อินโดนีเซีย

จาการ์ตา 30 ธ.ค. – อินโดนีเซียลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดสจากแอสตราเซนเนกา บริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษ และโนวาแวกซ์ บริษัทผู้พัฒนาวัคซีนของสหรัฐ นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซียกล่าวว่า ทางการได้ลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 50 ล้านโดสจากแอสตราเซนเนกา และอีก 50 ล้านโดสจากโนวาแวกซ์แล้ว ขณะที่นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ของอินโดนีเซียระบุว่า วัคซีนทั้งสองขนานจะช่วยให้อินโดนีเซียมีทางเลือกมากขึ้น และสามารถวางแผนการฉีดวัคซีนในระยะที่สอง รวมถึงการแจกจ่ายวัคซีนด้วย ทางการอินโดนีเซียรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 7,903 คน และผู้เสียชีวิต 251 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 727,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 21,700 คน ขณะนี้อินโดนีเซียยังคงเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. -สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 29 ธ.ค.- ท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตาในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียเต็มไปด้วยความโกลาหล เมื่อทางการประกาศคำสั่งห้ามคนเดินทางมาจากต่างประเทศเข้าประเทศ สื่อสังคมออนไลน์โพสต์ภาพอาคารผู้โดยสารขาเข้าของท่าอากาศยานแห่งนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ จนแทบไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม และหลายคนไม่สวมหน้ากากอนามัย หลังจากนางเรตโน มาซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคน ยกเว้นเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงจะไม่สามารถเข้าอินโดนีเซียได้เป็นเวลาสองสัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ตามนโยบายสกัดเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์แพร่ได้เร็วขึ้นเข้ามาแพร่ระบาด ส่วนผู้เดินทางมาระหว่างวันที่ 28-31 ธันวาคมจะต้องกักตัว 5 วันในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนดไว้ ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียเพิ่งสั่งห้ามผู้เดินทางมาจากอังกฤษเข้าประเทศ และเข้มงวดกับผู้เดินทางมาจากยุโรปและออสเตรเลีย หวังควบคุมเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์แพร่ได้เร็วขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำอินโดนีเซียเผยว่า รัฐบาลจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและเขาจะฉีดวัคซีนเป็นคนแรกเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ชาวอินโดนีเซีย

จาการ์ตา 10 ธ.ค.- นักวิเคราะห์เตือนว่า อินโดนีเซียวางเดิมพันสูงมากเรื่องใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของจีน เพราะเสี่ยงติดหนี้บุญคุณทางการทูตกับจีน จีนรับปากจัดสรรวัคซีนให้แก่ประเทศยากจน เอเอฟพีมองว่าเป็นความพยายามฟื้นฟูภาพลักษณ์ที่เสียหายเพราะโรคโควิด-19 ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น ทางตอนกลางของจีนเป็นแห่งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน อินโดนีเซียมีสถานการณ์การระบาดรุนแรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงสาธารณสุขแถลงวานนี้ว่า มีผู้ป่วยใหม่ 6,058 คน ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 592,900 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 171 คน รวมเป็น 18,171 คน อินโดนีเซียได้รับวัคซีนโคโรนาแวกจากซิโนแวกไบโอเทคของจีนแล้ว 1.2 ล้านโดสในสัปดาห์นี้ และอีก 1.8 ล้านโดสในเดือนหน้า จากที่ลงนามสั่งซื้อไว้ทั้งหมดกว่า 350 ล้านโดสจากหลายบริษัท ทั้งที่อินโดนีเซียเพิ่งทดลองโคโรนาแวกทางคลินิกในฤดูร้อน และยังไม่ได้รับการอนุมัติใช้งานจากทางการทั้งสองประเทศ นักวิเคราะห์ของสถาบันยูซอฟอิสฮัคในสิงคโปร์ระบุว่า “การทูตวัคซีน” ของจีนไม่ใช่เรื่องไร้เงื่อนไข จีนอาจใช้การบริจาควัคซีนเดินหน้าวาระในภูมิภาค โดยเฉพาะเรื่องอ่อนไหวอย่างข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ขณะที่นักวิจัยศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษาในกรุงจาการ์ตามองว่า ความร่วมมือวัคซีนกับจีนเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะจะส่งผลทางอ้อมติดตามมา และการที่อินโดนีเซียต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานทางการแพทย์จากจีนในระยะยาว แม้ตอนนี้ยังไม่เห็นการต่างตอบแทนจริงจังใด ๆ แต่ทุกคนในอินโดนีเซียตระหนักดีว่า อาจติดหนี้บุญคุณทางการทูตกับจีน ทำให้ขยับตัวทางการทูตได้ยากขึ้น และต้องระมัดระวังที่จะไม่ทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีถูกกระทบ.-สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 8 ธ.ค. – ไบโอ ฟาร์มา บริษัทเวชภัณฑ์ของอินโดนีเซียเผยข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทซิโนแวกของจีนว่า มีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 97 โฆษกของไบโอ ฟาร์มากล่าวในงานแถลงข่าวว่า ทีมงานทดลองทางคลินิกของบริษัทแจ้งข้อมูลเบื้องต้นว่า วัคซีนของซิโนแวกมีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 97 และว่า บริษัทจะรอผลการทดลองที่เสร็จสมบูรณ์ และคาดว่า สำนักงานอาหารและยาของอินโดนีเซียจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินในช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้า ก่อนที่จะเริ่มการฉีดวัคซีนในประชาชนจำนวนมากเป็นลำดับต่อไป อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้เผยรายละเอียดว่า ผลเบื้องต้นดังกล่าวมาจากการทดลองทางคลินิกระยะสุดท้ายหรือไม่ และไม่ได้ให้ข้อมูลว่า มีอาสาสมัครกี่คนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในระหว่างการทดลองทางคลินิกที่มีผู้เข้าร่วม 1,600 คน โฆษกอีกคนของไบโอ ฟาร์มาเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในเวลาต่อมาว่า บริษัทกำลังรวบรวมข้อมูลประสิทธิภาพวัคซีนในการทดลองทางคลินิกในระยะที่ 3 ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ แต่โฆษกของซิโนแวกเผยว่า บริษัทยังไม่ได้รับรายงานประสิทธิภาพวัคซีนในการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3. -สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 7 ธ.ค.- วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของบริษัทจีนชุดแรกถูกส่งถึงอินโดนีเซียแล้ว ประเทศที่สถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียแถลงว่า วัคซีนโคโรนาแวก (CoronaVac) ชุดแรก 1.2 ล้านโดสของซิโนแวกไบโอเทค บริษัทผลิตวัคซีนชั้นนำของจีนถูกส่งมาถึงกรุงจาการ์ตาเมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา รัฐบาลคาดว่า จะได้รับอีก 1.8 ล้านโดสในต้นเดือนมกราคม ชิโนแวกจะส่งวัตถุดิบสำหรับผลิตวัคซีน 45 ล้านโดสเพื่อให้ไบโอฟาร์มา บริษัทยาของอินโดนีเซียนำไปผลิตเองต่อไป นอกจากซิโนแวกแล้ว รัฐบาลยังได้สั่งซื้อจากบริษัทอีกสามแห่ง รวมถึงแอสตราเซนเนกาของอังกฤษที่กำลังทดลองขั้นสุดท้ายอยู่ อินโดนีเซียมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมกว่า 500,000 คน เสียชีวิตกว่า 17,000 คน นางศรีมูลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีคลังเผยเมื่อเดือนก่อนว่า รัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนฟรีให้ประชาชนสูงสุด 120 ล้านคน ต้องใช้งบประมาณร้อยละ 0.5-1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) จนถึงปี 2565 บุคลากรทางการแพทย์ ทหารตำรวจ ข้าราชการ จะได้รับวัคซีน 3 ล้านโดสแรกในเดือนนี้ หลังจากนั้นจะเป็นประชาชน 120 ล้านคนอายุ […]

