้อยู่แต่ในบ้าน ตามมาตรการตรวจหาเชื้อทั้งเมืองรอบที่ 2 ส่วนที่เมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีนที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนในชุมชนเช่นเดียวกัน พบผู้ติดเชื้อในชุมชนที่มีอาการรายใหม่ 65 คนเมื่อวันอังคาร เพิ่มขึ้นจากที่พบเพียง 2 คนเมื่อวันจันทร์ ทั้งสองเมืองใช้มาตรการจำกัดการเดินทางภายในเมือง และการออกนอกเมือง รวมทั้งตรวจหาเชื้อขนานใหญ่ นักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์คาดว่า จีนจะใช้มาตรการจำกัดมากยิ่งขึ้นเพื่อควบคุมเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่ง่าย ทำให้เกิดต้นทุนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น จึงปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2565 จากร้อยละ 4.8 เหลือร้อยละ 4.3 เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์ของมอร์แกนสแตนลีย์ที่มองว่า ประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาสแรกของปีนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดลง.-สำนักข่าวไทย

ภาคเอกชนขอบคุณรัฐบาลไม่ล็อกดาวน์ประเทศ

กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-หอการค้าไทยขอบคุณรัฐบาลไม่ล็อกดาวน์ประเทศ แม้จำนวนคนติดเชื้อโอไมครอนรายวันเพิ่มขึ้น วอนรัฐดูแลเรื่อง ATK เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวกขึ้น

ครม.ผ่านงบปี 66 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท

ครม.ผ่านงบประมาณรายจ่ายปี  66  วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท  ยังจัดทำงบขาดดุล  695,000 ล้านบาท  ย้ำอยู่ในกรอบวินัยการคลัง  นายกรัฐมนตรีสั่งทุกหน่วยงาน  เร่งเครื่องขับเคลื่อนทุกมาตรการ ฟื้นเศรษฐกิจ 

“พิชัย” คาดเศรษฐกิจปี65 “ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น”

“พิชัย” คาดการณ์เศรษฐกิจ ปี 2565 “ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” ชี้ 8 ปัญหาเศรษฐกิจที่ไทยต้องเผชิญ เช่น เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขึ้น หนี้พุ่ง งบประมาณลด ว่างงานเพิ่ม แนะถ้ารู้ตัวอย่าดันทุรัง เพราะไม่มีทางแก้ไขได้ 

จีนจะตั้งพื้นที่กันชนตามเมืองชายแดนสกัดโควิด

ปักกิ่ง 29 ธ.ค.- จีนจะตั้งพื้นที่กันชนตามเมืองชายแดนเพื่อสกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่มากับคนเข้าประเทศ และเพื่อปกป้องเศรษฐกิจประเทศ นายเหลียง ว่านเหนียน หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำรัฐบาลจีนเรื่องการรับมือโควิด-19 ชี้ว่า การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแสดงให้เห็นว่าจีนจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการควบคุมเป็น 2 เท่า ไม่ใช่ปรับตัวรับการระบาด ประชาชนในพื้นที่กันชนตามเมืองชายแดนจะใช้ชีวิตตามปกติตราบใดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่หากพบการติดเชื้อจะต้องมีการคัดกรองและติดตามหาผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดภายในพื้นที่เป้าหมายของพื้นที่กันชน รวมทั้งตั้งด่านตรวจเพื่อห้ามคนในพื้นที่กันชนออกมาโดยไม่จำเป็น ส่วนพื้นที่นอกแนวกันชนจะไม่อยู่ภายใต้ระเบียบเข้มงวดเหล่านี้ เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวโดยเร็ว นายเหลียงย้ำด้วยว่า การใช้มาตรการภายในพื้นที่กันชนแต่ละแห่งจะต้องคำนึงถึงปัจจัยในท้องถิ่นด้วย เพื่อให้มีผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมน้อยที่สุด ช่วงหลายเดือนมานี้จีนพบการระบาดเป็นครั้งคราวในหลายพื้นที่ของประเทศ และพบการระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ในเมืองรุ่ยลี่ มณฑลยูนนานที่อยู่ติดกับเมียนมา และเมืองหมั่นโจวหลี่ เขตปกครองตนเองมองโกเลียในที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติออกจดหมายเวียนเมื่อต้นเดือน ขอให้ทางการท้องถิ่นที่มีการค้าชายแดนคึกคักพิจารณาจัดตั้งพื้นที่กันชน ส่วนเมืองที่เป็นศูนย์กลางการจราจรทางอากาศขอให้เพิ่มการเฝ้าระวังและคัดกรองคนทำงานท่าอากาศยานและเครื่องบินขนส่งสินค้า รวมทั้งเข้มงวดกระบวนการฆ่าเชื้อพื้นที่แช่เย็นสินค้าด้วย.-สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ ญี่ปุ่นชี้ตลาดอยากให้รัฐบาลสานต่อนโยบายเขา

