วอชิงตัน 5 ส.ค. – รัฐบาลสหรัฐกำลังเตรียมออกข้อบังคับให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเกือบทั้งหมดต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครบสองโดสก่อนเข้าประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางที่ทำให้ผู้คนในหลายประเทศทั่วโลกไม่อาจเดินทางเข้าสหรัฐได้
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการเปิดการเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้ง เพื่อช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจสายการบินและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ยังไม่พร้อมที่จะผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในทันที เนื่องจากพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้นและเผชิญกับการระบาดรุนแรงของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาที่พบครั้งแรกในอินเดียและแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลมีคณะทำงานระหว่างหน่วยงานที่กำลังดำเนินการเพื่อให้ระบบใหม่พร้อมเมื่อสหรัฐกลับมาเปิดการเดินทางอีกครั้ง ทั้งยังระบุเพิ่มเติมถึงแนวทางแบบค่อยเป็นค่อยไปเกี่ยวกับการกำหนดให้ผู้เดินทางจากทุกประเทศต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสก่อนเข้าประเทศ
สหรัฐใช้ข้อจำกัดการเดินทางแบบพิเศษครั้งแรกกับจีนในเดือนมกราคมปีก่อนเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และใช้มาตรการดังกล่าวกับอีกหลายประเทศในเวลาต่อมา รวมถึงอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศล่าสุดที่สหรัฐใช้ข้อจำกัดการเดินทางแบบพิเศษในเดือนพฤษภาคม ขณะที่บางประเทศ เช่น แคนาดาและอังกฤษ ได้ผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการควบคุมให้แก่ผู้เดินทางจากสหรัฐที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐได้หารือร่วมกับสายการบินและหน่วยงานอื่น ๆ เกี่ยวกับการดำเนินการตามนโยบายที่กำหนดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องฉีดวัคซีน โดยที่รัฐบาลสหรัฐต้องตอบคำถามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคำถามเกี่ยวกับใบรับรองการฉีดวัคซีนที่รัฐบาลยอมรับ และสหรัฐจะยอมรับวัคซีนที่บางประเทศใช้ แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติใช้ในสหรัฐหรือไม่ ขณะนี้ สหรัฐสั่งห้ามชาวต่างประเทศส่วนใหญ่ที่มีประวัติเดินทางในรอบ 14 วันไปยังอังกฤษ ประเทศในกลุ่มเชงเกน 26 ประเทศของทวีปยุโรปที่ไม่มีมาตรการควบคุมชายแดน ไอร์แลนด์ จีน อินเดีย แอฟริกาใต้ อิหร่าน และบราซิล.-สำนักข่าวไทย