“พิชัย” คาดเศรษฐกิจปี65 “ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น”

กทม. 3 ม.ค.- “พิชัย” คาดการณ์เศรษฐกิจ ปี 2565 “ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” ชี้ 8 ปัญหาเศรษฐกิจที่ไทยต้องเผชิญ เช่น เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขึ้น หนี้พุ่ง งบประมาณลด ว่างงานเพิ่ม แนะถ้ารู้ตัวอย่าดันทุรัง เพราะไม่มีทางแก้ไขได้ 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า เป็นประจำทุกปีที่จะคาดการณ์เศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจไทยในปี 2565 เชื่อว่าจะหนักหนาสาหัสแบบสุดๆ ถึงขนาด “ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” และคาดว่า “งบประมาณจะมีปัญหา รายได้ลด หนี้มีแต่จะเพิ่ม ว่างงานพุ่งพลเอกประยุทธ์ จะอยู่ยาก” ทั้งนี้ ที่บอกว่า “ฟื้นไม่มี” เพราะในปี 2565 เศรษฐกิจไทยโดยรวมจะยังติดลบและหยุดนิ่งเป็นปีที่สามติดต่อกัน จากปี 2563 ที่ติดลบ -6.1% ปี 2564 จะขยายได้น่าจะไม่ถึง 1% และ ปี 2565 นี้น่าจะขยายได้ประมาณ 3% เท่านั้น ซึ่งรวม 3 ปีแล้วก็ยังต่ำกว่าที่ตกลงมา ประเทศอื่นเขาเดินไปข้างหน้าไกลแล้ว แต่ 3 ปี ประเทศไทยยังถอยหลังติดลบอยู่ รายได้โดยรวมของคนไทยยังลดลง แล้วคนไทยจะมีความสุขได้อย่างไร อีกทั้งการปิดรับนักท่องเที่ยวในปัจจุบันยังไม่ทราบว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้อีกเมื่อไหร่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่องในปีนี้


และที่จะ “หนีไม่พ้น” นี้คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำและติดลบนี้ จะทำให้หนี้พุ่งขึ้นไม่หยุด เพราะไม่มีรายได้เพียงพอที่จะใช้หนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้สาธารณะของรัฐบาล หนี้ครัวเรือนของประชาชน หนี้ธุรกิจที่เจ๊งกันมาตลอด หนี้เสียและหนี้เสี่ยงที่จะเสียในระบบธนาคาร และ หนี้นอกระบบ ซึ่งจะทำให้หนี้เหล่านี้ที่สูงอยู่แล้วต้องพุ่งสูงขึ้นอีก ซึ่งจะเป็นเหมือนระเบิดเวลารอจะประทุได้ตลอดเวลา แต่พลเอกประยุทธ์ กลับทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน ยังคงออกมาตรการแจกเงินสะเปะสะปะอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ทำมาหลายปีเศรษฐกิจไทยก็ไม่ได้ดีขึ้นเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ คนจนจริงลำบากจริงกลับเข้าไม่ถึงและไม่ได้ประโยชน์

อีกทั้งหนี้สาธารณะพุ่งกระฉูดแต่โครงสร้างพื้นฐานของประเทศกลับเสื่อมลง รถไฟความเร็วสูงของไทยถูกประเทศลาวแซงไปแล้ว การศึกษาไทยอยู่อันดับท้ายๆในอาเซียน ไทยไม่สามารถมีบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ได้ ระบบบริหารจัดการน้ำยังเป็นปัญหา ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่เพิ่มขึ้นทุกปี และโอกาสหารายได้ในอนาคตของประเทศและของประชาชนกลับลดลงเรื่อยๆ จนไม่เห็นอนาคต ตลอด 7 ปี ประเทศไทยย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เหมือนฉายาที่สื่อตั้งว่า “ชำรุดยุทธ์โทรม” โดยยังไม่เห็นว่าจะฟื้นกลับมาได้อย่างไร ดังนั้น จึง “หนีไม่พ้น” ที่พลเอกประยุทธ์ จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ยากในปีนี้ จากปัญหาเศรษฐกิจที่ทรุดหนักรุมเร้า ปัญหาความแตกแยกในพรรคพลังประชารัฐเอง ปัญหาข้อจำกัด 8 ปีในการอยู่ในตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ และปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมาอีกมาก


ทั้งนี้ อยากชี้ปัญหาทางเศรษฐกิจที่พลเอกประยุทธ์ จะต้องเผชิญ และเตรียมรับมือ 8 ปัญหาหลัก ดังนี้

