เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา

ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในสหรัฐเตือนว่า สหรัฐอาจกลับมามีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เกินวันละ 200,000 คนอีกครั้ง เพราะไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่รวดเร็วมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

นครซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ทางการส่งทหารประจำการทั่วเมืองหวังหยุดยั้งการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นสูงมาก

ศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั่วกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ พยายามเร่งอัตราการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนด้วยการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น หลังเกิดการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา

วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของรัสเซีย หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สปุตนิก-วี มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาได้ร้อยละ 83 ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยระบุว่ามีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 90 ในเดือนมิถุนายน

โซล 11 ส.ค. – เกาหลีใต้พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 2,200 คน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีก่อน ในขณะที่รัฐบาลกำลังรับมือกับการระบาดครั้งรุนแรงที่สุด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี หรือเคดีซีเอ รายงานวันนี้ว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 2,223 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 216,200 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 2,100 คน ขณะที่นายควอน ด็อก-ชอล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้กล่าวในที่ประชุมการรับมือโรคโควิด-19 ว่า แม้รัฐบาลได้ใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวดมาเป็นเวลากว่าเดือน แต่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อกลับพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการเดินทางในประเทศที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน ทั้งยังระบุว่า เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้ออย่างเงียบ ๆ เพิ่มมากขึ้นในชุมชน เช่น สถานที่ทำงาน สถานที่ออกกำลังกายแบบปิด โบสถ์ และศูนย์ดูแลผู้สูงวัย จนทำให้มีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่รู้ที่มาเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ นายควอนยังเรียกร้องให้ประชาชนที่เดินทางกลับมาจากการเดินทางในช่วงวันหยุดเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนกลับไปทำงานตามปกติ เกาหลีใต้ประสบปัญหาในการควบคุมโรคโควิด-19 ที่ระบาดเป็นระยะ ๆ มาตั้งแต่เดือนก่อน และมีจุดเริ่มต้นของการระบาดในพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงโซลและพื้นที่โดยรอบ แต่ในตอนนี้กลับแพร่กระจายไปทั่วประเทศ เกือบครึ่งของยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่นอกกรุงโซลและในจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้วิตกกังวลว่าประชาชนจำนวนมากกำลังเพิกเฉยต่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ขณะนี้ […]

ปักกิ่ง 10 ส.ค. – จีนพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 พุ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังเกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่จุดบริการตรวจหาเชื้อโควิด ในขณะที่รัฐบาลต้องเผชิญกับความท้าทายในการรับมือกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา เจ้าหน้าที่ของทางการสาธารณสุขจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 143 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 108 คน และมีผู้ป่วยหลายสิบคนที่ติดเชื้อมาจากจุดบริการตรวจหาเชื้อโควิดในเมืองหยางโจวทางตะวันออกของจีน ยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ของวันนี้ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่พบผู้ป่วยติดเชื้อ 144 คน โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 126 คน ซึ่งส่วนใหญ่ติดเชื้อในพื้นที่ภาคเหนือของจีน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเมืองหยางโจวจำนวนหนึ่งได้รับจดหมายเตือนเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อโควิดอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งทางการเมืองหยางโจวระบุว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อโควิดแพร่ระบาดไปทั่ว สื่อของทางการจีนระบุว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่พบการระบาดของเชื้อโควิดในเมืองอู่ฮั่นทางตอนกลางของจีน และทำให้ทางการท้องถิ่นต้องประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์หลายพื้นที่ เร่งตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนจำนวนมาก และใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง ก่อนหน้านี้ ทางการจีนสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีจนแทบจะไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ และทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้ แม้ยังคงใช้มาตรการคุมพรมแดนอย่างเข้มงวด ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 93,900 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน.-สำนักข่าวไทย

โรงพยาบาลเกือบ 1 ใน 5 หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของโรงพยาบาลทั้งหมดของฟิลิปปินส์ใกล้รองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จนเต็มขีดความสามารถ ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ

