จีนคงดอกเบี้ยกู้ยืม สวนทางเศรษฐกิจใหญ่

เซี่ยงไฮ้ 20 มิ.ย.- ธนาคารกลางจีนคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เป็นอัตราอ้างอิงตามที่ตลาดคาด เนื่องจากไม่สามารถลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในยามที่เศรษฐกิจใหญ่อื่น ๆ พากันขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ธนาคารประชาชนจีนคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าชั้นดี หรือแอลพีอาร์ (LPR) ระยะ 1 ปีไว้ที่ร้อยละ 3.70 และระยะ 5 ปีไว้ที่ร้อยละ 4.45 แอลพีอาร์ระยะ 1 ปีเป็นอัตราอ้างอิงสำหรับสินเชื่อใหม่และสินเชื่อคงค้าง ส่วนแอลพีอาร์ระยะ 5 ปีเป็นอัตราอ้างอิงสำหรับสินเชื่อบ้าน นักวิเคราะห์ชี้ว่า ธนาคารกลางจีนคงลังเลที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพราะจะสวนทางกับนโยบายของธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) และจะดำเนินนโยบายนี้ไปอีกระยะหนึ่งก่อนจะใช้มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องและส่งเสริมการกู้ยืมอีกครั้ง แม้ธนาคารกลางจีนไม่วิตกเรื่องเงินหยวนอ่อนค่า เพราะขณะนี้ยังคงแข็งค่าค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ต้องการให้เกิดการเทขายเงินหยวนจนเกิดภาวะไร้เสถียรภาพ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหากธนาคารกลางจีนลดอัตราดอกเบี้ยในขณะที่ธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ ขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ หลังจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยคราวเดียวร้อยละ 0.75 ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อควบคุมเงินเฟ้อสูง.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” โวยโรงกลั่นน้ำมันค้ากำไร

วอชิงตัน 16 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเรียกร้องโรงกลั่นน้ำมันให้ชี้แจงเหตุผลที่ไม่นำน้ำมันออกสู่ตลาดให้มากขึ้น และกอบโกยกำไรจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รอยเตอร์อ้างสำเนาจดหมายที่ไบเดนส่งถึงผู้บริหารบริษัทโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งว่า ผู้นำสหรัฐระบุว่า ในยามสงครามแบบนี้ การที่โรงกลั่นน้ำมันค้ากำไรเกินควรด้วยการผลักภาระไปให้ครัวเรือนชาวอเมริกันโดยตรงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ อีกทั้งยังไม่น้ำมันออกสู่ตลาดให้มากขึ้น เท่ากับบั่นทอนความพยายามของรัฐบาลที่หาทางชดเชยผลกระทบจากสงครามยูเครน ทั้งที่รัฐบาลได้เพิ่มการปล่อยน้ำมันสำรองและเพิ่มสัดส่วนเอทานอลในน้ำมันเบนซิน ด้านโฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า โรงกลั่นน้ำมันมีหน้าที่ในฐานะผู้รักชาติที่จะเพิ่มปริมาณน้ำมันและลดต้นทุนให้ผู้บริโภค รัฐบาลขอเรียกร้องให้โรงกลั่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประธานาธิบดีไบเดนเพิ่มการกดดันโรงกลั่น เนื่องจากราคาน้ำมันที่สถานีบริการทำสถิติสูงสุดเกินแกลลอนละ 5 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว แหล่งข่าวเผยว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้ขอร้องโรงกลั่นเป็นการส่วนตัวให้เดินเครื่องโรงกลั่นที่ถูกปิดอยู่และเพิ่มกำลังผลิต รวมทั้งหาทางเพิ่มปริมาณน้ำมันเบนซินเข้าสู่ตลาด ราคาน้ำมันแพงที่ทำให้เงินเฟ้อสูงมากอยู่ในขณะนี้ทำให้ชาวอเมริกันไม่พอใจ และอาจส่งผลเสียต่อการเลือกตั้งกลางสมัยในวันที่ 8 พฤศจิกายนปีนี้ ช่วงที่ราคาน้ำมันร่วงเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และโรงกลั่นที่ไม่ทำกำไรถูกปิดไปหลายแห่ง โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐมีกำลังผลิตสูงสุดในเดือนเมษายน 2563 ไม่ถึงวันละ 19 ล้านบาร์เรล ส่วนเดือนมีนาคมปีนี้กำลังผลิตอยู่ที่วันละ 17.9 ล้านบาร์เรล โรงกลั่นในสหรัฐเผยว่า กำลังผลิตในขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 94 และไม่สามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ตามที่ประธานาธิบดีต้องการ.-สำนักข่าวไทย

