พรรคเพื่อไทย 23 พ.ย. – “หมอทศพร” นำ ผู้บาดเจ็บจากสลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา เหตุปะทะแยกเกียกกาย จี้รัฐหยุดใช้ความรุนแรง เพื่อไทยเปิดศูนย์ช่วยเหลือ ทั้งทางคดีและร่างกาย
นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย นำผู้รับบาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63 มาแถลงกับสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากผู้บาดเจ็บซึ่งแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. ผู้ที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ที่ขา 2 คน ที่ท้องสีข้าง 1 คน รายที่หนักที่สุด คือ ถูกยิงที่ขาซ้ายกระดูกหัก แพทย์ได้ผ่าตัดนำกระสุนออกและดามเหล็กไว้แล้ว กลุ่มที่ 2 ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากก๊าซ สารเคมี โดยจะมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ไอ จาม บางส่วนยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล และกลุ่มที่ 3 ผู้บาดเจ็บจากน้ำผสมสารเคมี ซึ่งผลกระทบโดยตรงจะมีรอยเหมือนถูกไฟไหม้ที่บริเวณหลังและศีรษะ เนื่องจากสารเคมีได้ทำลายผิวหนังชั้นนอกไปจนถึงหนังแท้ บางรายอาการหนักมาก และขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าสารเคมีที่เจ้าหน้าที่ใช้เป็นสารชนิดใด แต่เจ้าหน้าที่นิติเวชได้เก็บตัวอย่างของสารเคมีไว้แล้ว จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี รัฐบาลและตำรวจไม่ควรใช้กำลัง กับประชาชนในลักษณะเช่นนี้อีก เพราะการชุมนุมที่ผ่านมาก็เป็นไปอย่างสงบ สันติปราศจากอาวุธ
ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงว่าเจ้าหน้าที่ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับประชาชนนั้น นพ.ทศพร กล่าวว่า เป็นเรื่องเหลวไหล ไม่เป็นความจริง เพราะการใช้แก๊สน้ำตากับน้ำผสมสารเคมีเป็นการยิงมาจากฝั่งตำรวจหากได้รับผลกระทบก็คงเป็นแค่ละอองซึ่งไม่รุนแรงเหมือนกับที่ประชาชนถูกกระทำโดยตรง หลังจากนี้อยากให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบติดต่อมาที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมพรรคเพื่อไทยได้ทุกวัน จะมีเจ้าหน้าที่ค่อยให้การช่วยเหลือทั้งทางคดีแพ่ง อาญา และการรักษาร่างกาย รวมไปถึงจะนำเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการต่าง ๆ ของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย
หนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนถูกน้ำผสมสารเคมีฉีดที่แยกเกียกกายซึ่งทันทีที่โดนรู้สึกว่ามีความแตกต่างกว่าครั้งที่ผ่านมา มีอาการแสบกว่าเดิม และเมื่อล้างตัว ฟอกด้วยสบู่วันรุ่งขึ้นเกิดตุ่มใสเป็นแผลพุพองตามลำตัวจำนวนมากจึงได้ไปหาหมอที่คลินิก เมื่อหมอสอบถามอาการ พอทราบว่าเกิดจากอาการแพ้น้ำที่ผสมสารเคมี จึงนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อไปเนื่องจากติดเชื้อในระดับเซลล์อย่างรุนแรง
ด้านนายเกวลัง ธัญญเจริญ ประสานงานกลุ่มทีมอาชีวะพิทักษ์ประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกยิงที่แยกเกียกกาย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุยิงกันบริเวณพื้นที่ชุมนุมเกิดขึ้นช่วง 2 ทุ่มของวันที่17 พ.ย. ไม่ใช่ช่วง 5 โมง เหมือนที่ภาพที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย ตนถูกยิงบริเวณหน้าขาซ้าย เข้าไปประมาณ 1 คืบ แพทย์ผ่ากระสุนออกแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี ขณะเดียวกันนายเกวลัง ได้โชว์พระเครื่องที่สวมใส่อยู่จำนวน 2 องค์ คือ “หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า รุ่นแจกแม่ครัวพิมพ์ใหญ่” และอีกองค์หนึ่ง คือ พระพิษณุ ที่สถาบันการศึกษาของตนปลุกเสก ซึ่งตนได้แขวนมานานแล้วและเชื่อว่าทำให้แคล้วคลาดจากเหตุถูกยิง ทำให้ได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก.-สำนักข่าวไทย