  1. ปัญหาการระบาดของไวรัสโอมิครอน และ โอกาสที่จะเกิดซูนามิของไวรัสโควิดทั้งสายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์เดลต้าพร้อมกัน ตามคำเตือนขององค์กรอนามัยโลก (WHO) โดยหวังว่าจะไม่เกิดการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง โดยหวังว่าวิกฤตไวรัสโควิดจะจบกลางปีนี้จริงตามการคาดหมาย มิเช่นนั้นเศรษฐกิจไทยอาจจะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์มาก
  2. ปัญหาเงินเฟ้อของโลกซึ่งจะส่งผลกระทบมาถึงไทย โดยเฉพาะเงินเฟ้อในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากจะเกิดจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวเร็วแล้ว ยังเกิดจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งปัญหาห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ที่ทำให้สินค้าขาดแคลนและมีราคาสูง โดยเฉพาะชิป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์   อีกทั้งระบบการขนส่งขาดแคลน และ ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นสูง จะส่งผลกระทบเพิ่มภาระต่อคนไทยที่ต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ในขณะที่รายได้ไม่เพิ่ม
  3. ปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้น จากภาวะเงินเฟ้อ โดยแนวโน้มสหรัฐอเมริกาจะขึ้นดอกเบี้ยในกลางปีนี้และอาจจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นถึง 1.5% ภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้น แต่ไทยคงต้องขึ้นดอกเบี้ยตามสหรัฐ ซึ่งจะทำให้หนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพิ่มสูงขึ้นมาก มีภาระต้นทุนทางการเงินมากขึ้น จะส่งผลให้เกิดหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น
  4. ปัญหาการขาดดุลแฝด (Twin Deficits) คือการขาดดุลงบประมาณ และ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นปัญหาสืบเนื่องจากปีที่แล้ว ที่รัฐบาลต้องใช้เงินจำนวนมากทำให้ขาดดุลงบประมาณสูง อีกทั้งยังขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่แม้การส่งออกจะเพิ่มสูงแต่ก็ไม่ได้ช่วยมากนัก เพราะการนำเข้าก็สูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะยอดเงินการนำเข้าน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้นมาก โดยใน 11 เดือนไทยต้องจ่ายค่านำเข้าน้ำมันแพงมากขึ้นถึง 412,186 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 54.9% จากปีที่แล้ว อีกทั้งรายได้จากการท่องเที่ยวขาดหายไปเกือบหมด ดังนั้น ไทยจึงมีรายจ่ายในเงินตราต่างประเทศมากกว่ารายรับทำให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งหากต้องปิดรับนักท่องเที่ยวนานปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจะยังคงเป็นปัญหาหนัก
  5. ปัญหาการจัดทำงบประมาณ ทั้งนี้ประเทศไทยต้องจัดทำงบประมาณลดลงในปี 2565 เนื่องจากเก็บรายได้ได้น้อยลง ซึ่งถือเป็นความเสื่อมถอยของประเทศที่ควรจะต้องจัดงบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปี การจัดงบประมาณในปี 2566 ก็จะเป็นปัญหาอีก เพราะการจัดเก็บรายได้ในปี 2564 พลาดเป้าไปถึง 3.07 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นการถดถอยของประเทศอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งรัฐบาลจะประสบปัญหาการกู้เงินนอกงบประมาณเพิ่มเพราะแม้จะเพิ่มเพดานเงินกู้จาก 60% เป็น 70% แต่ก็อาจจะยังไม่พอ ถ้ารัฐบาลยังหารายได้ไม่เป็น ใช้งบประมาณแล้วเพิ่มจีดีพีไม่ได้ คิดได้แค่การกู้เงินมาแจกเท่านั้น นอกจากนี้ในภาวะที่คนไทยลำบากกันอย่างมากทั้งประเทศ แต่พลเอกประยุทธ์ ยังคิดจะซื้อเครื่องบินรบ F35 กันอีก เหมือนไม่สนใจความทุกข์ของประชาชนเลย
  6. ปัญหาหนี้ที่เพิ่มสูง ทั้งหนี้ภาครัฐ และ หนี้ภาคเอกชน เหมือนที่เตือนมาตลอดและบอกเสมอว่าไทยจะเจอกับ “ประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม” โดยล่าสุดหนี้สาธารณะของไทยพุ่งขึ้นถึง 9.62 ล้านล้านบาท โดยอีกไม่นานคงจะทะลุ 10 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนทะลุ 14.35 ล้านล้านบาท ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร เพราะขาดแนวคิด ไม่มีความรู้ความสามารถในเรื่องนี้ ขนาดในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ดี อัตราดอกเบี้ยต่ำ ราคาน้ำมันถูก เงินเฟ้อต่ำ พลเอกประยุทธ์ ยังไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจไทยดีได้ แต่ต่อไปนี้จะเจอกับปัญหาทางเศรษฐกิจอีกมาก พลเอกประยุทธ์ จะไม่มีทางแก้ไขได้เลย ยิ่งถ้าดอกเบี้ยจะขึ้นตามกระแสโลกปัญหาหนี้เสียจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น และจะเป็นปัญหาหนักของไทยในอนาคต
  7. ปัญหาการไร้ทิศทางเศรษฐกิจของไทย โดยประเทศไทยภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ ยังหาตัวเองไม่พบว่าจะเป็นอย่างไร จะขยายตัวในอนาคตต่อในด้านไหน อะไรจะเป็นเครื่องจักรของการเจริญเติบโต (Growth Engines)ในอนาคต ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเสื่อมลงเรื่อยๆ ยิ่งนานไปไทยจะถูกประเทศอื่นแซงไปและแย่งธุรกิจไปเรื่อยๆ
  8. ปัญหาการว่างงานที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยล่าสุดตัวเลขคนว่างงานมีถึง 8.7 แสนคน ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 20 ปี ซึ่งความจริงอาจจะว่างงานสูงมากกว่านี้มาก โดยอาจถึงกว่าหลายล้านคน เป็นผลมาจากเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำมาตลอด การจ้างงานจึงมีน้อย พลเอกประยุทธ์ สร้างงานน้อยมากในตลอด 7 ปี อีกทั้งบริษัทห้างร้านขาดทุนหนักต้องปิดตัวกันมาก การแจกเงินไม่ได้ทำให้เกิดการจ้างงาน