หุ้นเกาหลีใต้ร่วงต่ำสุดในรอบ 19 เดือน

โซล 13 มิ.ย.- ตลาดหลักทรัพย์ในเกาหลีใต้ร่วงลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 19 เดือนในวันนี้ เช่นเดียวกับเงินวอนที่อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เพราะตลาดกังวลว่าสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อชะลอเงินเฟ้อสูง และเศรษฐกิจโลกจะชะลอการเติบโต ดัชนีคอสปิ (KOSPI) ปิดที่ 2,504.51 จุด ลดลง 91.36 จุด หรือร้อยละ 3.52 เป็นการลดลง 5 วันติดต่อกัน และต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ที่ปิดที่ 2,493.97 จุด นักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งชี้ว่า นักลงทุนกังวลเรื่องดัชนีราคาผู้บริโภคหรือเงินเฟ้อของสหรัฐเมื่อเดือนพฤษภาคมแย่กว่าที่คาด จุดกระแสวิตกเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่วนค่าเงินวอนของเกาหลีใต้ปิดที่ 1,284 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 15.10 วอนจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ นักวิเคราะห์คาดว่า ความผันผวนนี้จะต่อเนื่องต่อไปในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) จะเริ่มการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันอังคารนี้ตามเวลาสหรัฐ บางความเห็นคาดว่า เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าร้อยละ 0.50 ตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้และเอเชียพากันร่วงหนักในวันนี้ หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐร่วงลงอย่างมากเมื่อวันศุกร์ เมื่อมีการเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมว่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 จากเดือนพฤษภาคมปีก่อน ถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2524.-สำนักข่าวไทย

เยนแตะ 135 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐแล้ว

โตเกียว 13 มิ.ย.- เงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงแตะ 135 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียวเช้าวันนี้ เป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ เพราะตลาดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของญี่ปุ่นและสหรัฐจะยิ่งห่างกันมากยิ่งขึ้น เว็บไซต์เกียวโดนิวส์รายงานว่า เงินเยนลงไปทดสอบระดับอ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2545 ในเช้าวันนี้ ก่อนขึ้นมาเคลื่อนไหวที่ 134.82-134.83 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงเที่ยง เทียบกับ 133.59-133.62 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อเวลา 17:00 น. วันศุกร์ ตามเวลาญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (Fed) จะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกมาก หลังจากเผยแพร่ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 ต่อปี สูงกว่าที่ตลาดคาดหมายไว้ที่ร้อยละ 8.3 และสูงที่สุดในรอบ 40 ปี ขณะที่ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ (BOJ) ย้ำเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะคงนโยบายทำให้เงินเฟ้อแตะร้อยละ 2 ตามเป้าหมายอย่างยั่งยืน นักยุทธศาสตร์ด้านการปริวรรตเงินตราของบริษัทหลักทรัพย์ไดวาเผยว่า นักลงทุนอาจมองอัตราแลกเปลี่ยนว่าจะอ่อนค่าลงไปถึง 140 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ เพราะดูเหมือนว่าไม่มีสิ่งใดสามารถชะลอการอ่อนค่าของเงินเยนได้แล้วในขณะนี้ เงินเยนที่อ่อนค่าเป็นผลดีต่อผู้ส่งออกเมื่อแลกดอลลาร์สหรัฐกลับมาเป็นเยน แต่อาจชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศเพราะทำให้ราคาอาหารและน้ำมันนำเข้าแพงขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ ธปท.ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแก้เงินเฟ้อ