จาการ์ตา 4 ธ.ค. – อินโดนีเซียสูญเสียนายแพทย์ระดับอาวุโสจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เนื่องจากปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์และการระบาดที่เข้าขั้นวิกฤต นพ.ซาร์โจโน อูโตโม นายแพทย์ชาวอินโดนีเซียระดับอาวุโสป่วยเป็นโรคโควิด-19 และเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดชวาตะวันออก นายแพทย์ที่เป็นเพื่อนของเขาพยายามโทรศัพท์ติดต่อขอเครื่องช่วยหายใจจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ในเมืองสุราบายา ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับที่ 2 ของอินโดนีเซียและสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่ท้ายที่สุดแล้ว นายแพทย์ระดับอาวุโสและภรรยาก็เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ข่าวการเสียชีวิตของบุคคลทั้งคู่สร้างความตื่นตกใจทั่วประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในอินโดนีเซียกำลังเข้าขั้นวิกฤตและประสบปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ อินโดนีเซียทำสถิติยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุดถึง 4 ครั้งในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดยมียอดผู้ป่วยรายวันสูงสุด 8,369 คนเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม สื่อท้องถิ่นอินโดนีเซียรายงานว่า โรงพยาบาลท้องถิ่นรองรับผู้ป่วยจนเต็มขีดความสามารถแล้ว ขณะที่โฆษกสมาคมการแพทย์อินโดนีเซียเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อล้นโรงพยาบาลในขณะนี้ถือว่าย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในอินโดนีเซีย ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายรายให้ความเห็นว่า อินโดนีเซียประสบปัญหาในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจนทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 557,877 คน และผู้เสียชีวิต 17,355 คน ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อสะสมและผู้เสียชีวิตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. -สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 1 ธ.ค. – นายอานีส บาสเวดาน ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียประกาศว่า เขามีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นบวก ขณะที่อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น นายบาสเวดาน วัย 51 ปีกล่าวผ่านวิดีโอในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า เขายังไม่มีอาการป่วยและได้เข้าสู่มาตรการกักตัวแล้ว ทั้งยังเตือนให้ชาวอินโดนีเซียใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง เพราะโรคโควิด-19 ยังคงอยู่รอบตัว เว็บไซต์ของทางการกรุงจาการ์ตาระบุว่า ผู้ช่วยของนายบาสเวดานมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อินโดนีเซียทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงสุดในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 530,000 คน และผู้เสียชีวิตเกือบ 17,000 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบางรายให้ความเห็นว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตตามจริงอาจมีมากกว่าที่ทางการรายงาน เนื่องจากอินโดนีเซียมีข้อจำกัดในการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาและการติดตามผู้สัมผัส กรุงจาการ์ตามีสถิติผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดในเดือนที่แล้วเช่นกัน โดยมีตัวเลขผู้ป่วยเฉลี่ย 1,240 คนต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ทางการอินโดนีเซียยังคงเลี่ยงการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ และเลือกใช้มาตรการควบคุมการระบาดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายรายให้ความเห็นว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีสาเหตุจากการรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่ทั้งในและนอกกรุงจาการ์ตาที่รวมถึงการเดินขบวนบนท้องถนนของชาวอินโดนีเซียหลายพันคนเพื่อประท้วงกฎหมายการสร้างงานฉบับใหม่และมาตรการจำกัดการรวมตัวของประชาชน. -สำนักข่าวไทย