ฮาราเร 10 มิ.ย.- ชาวซิมบับเวกำลังเดือดร้อนหนักกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงถึง 1.3 เท่า เพราะมีปัญหาในการซื้ออาหารหาเลี้ยงครอบครัว จนมีข่าวลวงแพร่สะพัดทางออนไลน์ว่า ประชาชนถึงกับต้องตัดนิ้วเท้าขาย
รัฐมนตรีช่วยกระทรวงข่าวสารซิมบับเว ซึ่งเป็นประเทศในแอฟริกา ออกตรวจตามท้องถนนเมื่อเดือนก่อนและขอให้พ่อค้าแม่ค้าถอดรองเท้าให้ดูเพื่อยืนยันว่ายังมีนิ้วเท้าครบทั้ง 10 นิ้ว ต่อมาตำรวจได้จับกุมพ่อค้าคนหนึ่งที่เป็นต้นตอปล่อยข่าวลวง และตั้งข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ มีโทษปรับหรือจำคุก 6 เดือน อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงก็ไม่ได้ดีเท่าใดนัก สถิติของทางการระบุว่า นับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน อัตราเงินเฟ้อของซิมบับเวทะยานได้ขึ้นจากร้อยละ 66 ไปสูงกว่าร้อยละ 130 แล้ว
รัฐมนตรีคลังซิมบับเวแถลงต่อรัฐสภาเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า สงครามยูเครนและปัญหาความไม่สมดุลในประเทศที่เกิดขึ้นมายาวนานได้ทำให้เศรษฐกิจไร้เสถียรภาพ เห็นได้จากค่าเงินผันผวนและราคาสินค้าผันผวน ขณะที่สหภาพครูทวีตผ่านทวิตเตอร์เมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่า ครูไม่สามารถหาเลี้ยงปากท้องได้แล้ว ขอให้รัฐบาลจ่ายเงินเดือนเป็นดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากดอลลาร์ซิมบับเวอ่อนค่าภายในช่วงข้ามคืน นักวิเคราะห์ชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อสูงทำให้เงินในประเทศไม่ได้รับความเชื่อถืออีกต่อไป หลายคนเกรงว่า ประเทศจะกลับไปซ้ำรอยปี 2551 ที่เงินเฟ้อสุดขีดถึง 5 พันล้านเท่าตามข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ช่วงเวลานั้นธนบัตรชนิด 1 แสนล้านดอลลาร์ซิมบับเวเต็มถุงพลาสติกหลายใบก็ยังไม่เพียงพอที่จะซื้อของชำจำเป็นได้.-สำนักข่าวไทย