ฝรั่งเศสประณามข้อตกลงเรือดำน้ำสหรัฐ-ออสเตรเลีย
นายฌอง-อีฟ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสประณาม กรณีที่ออสเตรเลียยกเลิกข้อตกลงซื้อเรือดำน้ำของฝรั่งเศสแล้วไปทำข้อตกลงกับสหรัฐแทนว่า เป็นพฤติกรรมตีสองหน้า ดูหมิ่น และโกหก
นายฌอง-อีฟ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสประณาม กรณีที่ออสเตรเลียยกเลิกข้อตกลงซื้อเรือดำน้ำของฝรั่งเศสแล้วไปทำข้อตกลงกับสหรัฐแทนว่า เป็นพฤติกรรมตีสองหน้า ดูหมิ่น และโกหก
ตำรวจออสเตรเลียจับกุมผู้ประท้วง 235 ราย ในนครเมลเบิร์นและอีก 32 รายในนครซิดนีย์ในวันนี้ ในระหว่างการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาตในการประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายรายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับผู้ประท้วง
รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่รอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 1,331 คน เสียชีวิตอีก 6 คน
ฝรั่งเศสเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำออสเตรเลียและสหรัฐกลับประเทศ จากการณีข้อตกลงไตรภาคีด้านความมั่นคงระหว่างออสเตรเลีย สหรัฐและอังกฤษ ที่ส่งผลให้ข้อตกลงต่อเรือดำน้ำระหว่างฝรั่งเศสกับออสเตรเลียต้องล่มไป
อินโดนีเซียกล่าววันนี้ว่า รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันสะสมอาวุธในภูมิภาค หลังจากที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลียประกาศแผนที่จะครอบครองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่วของข้อตกลงความเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกับสหรัฐและอังกฤษ
นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย กล่าววันนี้ว่า เขาได้หยิบยกประเด็นเรื่องความเป็นไปได้ที่ออสเตรเลียอาจยกเลิกข้อตกลงซื้อเรือดำน้ำเมื่อปี 2016 ที่ทำไว้กับบริษัทฝรั่งเศส ในระหว่างที่พบหารือกับผู้นำฝรั่งเศสเมื่อเดือนมิถุนายน โดยปฎิเสธคำตำหนิของฝรั่งเศสว่าออสเตรเลียไม่แจ้งเรื่องนี้ล่วงหน้า
ซิดนีย์ 13 ก.ย.- หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของออสเตรเลียไม่อนุมัติข้อตกลงระหว่างสายการบินแควนตัสของออสเตรเลียกับสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL) ของญี่ปุ่นเรื่องใช้เที่ยวบินร่วมกันระหว่างสองประเทศ เพราะจะทำให้การแข่งขันทางธุรกิจลดลง คณะกรรมาธิการการแข่งขันและผู้บริโภคออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า ข้อตกลงดังกล่าวไม่เพียงทำให้ทั้งสองสายการบินนี้ไม่มีการแข่งขันทางธุรกิจกัน แต่ยังเป็นอุปสรรคต่อสายการบินอื่นที่จะให้บริการเส้นทางระหว่างออสเตรเลีย-ญี่ปุ่นด้วย การรักษาการแข่งขันระหว่างสายการบินคือ หัวใจที่จะทำให้ธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวฟื้นตัวในระยะยาว ทันทีที่มีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แถลงการณ์ระบุด้วยว่า แควนตัสและเจเอแอลครองส่วนแบ่งผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างออสเตรเลีย-ญี่ปุ่นรวมกันมากถึงร้อยละ 85 ในปี 2562 ก่อนโรคโควิด-19 ระบาด ด้านแควนตัสและเจเอแอลแถลงร่วมกัน แสดงความผิดหวังที่ออสเตรเลียไม่อนุมัติข้อตกลงที่จะช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวของธุรกิจการท่องเที่ยวทันทีที่มีการเปิดพรมแดนระหว่างประเทศว่า การเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นจะทำให้มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น การต่อเที่ยวบินสะดวกขึ้น และผู้โดยสารที่เป็นสมาชิกได้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น ขณะที่ทั้งสองประเทศจะได้รับผลดีทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างชัดเจนในยามที่เผชิญสภาพแวดล้อมท้าทายอย่างยิ่งจากโรคโควิด-19.-สำนักข่าวไทย