โตเกียว 26 ธ.ค.- อดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นเรียกร้องให้รัฐบาลชุดปัจจุบันสานต่อนโยบายเศรษฐกิจ “อาเบะโนมิกส์” ของเขา เพราะเป็นสิ่งที่ตลาดการเงินต้องการ อาเบะวัย 67 ปี ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งว่า ตลาดการเงินไม่ต้องการให้รัฐบาลนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจในระดับพื้นฐาน แต่ต้องการให้สานต่อนโยบายอาเบะโนมิกส์ เน้นเรื่องการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ รับช่วงต่อมาจากรัฐบาลของเขา ตลาดอาจมีปฏิกิริยาทางลบ หากเข้าใจว่านโยบาย “ทุนนิยมใหม่” ที่นายกรัฐมนตรีคิชิดะประกาศใช้คือ นโยบายสังคมนิยม รัฐบาลไม่ควรทำให้ประชาชนคิดว่ากำลังเดินออกจากแนวทางที่เน้นเรื่องการสร้างความเติบโต อดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะชี้ว่า การที่พรรคเสรีประชาธิปไตยหรือแอลดีพี (LDP) ภายใต้การนำของนายคิชิดะมีชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเดือนตุลาคม ทำให้รัฐบาลกลับมามีเสถียรภาพทางการเมือง หวังว่านายคิชิดะจะแสดงความเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และนำพาพรรคชนะเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในปีหน้า นายกรัฐมนตรีคิชิดะวัย 64 ปี ซึ่งขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีในปลายเดือนกันยายนประกาศว่า จะส่งเสริมการเติบโตด้วยแนวทางการกระจายรายได้ หวังให้ประเทศมีชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงสานต่อนโยบายผ่อนคลายทางการเงินและการใช้จ่ายการคลังเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ นักเศรษฐศาสตร์บางคนเชื่อว่า เขาต้องการแก้ไขเสียงวิจารณ์เรื่องนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมาส่งเสริมให้ธุรกิจมีรายได้เพิ่มขึ้น และราคาหุ้นปรับขึ้น แต่ไม่เป็นประโยชน์กับชนชั้นกลาง.-สำนักข่าวไทย

ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจจีนปี 2021 จบที่ขยายตัว 8%

ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีนจะขยายตัว 8% ในปี 2564 ซึ่งเป็นการปรับลดจาก 8.5% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

คลังออสเตรเลียชี้ต้องคลายมาตรการโควิด

แคนเบอร์รา 11 ธ.ค.- นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียเรียกร้องให้ผ่อนคลายมาตรการจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ นายฟรายเดนเบิร์กบอกกับสื่อที่นครเมลเบิร์นในวันนี้ว่า แต่ละรัฐจะต้องใจเย็นและเดินหน้าต่อไป ไม่ควรตื่นตระหนกกับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมากเกินไป มุขมนตรีแต่ละรัฐและดินแดนจะต้องผ่อนคลายมาตรการจำกัดที่ใช้ชะลอการระบาด เพราะสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะนี้ออสเตรเลียมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงเป็นประวัติการณ์แล้ว และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าวัคซีนสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้ ออสเตรเลียผ่อนคลายมาตรการจำกัดบางอย่าง เนื่องจากคนวัย 16 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเกือบร้อยละ 90 แต่หลายรัฐยังคงห้ามการเดินทางข้ามรัฐ และจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการในร้านค้าและร้านอาหารอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ดี ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,753 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากสัปดาห์ก่อน และสูงสุดที่นับจากวันที่ 29 ตุลาคม เศรษฐกิจออสเตรเลียมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 48 ล้านล้านบาท) ถูกกระทบอย่างหนักจากการล็อกดาวน์ใน 2 รัฐใหญ่ที่สุดของประเทศ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ไตรมาสสามของปีนี้ลดลงร้อยละ 1.9 นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปี 2565 […]

