ซิดนีย์ 1 ต.ค. – นางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ หลังคณะกรรมการอิสระต่อต้านทุจริตกำลังสอบสวนว่า นางเบเรจิกเลียนมีส่วนพัวพันในพฤติกรรมที่ละเมิดความไว้วางใจของประชาชนหรือไม่
นางเบเรจิกเลียนแถลงว่า ประเด็นที่ถูกสอบสวนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต แต่เธอรู้สึกว่าถูกกดดันให้ลาออก เนื่องจากกรอบเวลาที่ยาวนานในการสืบสวน และว่ารัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องการความมั่นใจจากผู้นำท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั้งยังกล่าวยืนยันอย่างเด็ดขาดว่า เธอทำงานโดยยึดความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้งสูงสุดตลอดมา ขณะที่คณะกรรมการอิสระต่อต้านทุจริตของรัฐนิวเซาท์เวลส์ หรือไอซีเอซี ระบุในแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า จะจัดการไต่สวนสาธารณะที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสืบสวนในข้อหาเกี่ยวกับการละเมิดความไว้วางใจของสาธารณชนจากการรับผลประโยชน์อย่างไม่เหมาะสม (Operational Keppel) ในวันที่ 18 ตุลาคม และการสืบสวนในครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากข้อกล่าวหาที่ว่านางเบเรจิกเลียนเคยมีสัมพันธ์ลับกับสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่กำลังโดนสืบสวนคดีทุจริตเช่นกัน
นางเบเรจิกเลียนขึ้นดำรงตำแหน่งมุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก ในปี 2560 และต้องพบสื่อมวลชนแทบทุกวันเพื่อประกาศตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ผู้เสียชีวิต รวมถึงมาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับธุรกิจ โรงเรียน และครัวเรือน ในขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ทั้งนี้ นางเบเรจิกเลียนถือเป็นมุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์คนที่สองที่ต้องลาออกจากตำแหน่งเพราะถูกสอบสวนจากไอซีเอซี โดยที่ก่อนหน้านี้นายแบร์รี โอฟาร์เรล อดีตมุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ต้องลาออกจากตำแหน่งในปี 2557 หลังมีหลักฐานพิสูจน์ว่า เขาไม่ได้แจ้งคณะกรรมการอิสระต่อต้านทุจริตเกี่ยวกับการรับของขวัญเป็นไวน์มูลค่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 100,000 บาท).-สำนักข่าวไทย