ซิดนีย์ 12 ก.ย.- ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์สั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มอีก เพื่อรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ทั้งสองประเทศเคยควบคุมการระบาดได้ดี นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียเผยกับสื่อในวันนี้ว่า ได้สั่งซื้อวัคซีนของโมเดอร์นาอีก 1 ล้านโดสจากสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) และจะมาถึงในสัปดาห์นี้ รอยเตอร์ระบุว่า ออสเตรเลียต้องการเร่งฉีดวัคซีนเพื่อประคองเศรษฐกิจมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 48 ล้านล้านบาท) ที่เสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบหลายปี เพราะผลจากการล็อกดาวน์นครซิดนีย์และนครเมลเบิร์น สองเมืองที่ประชากรมากที่สุดของประเทศ ทางการจะล็อกดาวน์จนกว่าประชากรเกือบ 26 ล้านคน ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 70 คาดว่าจะบรรลุได้หลังปลายเดือนตุลาคมเป็นอย่างเร็วที่สุด ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 2,000 คน เป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ เพราะไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ง่าย ยอดติดเชื้อสะสมตั้งแต่พบผู้ป่วยคนแรกอยู่ที่กว่า 73,600 คน เสียชีวิตราว 1,000 คน ด้านนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์ แถลงทางอีเมลวันนี้ว่า ได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์จำนวน 500,000 โดสจากเดนมาร์ก และจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ขณะนี้นิวซีแลนด์มีวัคซีนเกินพอแล้ว ขอให้ประชาชนรีบรับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันชาวนิวซีแลนด์ […]
รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ทำลายสถิติติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึง 1,599 ราย
รัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า อาจจะสั่งล็อกดาวน์แบบฉับพลันหลังจากพบการระบาดแบบกลุ่มก้อนของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในขณะที่ออสเตรเลียรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศรายวันสูงทำสถิติใหม่อีกครั้ง
จาการ์ตา 9 ก.ย. – อินโดนีเซียกับออสเตรเลียตกลงกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีที่จัดขึ้นในวันนี้ โดยทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับการฝึกทหารร่วมกันในออสเตรเลียและการเข้าร่วมในสถาบันการป้องกันประเทศออสเตรเลีย นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลีย และนายปีเตอร์ ดัทตัน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลีย ได้เดินทางเยือนกรุงจาการ์ตา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีออสเตรเลียเดินทางเยือนอินโดนีเซียนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซีย เผยว่า อินโดนีเซียได้ลงนามในข้อตกลงด้านการต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันประเทศ และความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงข้อตกลงสนับสนุนประเทศในหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิก ด้านนายปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซีย ระบุว่า ทั้งสองประเทศได้หารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ที่รวมถึงความเป็นไปได้ในการฝึกทหารร่วมกันในออสเตรเลียและการเข้าเรียนในสถาบันออสเตรเลียของนักเรียนทหารอินโดนีเซียที่เขาระบุว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ รัฐมนตรีทั้งสองคนของอินโดนีเซียยังระบุว่า อินโดนีเซียได้หารือกับออสเตรเลียในประเด็นอื่น ๆ ที่รวมถึงการพัฒนาด้านการเมืองในอัฟกานิสถานและเมียนมา โดยที่ทั้งสองประเทศต่างให้การสนับสนุนภารกิจทางการทูตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ในขณะเดียวกัน นางเพย์น กล่าวว่า ออสเตรเลียยินดีต้อนรับภูมิภาคที่สนับสนุนการแข่งขันตามกฎเกณฑ์และบรรทัดฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการแข่งขันที่ดีมากกว่าเป็นการแข่งขันที่เสี่ยงต่อความไม่มั่นคงหรือความขัดแย้ง โดยที่ออสเตรเลียและอินโดนีเซียต่างยินดีที่จะร่วมมือกันตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว หลังจากนี้ นางเพย์นและนายดัทตันจะเดินทางเยือนชาติพันธมิตรอีกหลายประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ได้แก่ อินเดีย เกาหลีใต้ และสหรัฐ ทั้งนี้ การเดินทางดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เกิดความวิตกกังวลครั้งใหม่ในทะเลจีนใต้ ซึ่งรวมถึงกฎหมายที่จีนประกาศให้มีการแจ้งจากเรือต่างประเทศก่อนเข้าสู่พื้นที่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่จีนอ้างสิทธิว่าเป็นของตนเอง.-สำนักข่าวไทย
ออสเตรเลียคาดหวังว่า ประชาชนจะได้ฉลองคริสต์มาสในบรรยากาศใกล้เคียงกับปกติอีกครั้งในปีนี้ เพราะทางการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้น