ผู้ว่าแบงก์ชาติ ยอมรับกังวลปัญหาเงินเฟ้อฉุดเศรษฐกิจ ส่งสัญญาณชัดจ่อปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ชี้ถึงเวลาต้องค่อยๆ ถอนคันเร่งแล้ว หากไม่ทำอะไรผลกระทบเงินเฟ้อจะหนักกว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 7 เท่า ห่วงการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวที่จะเป็นรายได้หลักของประเทศ

ชาวซิมบับเวเดือดร้อน เงินเฟ้อ 1.3 เท่า

ฮาราเร 10 มิ.ย.- ชาวซิมบับเวกำลังเดือดร้อนหนักกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงถึง 1.3 เท่า เพราะมีปัญหาในการซื้ออาหารหาเลี้ยงครอบครัว จนมีข่าวลวงแพร่สะพัดทางออนไลน์ว่า ประชาชนถึงกับต้องตัดนิ้วเท้าขาย รัฐมนตรีช่วยกระทรวงข่าวสารซิมบับเว ซึ่งเป็นประเทศในแอฟริกา ออกตรวจตามท้องถนนเมื่อเดือนก่อนและขอให้พ่อค้าแม่ค้าถอดรองเท้าให้ดูเพื่อยืนยันว่ายังมีนิ้วเท้าครบทั้ง 10 นิ้ว ต่อมาตำรวจได้จับกุมพ่อค้าคนหนึ่งที่เป็นต้นตอปล่อยข่าวลวง และตั้งข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ มีโทษปรับหรือจำคุก 6 เดือน อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงก็ไม่ได้ดีเท่าใดนัก สถิติของทางการระบุว่า นับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน อัตราเงินเฟ้อของซิมบับเวทะยานได้ขึ้นจากร้อยละ 66 ไปสูงกว่าร้อยละ 130 แล้ว รัฐมนตรีคลังซิมบับเวแถลงต่อรัฐสภาเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า สงครามยูเครนและปัญหาความไม่สมดุลในประเทศที่เกิดขึ้นมายาวนานได้ทำให้เศรษฐกิจไร้เสถียรภาพ เห็นได้จากค่าเงินผันผวนและราคาสินค้าผันผวน ขณะที่สหภาพครูทวีตผ่านทวิตเตอร์เมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่า ครูไม่สามารถหาเลี้ยงปากท้องได้แล้ว ขอให้รัฐบาลจ่ายเงินเดือนเป็นดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากดอลลาร์ซิมบับเวอ่อนค่าภายในช่วงข้ามคืน นักวิเคราะห์ชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อสูงทำให้เงินในประเทศไม่ได้รับความเชื่อถืออีกต่อไป หลายคนเกรงว่า ประเทศจะกลับไปซ้ำรอยปี 2551 ที่เงินเฟ้อสุดขีดถึง 5 พันล้านเท่าตามข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ช่วงเวลานั้นธนบัตรชนิด 1 แสนล้านดอลลาร์ซิมบับเวเต็มถุงพลาสติกหลายใบก็ยังไม่เพียงพอที่จะซื้อของชำจำเป็นได้.-สำนักข่าวไทย

