สั่งกักขัง 15 วัน ด.ต.พฤติกรรมไม่เหมาะสม
ผกก.สภ.เพ จ.ระยอง ลงนามคำสั่งลงโทษกักขัง 15 วัน ดาบตำรวจมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ผกก.สภ.เพ จ.ระยอง ลงนามคำสั่งลงโทษกักขัง 15 วัน ดาบตำรวจมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
FIVB ลงโทษนักตบสาวเซอร์เบียแบน 2 นัด ปรับ 700,000 บาท หลังแสดงท่าทางไม่เหมาะสมในเกมชนะทีมชาติไทย ในศึกเนชันส์ลีก
ซิดนีย์ 4 พ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียเผยว่า คงเป็นได้น้อยมากที่ผู้เดินทางมาจากอินเดียที่สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กำลังระบาดหนัก จะถูกลงโทษสถานหนักตามที่ทางการประกาศไว้ นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์แชนนัลไนน์วันนี้ว่า ทางการคงไม่ใช้บทลงโทษสถานหนักเช่นนั้น แต่เป็นมาตรการที่จะสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถสกัดไม่ให้ไวรัสกลับมาระบาดในออสเตรเลียอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จะใช้กฎระเบียบอย่างเหมาะสมและรับผิดชอบ โดยต้องมีไว้เพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่สถานกักตัวที่พบผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากอินเดียเพิ่มขึ้นถึง 15 เท่านับจากเดือนมีนาคม ส่วนแผนการอพยพคนกลับจากอินเดียอาจนำกลับมาใช้ได้อีกครั้งภายในวันที่ 15 พฤษภาคม เนื่องจากรัฐบาลกำลังหาทางขยายศักยภาพของสถานกักตัวในดินแดนนอร์เทิร์นเทริทอรีเป็นสองเท่าภายในกลางเดือนนี้ ทางการออสเตรเลียประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนห้ามทุกคนรวมทั้งพลเมืองของตนเองเดินทางมาจากอินเดียจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ผู้ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีและลงโทษสถานหนักด้วยการจำคุกสูงสุด 5 ปี และปรับ 66,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.59 ล้านบาท) ทำให้ถูกตำหนิจากสมาชิกสภาและชุมชนอินเดียในออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย
กลุ่มวุฒิสมาชิกจากทั้งสองพรรคการเมืองของสหรัฐร่วมกันเรียกร้องเมื่อวานนี้ ให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่มมาตรการลงโทษผู้นำรัฐบาลทหารของเมียนมา รวมถึงการปิดกั้นรายได้ที่ไปยังบริษัทพลังงานของรัฐบาล
กระทรวงการคลังสหรัฐขึ้นบัญชีดำธุรกิจค้าไม้และไข่มุกของรัฐบาลเมียนมาเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ธุรกิจเหล่านี้ถูกนำมาใช้หารายได้ให้กับรัฐบาลทหาร
สหรัฐประกาศใช้มาตรการลงโทษรัสเซียพร้อมกับขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศเมื่อวานนี้ เพื่อเป็นการตอบโต้สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐระบุว่าเป็นการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐของรัสเซีย การโจมตีทางไซเบอร์และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เป็นปรปักษ์ต่อสหรัฐ
สหรัฐประกาศใช้มาตรการลงโทษบุตรชายและบุตรสาวของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาและบริษัทที่เขาเป็นผู้ควบคุมดูแลอีก 6 แห่ง เพื่อเป็นการตอบโต้การก่อรัฐประหารชองกองทัพเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและการใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงจนเสียชิตไปหลายคน
นิวยอร์ก 6 มี.ค.- ทูตพิเศษของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เรื่องเมียนมา เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ดำเนินการกับรัฐบาลทหารเมียนมา หลังมีการสังหารผู้ชุมนุมต่อต้านการรัฐประหาร ข้อมูลของยูเอ็นระบุว่า มีผู้ชุมนุมถูกสังหารแล้วกว่า 50 คน เฉพาะวันพุธที่ผ่านมาวันเดียวถูกสังหารมากถึง 38 คน ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้กองทัพปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ และเคารพผลการเลือกตั้งทั่วไปเดือนพฤศจิกายนที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี (NLD) รอยเตอร์อ้างสำเนาถ้อยแถลงที่นางคริสทีน ชเรเนอร์ เบอร์เกเนอร์ ทูตพิเศษเรื่องเมียนมาแถลงต่อที่ประชุมปิดยูเอ็นเอสซี 15 ชาติเมื่อวานนี้ว่า นางเบอร์เกเนอร์ระบุว่าไม่สามารถปล่อยให้กองทัพเมียนมาลอยนวลได้อีกต่อไป จำเป็นอย่างยิ่งที่ยูเอ็นเอสซีจะต้องเด็ดเดี่ยวและร่วมกันแสดงพลังในเรื่องนี้และยืนเคียงข้างชาวเมียนมาอย่างแข็งขัน เพื่อสนับสนุนผลการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนที่มีความชัดเจน นักการทูตชี้ว่า การจะให้ยูเอ็นเอสซีมีท่าทีที่เป็นหนึ่งเดียวในเรื่องเมียนมาด้วยการใช้มาตรการลงโทษคงเป็นไปไม่ได้ในเร็ว ๆ นี้ เพราะคาดว่าจะถูกคัดค้านจากจีนและรัสเซีย สองชาติสมาชิกถาวรที่มีสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ สหรัฐและประเทศตะวันตกบางประเทศได้ใช้มาตรการลงโทษอย่างจำกัดกับรัฐบาลทหารเมียนมา ขณะที่นายโทมัส แอนดรูวส์ ผู้รายงานพิเศษสถานการณ์สิทธิมนุษยนชนในเมียนมาของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็น เรียกร้องให้ประกาศคว่ำบาตรอาวุธเมียนมาในระดับโลกและใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างเจาะจง.-สำนักข่าวไทย
ภท. รอฟัง พปชร.ลงดาบ ส.ส.โหวตสวนมติพรรค ชี้ เอามาเทียบกรณี “โต้ง–แบต–แชมป์” ไม่ได้ เหตุตอนนั้นไม่ใช่มติพรรคร่วมฯ ด้าน “สิริพงศ์” เผยโดนลงโทษหนักมาแล้ว แนะ ส.ส.โหวตสวนรอรับผลจากการกระทำ
ศาลแขวงพระนครใต้ พิพากษา จำคุก “ดีเจมะตูม” 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท แต่รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 10,000 บาท รอลงอาญา 1 ปี คุมประพฤติทุก 3 เดือน
คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นลงมติในวันนี้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายที่เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งอาจจะส่งผลให้ผู้ที่ละเมิดกฎระเบียบถูกตัดสินลงโทษปรับและจำคุกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ
รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะหมดวาระการบริหารประเทศ ทิ้งทวนด้วยการประกาศมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนและบริษัทขนาดใหญ่ของจีน รวมทั้งห้ามการลงทุนของบริษัทจีนอีก 9 แห่ง