ทั้ง 8 ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใหญ่มากและมีความเชื่อมโยงกัน และต้องเข้าใจและหาทางแก้ไขและรับมือไปพร้อมกัน ซึ่งเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ ไม่น่าจะไม่รู้และไม่เข้าใจปัญหา ซึ่งหากไม่รู้ปัญหาแล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ขนาดในสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ดี พลเอกประยุทธ์ ยังบริหารได้ล้มเหลว ดังนั้น จึงไม่อยากให้พลเอกประยุทธ์ ต้องดันทุรังอีกต่อไป เพราะจะไม่มีทางแก้ปัญหาได้ แต่จะยิ่งเพิ่มปัญหาให้กับประเทศมากขึ้น ยิ่งอยู่นานประชาชนจะยิ่งลำบากมากขึ้น.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักมากภาคอีสาน

กทม. 21 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ตะวันออก และใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา […]

มทภ.4 กำชับเร่งสืบจับมือวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี

ปัตตานี 20 มิ.ย. – แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี กำชับเร่งสืบจับผู้ก่อเหตุ เพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดฯ หลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ เข้าตรวจสอบความเสียหาย รวมถึงติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี พร้อมกำชับตำรวจและฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ และปรับแผนให้รัดกุมยิ่งขึ้น ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดปัตตานี หลังเกิดเหตุระเบิด 3 ลูก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 มิ.ย.68) พบว่า เจ้าของร้านต่างเร่งซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้กลับมาเปิดขายได้อีกครั้ง และพบว่าหลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ หนึ่งในนั้นคือ ร้านขายไก่ทอด ไก่ย่าง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ตัดสินใจเดินทางกลับ จ.ตรัง โดยบอกว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตั้งแต่ขายมา ไม่ว่าจะที่ จ.ยะลา หรือนราธิวาส จึงรู้สึกกลัว แม้อยากทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่รักชีวิตมากกว่า. – สำนักข่าวไทย

เขมรป่วน! นำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 20 มิ.ย. – กัมพูชาป่วนไม่เลิก ล่าสุดนำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไล่นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับ ทหารและฝ่ายปกครองต้องเตือนให้หยุด และให้กลับลงไปทันที นี่เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองของไทย เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาและพระสงฆ์กัมพูชา ประมาณ 15 รูป ซึ่งตอนแรกทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.68) แต่ต่อมากลับพากันมายืนที่จุดจีพีเอส ขวางประตูทางเข้าตัวปราสาทตาเมือนธม และพูดกับคนไทยที่มาเที่ยวชมปราสาท ในลักษณะจะไม่ให้เข้า และข้ามหลักจีพีเอสไป ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พนมดงรัก ที่ปฏิบัติการที่ปราสาทตาเมือนธม เห็นเข้า จึงรีบเข้าไปแจ้งเตือนและให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยมีทหารฝ่ายกัมพูชาเข้ามาร่วมชี้แจงด้วย ก่อนจะพาชายคนดังกล่าวพร้อมคณะกลับลงไปฝั่งกัมพูชาทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกัมพูชาใช้ฐานปฏิบัติการทหารที่อยู่ตรงข้ามกับปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดรวมผู้คนและพระสงฆ์ที่เกณฑ์มา ให้มารวมตัวกัน โดยทหารกัมพูชาที่มาอำนวยความสะดวกบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะเป็นผู้รายงานว่า ฝั่งไทยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นมาเยอะหรือไม่ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบและจัดคนขึ้นมาที่ตัวปราสาท แล้วก็มาป่วน พยายามสร้างกระแสยั่วยุฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทบ.แจงเหตุมวลชนเขมรบุกร้องเพลงบนปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ การยั่วยุลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา […]

ไมค์โขกหัวนายกฯ

นายกฯ โพสต์แจง “ไมค์โขกศีรษะ” นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- นายกฯ อิ๊งค์ แจงไมค์โขกศีรษะ นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ บอกหน้างานเบียดกันมาก โดนไม่แรง พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านสตอรี่ไอจี กรณีมีไมค์ของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งโดนศรีษะของนายกรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และนายกรัฐมนตรีได้อุทาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า วันนี้ที่มีข่าวเรื่องไมโครโฟนโขกศีรษะ