เกาหลีใต้เริ่มเปิดให้ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นครั้งแรกในวันนี้ ในขณะที่รัฐบาลพยายามควบคุมการระบาดที่เพิ่มขึ้นเป็นระยะ ๆ โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกลุ่มคนอายุน้อยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

โจฮันเนสเบิร์ก 6 ส.ค. – แอฟริกาใต้ระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เบตาที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ได้ร้อยละ 67 และป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียได้ร้อยละ 71 เกล็นดา เกรย์ ประธานสภาวิจัยการแพทย์แห่งแอฟริกาใต้ (SAMRC) เผยผลการศึกษาที่ระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เบตาได้ร้อยละ 67 และป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาได้ร้อยละ 71 ทั้งยังมีประสิทธิภาพป้องกันการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้สูงถึงร้อยละ 91-96 ซึ่งยืนยันได้ว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของแอฟริกาใต้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เกรย์ยังระบุเพิ่มเติมว่า ผลการศึกษาดังกล่าวอ้างอิงจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของแอฟริกาใต้ 477,234 คนในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และเสร็จสิ้นการวิจัยในเดือนพฤษภาคม ก่อนหน้านี้ หน่วยงานสาธารณสุขของแอฟริกาใต้ได้อนุมัติใช้วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันในเดือนเมษายน และนำวัคซีนดังกล่าวมาใช้เป็นวัคซีนหลักในโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนร่วมกับวัคซีนของไฟเซอร์ โครงการฉีดวัคซีนของแอฟริกาใต้ต้องสะดุดปัญหาในเดือนกุมภาพันธ์หลังรัฐบาลสั่งหยุดใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกา เนื่องจากผลการทดลองขนาดเล็กพบว่าวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วยเล็กน้อยถึงปานกลางจากเชื้อโควิดสายพันธุ์เบตาที่กำลังระบาดหนักในช่วงนั้นได้ไม่ดีพอ ขณะนี้ แอฟริกาใต้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนกว่า 8.3 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 58 ล้านคน โดยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 2.4 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 73,800 คน.-สำนักข่าวไทย

ซิดนีย์ 6 ส.ค. – รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเตือนชาวนครซิดนีย์ให้เตรียมรับมือกับยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้น หลังพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะที่รัฐวิกตอเรียเข้าสู่วันแรกของการใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นครั้งที่หกตั้งแต่ช่วงหลังเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นางแกลดีส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีนครซิดนีย์เป็นเมืองเอก คาดการณ์ว่ายอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในนครซิดนีย์จะพุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยอ้างอิงจากแนวโน้มของตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อในช่วงที่ผ่านมา และขอให้ประชาชนเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งยังระบุว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 291 คน เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานที่มี 262 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อในนครซิดนีย์มากถึง 279 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มี 259 คน และพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 1 คน ทำให้รัฐนิวเซาท์เวลส์มียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 22 คนจากการะบาดครั้งล่าสุด โดยที่ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวนครซิดนีย์ ในขณะเดียวกัน รัฐวิกตอเรีย ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์และมีพรมแดนติดกัน ได้เข้าสู่วันแรกของการใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นครั้งที่หกนับตั้งแต่เกิดการระบาด และเตือนประชาชนว่ารัฐวิกตอเรียตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังพยายามสืบสวนแหล่งที่มาของผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่หลายคนที่ไม่พบความเชื่อมโยงกัน ทั้งยังรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 6 คน ลดลงจากวันก่อนหน้าที่มี 8 คน ส่วนรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งมีนครบริสเบนเป็นเมืองเอก รายงานวันนี้ว่า […]

รัฐบาลสหรัฐกำลังเตรียมออกข้อบังคับให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเกือบทั้งหมดต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบสองโดสก่อนเข้าประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางที่ทำให้ผู้คนในหลายประเทศทั่วโลกไม่อาจเดินทางเข้าสหรัฐได้