เตือนโลกเสี่ยงเกิดภาวะ stagflation

วอชิงตัน 8 มิ.ย.- ธนาคารโลกเตือนว่า เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเข้าสู่ภาวะสแตกเฟลชัน (stagflation) ที่การเติบโตหยุดชะงักแต่เงินเฟ้อสูง คล้ายกับช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 สาเหตุหลักมาจากสงครามยูเครน นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลกเผยกับสื่อว่า มีโอกาสค่อนข้างมากที่จะเกิดภาวะดังกล่าว และจะเกิดผลที่สร้างความสั่นคลอนต่อเศรษฐกิจรายได้ต่ำและรายได้ปานกลาง หลายประเทศจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ และหากเศรษฐกิจโลกไม่ขยายตัวเลย ก็จะเท่ากับเกิดเศรษฐกิจโลกถดถอย เขาย้ำว่า จำเป็นต้องเพิ่มการผลิตเพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้าโดยเฉพาะพลังงานปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติและปุ๋ยในขณะนี้กำลังกระทบการผลิตอาหาร ขณะเดียวกันต้องหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกและอุดหนุนราคาที่จะทำให้ราคาสินค้ายิ่งสูงขึ้นไปอีกและทำให้ตลาดบิดเบือน รายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของธนาคารโลกที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงเหลือร้อยละ 2.9 ลดลงร้อยละ 1.2 จากการประมาณการเมื่อเดือนมกราคม เพราะสงครามยูเครนซ้ำเติมความเสียหายที่เกิดจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก จากปัจจุบันที่เสี่ยงเข้าสู่ภาวะสแตกเฟลชัน ทั้งที่ปีที่แล้วเพิ่งฟื้นตัวมาขยายตัวที่ร้อยละ 5.7 เพราะโควิดดีขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวจะคล้ายกับช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 ที่เศรษฐกิจโลกไม่เติบโตและเงินเฟ้อพุ่งทะยาน เพราะมีปัญหาเรื่องอุปทานและการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำมายาวนาน ต่างกันตรงที่ว่าปัจจุบันดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และสถาบันการเงินหลักยังมีสถานะการเงินแข็งแกร่ง รายงานปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงร้อยละ 1.2 เหลือร้อยละ 2.5 ปรับลดจีนลงร้อยละ 0.8 เหลือร้อยละ 4.3 ปรับลดยูโรโซนลงเหลือร้อยละ 2.5 ปรับลดญี่ปุ่นลงเหลือร้อยละ 1.7 และคาดว่ารัสเซียจะหดตัวมากถึงร้อยละ 11.3.-สำนักข่าวไทย

นักเศรษฐศาสตร์เห็นต่างกันเรื่องรับมือเงินเฟ้อในเวียดนาม

ฮานอย 6 มิ.ย.- นักเศรษฐศาสตร์มีความคิดเห็นแตกต่างกันเรื่องรัฐบาลเวียดนามควรจะรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไรท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อเวียดนามช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 2.25 สูงกว่า 5 เดือนแรกของปีก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 1.29 ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) คาดการณ์เมื่อเดือนก่อนว่า เงินเฟ้อเวียดนามจะแตะร้อยละ 3.7 ในปีนี้ ต่ำกว่าที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ไม่ให้เกินร้อยละ 4 นายจั่น ดินญ์ เทียน อดีตประธานสถาบันเศรษฐศาสตร์เวียดนามชี้ว่า หากรัฐบาลชะลอการใช้จ่ายเพราะกังวลภาวะเงินเฟ้อ จะกลายเป็นการเสียโอกาส ทางการต้องคิดนอกกรอบในช่วงเวลาที่สภาพการณ์ไม่ปกติเช่นนี้ เขามองว่าเศรษฐกิจมีแรงผลักดันให้ฟื้นตัวอยู่แล้ว และถึงแม้รัฐบาลไม่อัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อก็จะสูงเกินกว่าที่รัฐบาลจะควบคุมได้ รัฐบาลจึงควรยอมรับอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าร้อยละ 4 และอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ ด้านนายหวู ทัน ตื่อ อัน มหาวิทยาลัยฟุลไบรท์เวียดนามกังวลว่า สงครามยูเครน-รัสเซียและอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐและสหภาพยุโรปหรืออียูที่สูงกว่าร้อยละ 8 จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเวียดนามสูงยิ่งขึ้นไปอีก เพราะผลกระทบในปัจจุบันยังไม่ใช่ผลที่เกิดขึ้นอย่างเต็มตัว การอัดฉีดเงินเข้าเศรษฐกิจในเวลานี้อาจทำให้เกิดผลทางลบ รัฐบาลควรดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ขณะที่นายแอนดรู เจฟฟรีส์ ผู้อำนวยการธนาคารพัฒนาเอเชียประจำเวียดนามแนะว่า เวียดนามควรจับตาดูผลกระทบภาวะเงินเฟ้อในระดับโลกต่อไป เพราะการผ่อนคลายนโยบายการเงินของสหรัฐและอียูอาจทำให้ราคาเชื้อเพลิงปรับเพิ่มขึ้นอีก ส่วนนายฟรองซัวส์ แปงโชด์ ผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ประจำเวียดนามชี้ว่า เวียดนามยังไม่ควรผ่อนคลายนโยบายทางการเงินในเวลานี้ […]

