กมธ.เชิญ ตร.แจงเหตุสลายชุมนุมที่แยกปทุมวัน

รัฐสภา 12 พ.ย.-กมธ.ตำรวจฯ เผยเจ้าหน้าที่ตัดสินใจสลายชุมนุมปทุมวัน อ้างเหตุการ์ดปะทะเจ้าหน้าที่ก่อน หวั่นควบคุมไม่ได้ จึงต้องใช้แก๊สน้ำตา


คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฏร แถลงผลการเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาชี้แจงถึงมาตรการและแนวปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อควบคุมการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บังคับบัญชาตำรวจนครบาล พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เข้าร่วมชี้แจง

ทั้งนี้ นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานกรรมาธิการตำรวจฯ กล่าวว่า ตำรวจที่มาชี้แจง ยอมรับว่ามีการใช้แก๊สน้ำตาผสมน้ำสลายการชุมนุมจริง แต่อยู่ในระดับที่เจือจาง เพียง 3% ซึ่งเป็นไปตามมาตรการควบคุมการชุมนุม ไม่เป็นอันตราย ส่วนน้ำสีฟ้า ไม่เป็นอันตรายเช่นกัน คล้ายกับสีที่ผสมในลิปสติก เป็นการใช้ระบุตัวบุคคลเท่านั้น


นายสัญญา กล่าวด้วยว่า โดยตำรวจให้สาเหตุว่าที่ต้องสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่แยกปทุมวัน เพราะเริ่มมีการใช้ความรุนแรงก่อนที่จะมีการสลายการชุมนุม ซึ่งการ์ดของผู้ชุมนุมได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จึงเกรงว่าจะควบคุมสถานการณ์ชุมนุมไม่ได้ จึงตัดสินใจใช้มาตรการสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูง โดยเริ่มจากน้ำเปล่าก่อน จนไปถึงน้ำที่ผสมแก๊สน้ำตา

นายสัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่หน้าศาลฎีกา เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ผู้ชุมนุมเริ่มมีการตัดรั้วลวดหนาม เจ้าหน้าที่จึงเกรงว่าจะเกิดเหตุที่ควบคุมไม่ได้ และเข้าไปประชิดเขตสำนักพระราชวัง จึงตัดสินใจฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ชุมนุม แต่เป็นการฉีดแนววิถีโค้งเพื่อป้องปรามผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการฯ ยังไม่ปักใจเชื่อ 100% จากคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจะลงไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและใช้มาตรการต่าง ๆ อย่างละมุนละม่อม และขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลเป็นพิเศษในเรื่องการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ชุมนุมสองฝ่ายที่เห็นต่างกัน

ด้านนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกกรรมาธิการตำรวจฯ กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมาธิการฯ มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการควบคุมสถานการณ์ชุมนุมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 ข้อ คือ กรณีการชุมนุมที่มีบุคคลเห็นต่างกับผู้ชุมนุมเข้าไปอยู่ในพื้นที่ ทางตำรวจควรมีแนวทางในการระงับเหตุเพื่อไม่ให้เหตุการณ์มีการใช้ความรุนแรง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรมีการสาธิตหรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประชาชนได้รับทราบ และควรใช้วิธีการละมุนละม่อมต่อผู้ชุมนุมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเพิ่มมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย