“บิ๊กเต่า” ร้อง กมธ.ตำรวจ ขอความเป็นธรรมแต่งตั้งโยกย้าย 2568

รัฐสภา 28 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ร้อง กมธ.ตำรวจ ขอความเป็นธรรม ก.ตร. ทบทวนการแต่งตั้งโยกย้าย 2568 แฉคนได้รับแต่งตั้งใกล้ชิดนาย บอกพลีชีพยอมเป็นหนังหน้าไฟ สู้กับความถูกต้อง ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง หวังให้ความเป็นธรรมเปลี่ยนแปลงวงการตำรวจ เล็งยื่น 157 ต่อ รอผลก่อน ด้านประธาน กมธ. รับลูกนำเข้าที่ประชุม 4 ก.ย.นี้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเข้ายื่นหนังสือต่อ นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมกับการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2568 หลังจากที่ได้ร้องเรียนต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการตำรวจ ให้เป็นไปในแนวทางที่ชอบธรรม โดยยืนยันว่า การยื่นร้องเรียนดังกล่าว ไม่ได้เพื่อสร้างความแตกแยกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ขอเป็นตัวแทนของผู้ที่ถูกลิดรอนสิทธิ์ เพื่อให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ได้ทบทวนแนวความคิด การปฏิบัติ ที่อดีตในช่วงการรัฐประหาร ไม่มีพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ เกิดความเหลื่อมล้ำการแต่งตั้งโยกย้าย โดยใช้ดุลยพินิจ แต่เมื่อมีพระราชบัญญัติตำรวจฯ แล้ว ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อความเป็นธรรม และยกระดับมาตรการการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย เพื่อเป็นคุณ และเป็นธรรม แก่ผู้ที่ทำงานโดยตรง เพราะเมื่อก่อนใช้ระบบอุปถัมภ์ แต่กฎหมายมีเจตนารมณ์ ใช้ทั้งคุณสมบัติและอาวุโส และความรู้ความสามารถร่วมกัน ซึ่งหากใช้เพียงดุลยพินิจ ก็อาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายได้


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่าไม่ต้องการสร้างความแตกแยกไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เจตนารมณ์ต้องการให้คนที่ทำงาน ได้รับขวัญและกำลังใจในการที่จะมาพิจารณาเรื่องของความรู้ความสามารถ เป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีที่มีกติกาออกมาแล้วถ้าไม่ปฏิบัติหรือเลือกปฏิบัติและผลสัมฤทธิ์ออกมา บ่งบอกถึงการไปใช้ดุลยพินิจ มันอาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ในฐานะที่ดูแลงานทุจริต เคยเป็นผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติไม่ชอบ ดูแลเรื่องทุจริตมาอย่างต่อเนื่อง มองว่าการ กระทำที่เกิดขึ้นหมิ่นแม่ ต่อกฎหมาย ขอให้คณะกรรมการก.ตรให้ความเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วนเสมอเหมือนกัน

“จะอยู่กันแบบเช้าชามเย็นชามมีพี่มีเพื่อนมีน้องหลายคน ที่เข้ามาพบ และบอกว่า ยกตัวอย่าง อีกหลายคนที่มีฝีไม้ลายมือ ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง น้องๆที่กำลังจะโตขึ้นในวันข้างหน้าเป็นดาวรุ่ง จะทำไปทำไม ในเมื่อไม่ได้พิจารณาเรื่องผลงานความรู้ความสามารถ มันส่งผลต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่ต้องกลัวว่าประชาชนจะได้ หลักการความเป็นธรรมจะต้องมาจากข้างบนก่อน แล้วมาสู่ข้างล่าง ดังนั้นผมมาวันนี้ อยากจะมาแก้ไของค์กรตัวเองด้วย ยืนยันไม่ได้ไม่เป็นไรแต่ถ้าผมไม่ลงชื่อร้องจะกลายเป็นบัตรสนเท่ห์ ผมมาเป็นตัวแทนของพี่ๆน้องๆหลายคน เพื่อสะท้อนไปถึงคณะกรรมการก.ตร. ให้เป็นไปตามกฎหมายพ.ร.บ. ที่กำหนดไว้ไม่ได้หวังสร้างความเสียหาย หรือป่วน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ขอให้กรรมาธิการการตำรวจฯนำเรื่องนี้ไปพิจารณา อยากให้พ.ร.บ. นี้เป็นเครื่องการันตีให้เจ้าหน้าที่ทั่วประเทศที่ถูกฤทธิ์รอนสิทธิ์ได้รับสิทธิ์ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้แข่งกันที่การทำงานและแข่งกันทำความดีให้พี่น้องประชาชน ใครที่เทาๆดำๆ ก็ต้องมีการพิจารณาว่าไม่ควร หรืออย่างไร มันมีหลักเกณฑ์หลายอย่าง ขอให้กรรมาธิการการตำรวจดูเรื่องนี้ด้วย

