ไทยสร้างไทยแนะรัฐต้องฟังเสียงปชช.
ไทยสร้างไทยซัดปมสลายชุมนุมเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น หลังมาทวงสัญญยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จี้ รัฐบาลหยุดเล่นการเมือง แนะต้องฟังเสียงประชาชน สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน
ไทยสร้างไทยซัดปมสลายชุมนุมเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น หลังมาทวงสัญญยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จี้ รัฐบาลหยุดเล่นการเมือง แนะต้องฟังเสียงประชาชน สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน
รองโฆษก ตร. แจงเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มทะลุแก๊สบริเวณแยกดินแดง เมื่อช่วงเย็นวันนี้ ทำตามหลักวิธี จับกุมผู้ชุมนุมได้ 15 คน เป็นเยาวชน 5 คน
กสม. วันนี้ ( 4 ส.ค.) กลุ่มเยาวชนปลดแอก ร้อง กสม.ตรวจสอบ จนท.รัฐใช้ความรุนแรงสลายชุมนุม เรียกร้องให้ร่วมสังเกตการณ์การชุมนุม 7 ส.ค.นี้
“ณัฐวุฒิ” ส.ส.ก้าวไกล ประณามการสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า ไม่คำนึงถึงหลักกฎหมายและมนุษยธรรม
ศาลปกครอง วันนี้ ( 26 มี.ค.) ภาคีนักกฎหมายฯ ฟ้องตำรวจฉีดน้ำสารเคมีสลายการชุมนุมหน้าสภา 17 พ.ย. 63 ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย-ไม่เป็นไปตามหลักสากล ขอศาลปกครองสั่งหยุดใช้กำลังต่อผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุ
ย่างกุ้ง 16 มี.ค. – สมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองเมียนมาเผยว่า เมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนหลังเกิดเหตุประท้วงและความไม่สงบเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารที่ก่อเหตุรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองเมียนมาระบุในแถลงการณ์ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนจากเหตุใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมเมื่อวานนี้ ยอดผู้ประท้วงที่เสียชีวิตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดกว่า 180 คนนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหาร แม้ว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เมื่อวานนี้เป็นกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร แต่ก็มีบางรายเป็นพลเมืองที่ไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุม ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ตอนกลางของเมียนมา และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คนในนครย่างกุ้ง ในจำนวนนี้ เป็นหญิงเมียนมา 2 คนที่อยู่ในบ้าน แต่กลับถูกกระสุนยิงในขณะที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยเมียนมาเปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมบนท้องถนน ด้านสำนักข่าวเอเอฟพียืนยันว่า เหตุสลายการชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 คน เป็นยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดในวันเดียวนับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหาร ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาได้ประกาศกฎอัยการศึกใน 6 เขตของนครย่างกุ้งหลังเกิดสถานการณ์รุนแรงในวันอาทิตย์ ทั้งนี้ ผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมจะถูกพิจารณาคดีโดยศาลทหารแทนที่จะเป็นศาลพลเรือน และจะได้รับโทษตั้งแต่ใช้แรงงานหนัก 3 ปีไปจนถึงประหารชีวิต. -สำนักข่าวไทย
รมช.กห.แจงกระทู้สดเรื่องสลายการชุมนุม 17 พ.ย. เผย จนท.เตรียมดำเนินคดีกับทุกกลุ่มที่ใช้อาวุธ ยืนยันน้ำผสมสารเคมีมีแก๊สน้ำตา 3% ตามขั้นตอน “นพ.ชลน่าน” เตรียมชงสภาตั้ง กมธ.สอบเหตุชุมนุมหน้าสภา
“หมอทศพร” นำ ผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมหน้ารัฐสภา เหตุปะทะแยกเกียกกาย จี้รัฐหยุดใช้ความรุนแรง เพื่อไทยเปิดศูนย์ช่วยเหลือ ทั้งทางคดีและร่างกาย
รองโฆษก ตร. ยืนยันไม่ใช่การสลายชุมนุมรอบสภา ปฏิบัติตามขั้นตอนบังคับใช้กฎหมาย ฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาหลังกลุ่มผู้ชุมนพยายามฝ่าแนวกีดขวาง
รัฐสภา 12 พ.ย.-กมธ.ตำรวจฯ เผยเจ้าหน้าที่ตัดสินใจสลายชุมนุมปทุมวัน อ้างเหตุการ์ดปะทะเจ้าหน้าที่ก่อน หวั่นควบคุมไม่ได้ จึงต้องใช้แก๊สน้ำตา คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฏร แถลงผลการเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาชี้แจงถึงมาตรการและแนวปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อควบคุมการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บังคับบัญชาตำรวจนครบาล พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เข้าร่วมชี้แจง ทั้งนี้ นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานกรรมาธิการตำรวจฯ กล่าวว่า ตำรวจที่มาชี้แจง ยอมรับว่ามีการใช้แก๊สน้ำตาผสมน้ำสลายการชุมนุมจริง แต่อยู่ในระดับที่เจือจาง เพียง 3% ซึ่งเป็นไปตามมาตรการควบคุมการชุมนุม ไม่เป็นอันตราย ส่วนน้ำสีฟ้า ไม่เป็นอันตรายเช่นกัน คล้ายกับสีที่ผสมในลิปสติก เป็นการใช้ระบุตัวบุคคลเท่านั้น นายสัญญา กล่าวด้วยว่า โดยตำรวจให้สาเหตุว่าที่ต้องสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่แยกปทุมวัน เพราะเริ่มมีการใช้ความรุนแรงก่อนที่จะมีการสลายการชุมนุม ซึ่งการ์ดของผู้ชุมนุมได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จึงเกรงว่าจะควบคุมสถานการณ์ชุมนุมไม่ได้ จึงตัดสินใจใช้มาตรการสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูง […]
ตร.แจง กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ยอมรับใช้แก๊สน้ำตาสลายชุมนุมที่แยกปทุมวัน โดยใช้เพียง 1 ครั้ง เพื่อยุติการชุมนุม ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ชุมนุม เนื่องจากเป็นการผสมอย่างเจือจาง ยืนยันเป็นไปตามหลักสากล
กมธ.ตำรวจเชิญผบ.ตร.แจงปมสลายชุมนุมอีกรอบ 12 พ.ย.นี้ หลังอ้างเชิญฉุกละหุก เตรียมตัวไม่ทัน เตรียมคำถาม 7 ข้อให้ตอบ