วอชิงตัน 8 มิ.ย.- ธนาคารโลกเตือนว่า เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเข้าสู่ภาวะสแตกเฟลชัน (stagflation) ที่การเติบโตหยุดชะงักแต่เงินเฟ้อสูง คล้ายกับช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 สาเหตุหลักมาจากสงครามยูเครน
นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลกเผยกับสื่อว่า มีโอกาสค่อนข้างมากที่จะเกิดภาวะดังกล่าว และจะเกิดผลที่สร้างความสั่นคลอนต่อเศรษฐกิจรายได้ต่ำและรายได้ปานกลาง หลายประเทศจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ และหากเศรษฐกิจโลกไม่ขยายตัวเลย ก็จะเท่ากับเกิดเศรษฐกิจโลกถดถอย เขาย้ำว่า จำเป็นต้องเพิ่มการผลิตเพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้าโดยเฉพาะพลังงานปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติและปุ๋ยในขณะนี้กำลังกระทบการผลิตอาหาร ขณะเดียวกันต้องหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกและอุดหนุนราคาที่จะทำให้ราคาสินค้ายิ่งสูงขึ้นไปอีกและทำให้ตลาดบิดเบือน
รายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของธนาคารโลกที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงเหลือร้อยละ 2.9 ลดลงร้อยละ 1.2 จากการประมาณการเมื่อเดือนมกราคม เพราะสงครามยูเครนซ้ำเติมความเสียหายที่เกิดจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก จากปัจจุบันที่เสี่ยงเข้าสู่ภาวะสแตกเฟลชัน ทั้งที่ปีที่แล้วเพิ่งฟื้นตัวมาขยายตัวที่ร้อยละ 5.7 เพราะโควิดดีขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวจะคล้ายกับช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 ที่เศรษฐกิจโลกไม่เติบโตและเงินเฟ้อพุ่งทะยาน เพราะมีปัญหาเรื่องอุปทานและการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำมายาวนาน ต่างกันตรงที่ว่าปัจจุบันดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และสถาบันการเงินหลักยังมีสถานะการเงินแข็งแกร่ง
รายงานปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงร้อยละ 1.2 เหลือร้อยละ 2.5 ปรับลดจีนลงร้อยละ 0.8 เหลือร้อยละ 4.3 ปรับลดยูโรโซนลงเหลือร้อยละ 2.5 ปรับลดญี่ปุ่นลงเหลือร้อยละ 1.7 และคาดว่ารัสเซียจะหดตัวมากถึงร้อยละ 11.3.-สำนักข่าวไทย