“ไบเดน” เตือน “ปูติน” อย่ารุกรานยูเครน

วอชิงตัน 8 ธ.ค.- ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้แจ้งกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียว่า สหรัฐเตรียมใช้มาตรการทางเศรษฐกิจขั้นรุนแรง หากรัสเซียรุกรานยูเครน ส่งสัญญาณว่ามาตรการดังกล่าวจะรุนแรงกว่าที่สหรัฐเคยใช้ในปี 2557 แต่ไม่สามารถหยุดยั้งรัสเซียไม่ให้ผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนได้ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเผยกับสื่อ หลังจากประธานาธิบดีไบเดนสนทนากับประธานาธิบดีปูตินผ่านการโทรระบบวิดีโอทางไกลนาน 2 ชั่วโมงเมื่อบ่ายวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า ประธานาธิบดีไบเดนมองตาประธานาธิบดีปูตินแล้วพูดว่า สหรัฐเตรียมจะทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำในปี 2557 โดยได้แสดงความตรงไปตรงมา แต่ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่มีการชี้นิ้วชี้หน้ากัน พร้อมกับย้ำต่อผู้นำรัสเซียว่า สหรัฐพร้อมเสริมสร้างศักยภาพทางทหารในภูมิภาคดังกล่าว นายซัลลิแวนเผยด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าประธานาธิบดีปูตินยังไม่ตัดสินใจเรื่องบุกยูเครน และขณะนี้สหรัฐกำลังประสานกับพันธมิตรในยุโรปในประเด็นที่เฉพาะเจาะจง ทางด้านนายปูติน ได้เรียกร้องขอคำรับประกันว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต จะไม่ขยายขอบเขตปฏิบัติการทางทหารไปยังทิศตะวันออกเพิ่มเติม แต่นายไบเดน ไม่ได้ให้คำรับประกันในเรื่องนี้ รายงานข่าวระบุว่า ผู้นำทั้งสองไม่ได้บรรลุข้อตกลงใด ๆ แต่ตกลงที่จะติดต่อสื่อสารกันต่อไป ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ความตึงเครียดน่าจะเริ่มลดลง เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) อ้างแหล่งข่าวด้านข่าวกรองว่า ช่วงหลายเดือนมานี้รัสเซียได้สร้างเส้นทางลำเลียงเวชภัณฑ์และเชื้อเพลิงที่จะเอื้อให้การปะทะยืดเยื้อในกรณีที่รัสเซียตัดสินใจบุกยูเครน ขณะที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐประเมินว่า รัสเซียอาจบุกยูเครนได้ในอีกไม่กี่เดือน เพราะได้ระดมกำลังพลตามแนวชายแดนด้านยูเครนมากถึง 175,000 นาย.-สำนักข่าวไทย

ไอเอ็มเอฟระบุโอไมครอนจะกระทบการขยายตัวเศรษฐกิจโลก

นางคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ กล่าวในวันศุกร์ว่า ไอเอ็มเอฟ มีแนวโน้มว่าจะปรับลดการคาดหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน

ผู้นำเกาหลีเหนือเตือนเรื่องอุปสรรคใหญ่ด้านเศรษฐกิจ

นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวว่า ประเทศเกาหลีเหนือจะต้องเตรียมตัวรับมือกับอุปสรรค์ใหญ่มาก ๆ ในปีหน้า ในการเดินหน้าสร้างความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของงานกลาโหม เกษตกรรมและการก่อสร้าง

โอเปกพลัสอาจงดเพิ่มกำลังผลิตเพราะโอไมครอน

ลอนดอน 2 ธ.ค.- นักวิเคราะห์คาดว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตรหรือโอเปกพลัส จะระงับการเพิ่มกำลังผลิตงวดเดือนมกราคมในการประชุมวันนี้ เพราะมีกระแสวิตกว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะถูกกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน โอเปกพลัสซึ่งประกอบด้วยสมาชิกโอเปก 13 ประเทศและพันธมิตร 10 ประเทศจะประชุมผ่านระบบวิดิโอทางไกลในเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานสากล ตรงกับเวลา 20:00 น.วันนี้ตามเวลาในไทยเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป ที่ผ่านมาโอเปกพลัสไม่ยอมทำตามแรงกดดันนำโดยสหรัฐที่ต้องการให้เพิ่มกำลังผลิตอย่างมีนัยสำคัญเพื่อควบคุมราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น นักวิเคราะห์คาดว่า การเกิดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนและแรงเทขายในตลาดทุนทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า โอเปกพลัสจะเลือกระงับแผนการเพิ่มกำลังผลิตรายเดือนวันละ 400,000 บาร์เรล เพราะตลาดไม่น่าจะดูดซับน้ำมันส่วนเกินดังกล่าวได้ ยังไม่นับรวมน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ที่สหรัฐ จีนและอินเดียจะปล่อยออกมาในไตรมาสแรกของปีหน้าเพื่อกดราคาน้ำมันดิบที่สูงจนสั่นคลอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่แอฟริกาใต้เป็นแห่งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ทำให้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่าร้อยละ 10 เป็นการลดลงครั้งใหญ่ครั้งแรกนับจากเดือนเมษายน 2563 ที่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดทั่วโลก ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวที่บาร์เรลละ 70 ดอลลาร์สหรัฐ โอเปกพลัสได้ลดกำลังผลิตลงอย่างมากเมื่อปีก่อนที่โรคโควิดเริ่มระบาด เพราะมาตรการจำกัดการระบาดทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงมาก และเพิ่งเพิ่มกำลังผลิตรายเดือนวันละ 400,000 บาร์เรลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ ขณะที่กำลังผลิตจริงสูงกว่านี้ 10 เท่า.-สำนักข่าวไทย

1 22 23 24 25 26 69
...