นางสาวสุณัฐชา กล่าวว่าเรื่องนี้มีหนังสือร้องเรียนมายังกรรมาธิการบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจากภาคประชาชน หรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คิดว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการการตำรวจอยู่แล้ว ที่จะต้องติดตามปัญหาและหยิบยกประเด็น ขึ้นมาพิจารณาโดยใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎร เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปวงการตำรวจ และทำให้เกิดความชอบธรรม เกิดขึ้นได้ อย่างเช่นกรณีนี้ กรรมาธิการยินดีพร้อมรับฟังและจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมากรรมาธิการได้มีการประชุม แล้วมีมติว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมนัดถัดไป จะมีการพิจารณาเรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย สับเปลี่ยนหมุนเวียนตำแหน่งในภาพรวมเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติให้กรรมาธิการออกหนังสือเชิญ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล เข้าชี้ เข้าร่วมชี้แจงต่อ กรรมาธิการพฤหัสบดี4 ก.ย. เพื่อเป็นกลไกให้กระจ่างชัด แน่นอนการโยกย้ายตำรวจครั้งนี้เป็นที่จับตามองของสังคมและคาดหวังได้คำตอบจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยคำตอบอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากจะเห็น การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่าได้เห็นข้อมูลข้อเท็จจริงจากการกลั่นกรองบอร์ดชุดเล็ก และเห็นแล้วว่าคนที่ได้รับการแต่งตั้ง เป็นคนใกล้ชิดของผู้มีอำนาจ เพราะก่อนจะมีการประชุมก.ตร. 3 วันจะมีการส่งรายชื่อ ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ก.ตร.ทุกท่าน ดังนั้นเราได้ดูแล้ว ผลที่ออกมาคือผลสัมฤทธิ์ มีการชะลอคำสั่ง คนที่ได้กลับไม่ได้เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในสายตาของตำรวจทั่วไป มีหลายคนที่ร้องแรกแหกกระเชอแต่ไม่กล้าออกมา เรากลัวนายจ้องกลัวนายเล่นงาน แต่ตนเหมือนหนังหน้าไฟ เราสู้กับความถูกต้อง ที่ออกมาไม่ได้มีเจตนา มันเป็นสิทธิ์ของประชาชนหรือข้าราชการที่จะมาร้องขอความเป็นธรรม ที่สามารถทำได้ การร้องครั้งนี้ไม่ได้พูดถึงตัวเองแต่พูดถึงผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด


“มีคนเก่ง ทำไมไม่เอาเขามาพิจารณา ไม่จำเป็นต้องมาถึงผมแน่นอนผมพลีชีพไว้แล้วที่จำเป็นต้องออกมาครั้งนี้ไม่ต้องกลัวผมคนจริง แก้ไขปัญหาในงานมาเยอะ สร้างความเปลี่ยนแปลงมาเยอะ พระก็เปลี่ยนแล้ว ตอนนี้จะมาเปลี่ยนตำรวจ มาดูตำรวจสิว่ามีกฎหมายแล้วต้องใช้กฎหมาย เป็นตัวขับเคลื่อน อย่าเทไถ งอแงแบบนี้ไม่เอา ตำรวจชอบเถลไถลออกนอกแนวรันเวย์ อยากให้ ผู้บังคับบัญชา ตั้งสติ ถ้ามีคุณธรรมรู้จักคำว่าให้กับลูกน้อง ลูกน้องก็จะให้กับพี่น้องประชาชนเอง” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้หากผลการแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามโผจะร้องศาลปกครองหรือไม่นั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยังไม่ยืนยัน แต่เห็นว่า หากเป็นไปตามโผจริง แสดงว่า ความผิดสำเร็จแล้ว อาจเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้ เพราะทำงานเรื่องนี้ แล้วคุยหลายรอบ การเข้าฐานความผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ต้องดูผลที่ออกมาด้วย เข้าหรือไม่เข้าเดี๋ยวว่ากันศาลปกครองไว้ทีหลัง แต่เราจะพิจารณาอย่างไรขอดูก่อน.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]