‘สงคราม-น้ำมัน-อาหารสด’ ดันเงินเฟ้อ พ.ค.65 สูงร้อยละ 7.10

สนค.เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ค.65 สูงขึ้นร้อยละ 7.10 จากปัจจัยผลกระทบสงคราม 2 ประเทศยืดเยื้อดันราคาน้ำมัน อาหารสดทั่วโลกขยับตัวสูงขึ้นอย่างมาก 

เรียกร้องเวียดนามลดภาษีน้ำมันลงอีกเพื่อตรึงราคา

สมาชิกรัฐสภาเวียดนามเรียกร้องให้ลดภาษีน้ำมันเบนซินลงอีก เพื่อตรึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เพราะจะทำให้ราคาสินค้าอื่น ๆ ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

รมว.คลังสหรัฐยอมรับคิดผิดเรื่องเงินเฟ้อ

วอชิงตัน 1 มิ.ย.- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐยอมรับว่า ที่ผ่านมาคิดผิดเรื่องทิศทางเงินเฟ้อ ขณะนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเรื่องการควบคุมราคาสินค้าที่สูงขึ้น และสนับสนุนมาตรการของธนาคารกลางหรือเฟด (Fed) ที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ นางเยลเลนตอบข้อถามซีเอ็นเอ็น (CNN) เรื่องคิดผิดหรือไม่ที่มองข้ามอันตรายของเงินเฟ้อในถ้อยแถลงที่กล่าวตลอดปีที่ผ่านมาว่า เธอคิดผิดในเวลานั้นเรื่องทิศทางของเงินเฟ้อ เกิดเหตุการณ์เหนือความคาดหมายและรุนแรงหลายอย่างที่ทำให้ราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น และทำให้อุปทานติดขัด ทั้งหมดส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐแต่ในเวลานั้นเธอยังไม่เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง เหตุการณ์เหล่านั้นมีตั้งแต่เรื่องรัสเซียรุกรานยูเครนไปจนถึงเรื่องที่จีนล็อกดาวน์เพื่อจำกัดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อหลักในขณะนี้มีแนวโน้มลดลดลง แต่ราคาน้ำมันยังคงสูงอยู่และสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) กำลังร่างแผนห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซีย จึงยังมีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อไปในอนาคต รัฐมนตรีคลังสหรัฐย้ำว่า ประธานาธิบดีไบเดนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเรื่องปัญหาเงินเฟ้อ โดยให้ความเชื่อมั่นอย่างยิ่งและสนับสนุนความเป็นอิสระของเฟดในการดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ รัฐบาลพยายามเสริมการทำงานของเฟดด้วยการลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยาตามใบสั่งแพทย์และสาธารณสุข และผลักดันข้อเสนอในสภาเรื่องส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน.-สำนักข่าวไทย

ธปท.เผยเศรษฐกิจไทย เม.ย.65 ดีขึ้น เงินเฟ้อลด

ธปท.เผยเศรษฐกิจไทย เดือน เม.ย.65 ดีขึ้นตามการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยวและส่งออก แต่ภาคอุตสาหกรรมยังหดตัวเหตุขาดแคลนชิ้นส่วนผลิต เช่นเดียวกับการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนปรับลดลง ขณะที่เงินเฟ้อลดลงตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงาน

1 11 12 13 14 15 23
...