
คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหารือสถานการณ์ในเมียนมา
คณะผู้แทนของสหประชาชาติเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่วกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในเมียนมา
คณะผู้แทนของสหประชาชาติเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่วกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในเมียนมา
ย่างกุ้ง 2 ก.พ.- ผู้คนทั่วเมียนมาเข้าร่วมการ “ประท้วงเงียบ” ต่อต้านรัฐบาลทหารที่ทำรัฐประหารครบรอบ 3 ปี จนท้องถนนในย่างกุ้งเงียบเหงาไร้ผู้คน ชาวเมียนมาทั้งในนครย่างกุ้งและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ เข้าร่วมการประท้วงเงียบต่อต้านรัฐบาลทหารของพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่ทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนครบรอบ 3 ปีเมื่อวานนี้ โดยชาวเมียนมาต่างพร้อมใจเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่ออกไปทำงาน จนทำให้ท้องถนนในหลายเมืองโดยเฉพาะในนครย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่า และเมืองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในประเทศ ว่างโล่งแทบไร้ยวดยานพาหนะและผู้คนเกือบจะตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมาไปรวมตัวชุมนุมกันที่หน้าอาคารสำนักงานสหประชาชาติ บนถนนราชดำเนินในกรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติการยึดอำนาจ หลังทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนาง ออง ซาน ซูจี ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 แกนนำผู้ประท้วงบอกว่าที่ต้องมาชุมนุมกันที่หน้ายูเอ็นก็เพราะต้องการให้โลกได้รับรู้ถึงข้อเรียกร้องของชาวเมียนมา และต้องการแสดงความไม่พอใจต่อพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ในวันเดียวกันรัฐบาลทหารเมียนมาได้ประกาศขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน หลังจากที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาโดยตลอดนับตั้งแต่วันที่ทำรัฐประหารเมื่อ 3 ปีก่อน รัฐบาลให้เหตุผลว่ายังมีภารกิจสำคัญในการนำพาประเทศกลับสู่สถานการณ์ปกติและความสงบสุข ขณะที่ในเวลานี้รัฐบาลกำลังเจอกับแรงต่อต้านครั้งรุนแรงที่สุดจากกองกำลังชนกลุ่มน้อยและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่ผนึกกำลังกันต่อสู้กับกองทัพ อย่างไรก็ดี การขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินออกไป จะทำให้การเลือกตั้งต้องล่าช้าออกไปอีก เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใน 6 เดือนหลังยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน.-815(814).-สำนักข่าวไทย
รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศผ่อนคลายระเบียบการลงทะเบียนเลือกตั้งของพรรคการเมือง ก่อนที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งใช้มาตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเกือบ 3 ปีก่อนจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงในวันนี้
ย่างกุ้ง 6 ธ.ค.- นครย่างกุ้งของเมียนมากำลังขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ยวดยานจำนวนมากเข้าแถวยาวเหยียดตามสถานีบริการน้ำมันตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อรอเติมน้ำมัน หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาของทางการเมียนมารายงานว่า การขาดแคลนน้ำมันเริ่มขึ้นตั้งแต่วันอังคาร เนื่องจากเกิดความล่าช้าในการลำเลียงน้ำมันจากท่าเรือติละวาไปยังสถานีบริการน้ำมัน อย่างไรก็ดี เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตว่า แม้ว่าน้ำมันส่วนใหญ่ในนครย่างกุ้งมาจากท่าเรือแห่งนี้ แต่เงินจั๊ตของเมียนมาเทียบกับดอลลาร์สหรัฐได้อ่อนค่าลงมาโดยตลอด นับตั้งแต่กองทัพรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 กระทบต่อความสามารถของผู้นำเข้าในการจ่ายค่าน้ำมันที่เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ เอเอฟพีรายงานว่า รถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวนมากเข้าแถวยาวเหยียดในนครย่างกุ้งตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนที่ภาคพะโค ถัดขึ้นทางเหนือของนครย่างกุ้ง สถานีบริการน้ำมันบางแห่งจำกัดให้เติมน้ำมันได้คนละ 20 ลิตรเท่านั้น พนักงานสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งเผยว่า เพิ่งเปิดในเช้าวันนี้ หลังจากปิดไป 1 สัปดาห์เนื่องจากขาดแคลนน้ำมัน แต่คาดว่าน้ำมันจะหมดในเร็ว ๆ นี้ จากการที่ลูกค้าแห่มาเติม เพราะสถานีบริการใกล้เคียงยังคงปิดอยู่ ก่อนหน้านี้ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของเมียนมาจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ในปีการเงินสิ้นสุดเดือนกันยายน 2566 แต่จะยังคงต่ำกว่าปี 2562 ราวร้อยละ 10 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจถูกจำกัดจากอุปสงค์อุปทานที่ตึงตัวอย่างหนัก.-814.-สำนักข่าวไทย
ลอยก่อ 2 ธ.ค.- กลุ่มนักรบต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมากำลังเดินหน้าหวังยึดเมืองลอยก่อที่เป็นเมืองเอกของรัฐคะยา ทางตะวันออกของเมียนมา หากสำเร็จจะเป็นการยึดเมืองเอกจากกองทัพเมียนมาได้เป็นแห่งแรก กลุ่มที่มารวมตัวเป็นกองกำลังปกป้องประชาชนหรือพีดีเอฟ (PDF) หลังจากกองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ได้ร่วมกับพันธมิตรที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์สู้รบกับกองทัพเมียนมามาหลายสัปดาห์ ทั้งในและรอบเมืองลอยก่อ ซึ่งเป็นเมืองที่ซ่อนตัวอยู่บนเนินเขาทึบ มีประชากรประมาณ 50,000 คน นักรบของพีดีเอฟเผยว่า ชาวเมืองราวร้อยละ 70 พากันอพยพหนีการโจมตีทางอากาศ การยิงปืนใหญ่ถล่ม และการต่อสู้ในเขตเมืองของกองทัพ อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ เสียงปืนใหญ่ลดลงเพราะกองทัพตกมาอยู่ในฝ่ายตั้งรับ ฝ่ายต่อต้านเดินหน้าหวังยึดเมืองนี้ให้ได้ เพราะจะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ แต่หลายคนก็กังวลเรื่องความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับกำลังคนและตัวเมือง เพราะกองทัพยังคงใช้การโจมตีทางอากาศ แม้ว่าสูญเสียกำลังคนไปมาก เอเอฟพีได้รับคลิปภาพบรรยากาศในเมืองลอยก่อ เห็นบ้านเรือนร้างผู้คน ร้านค้าและถนนมีรอยถูกระเบิดเสียหาย หัวมุมถนนบางแห่งมีกองกระสอบทรายตั้งเป็นเกราะกำบัง พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวเมื่อวันพุธว่า การโจมตีในเมืองลอยก่อตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีความเข้มข้นมาก แต่กองทัพยังคงควบคุมเมืองเอาไว้ได้ ด้านสหประชาชาติหรือยูเอ็นเผยว่า มีคนพลัดถิ่นแล้วมากกว่า 500,000 คนนับตั้งแต่พันธมิตร 3 ภราดรภาพที่ประกอบด้วยกองทัพอาระกันหรือเอเอ (AA) กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาหรือเอ็มเอ็นดีเอเอ (MNDAA) และกองทัพปลดแอดแห่งชาติตะอางหรือทีเอ็นแอลเอ (TNLA) เปิดฉากปฏิบัติการ1027 ซึ่งหมายถึงวันที่ 27 ตุลาคม […]
ย่างกุ้ง 3 พ.ย.- ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเผยว่า กองทัพจะโต้กลับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่บุกโจมตีในรัฐฉาน ทางเหนือของประเทศ ยึดเมือง และปิดเส้นทางการค้ากับจีน หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมารายงานวันนี้ว่า พล.อ. อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ ซึ่งเป็นชื่อของรัฐบาลทหารเมียนมาที่ตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2564 กล่าวต่อสมาชิกสภาบริหารแห่งรัฐว่า รัฐบาลจะรุกโต้กลับกลุ่มติดอาวุธ หลังจากสมาชิกของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือปะหล่อง (TNLA) โจมตีค่ายความมั่นคงท้องถิ่นและสำนักงานระดับจังหวัดในเขตปกครองตนเองโกก้างในรัฐฉานที่มีพรมแดนติดกับจีน ผู้นำเมียนมายังได้กล่าวหากองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) ในรัฐคะฉิ่นที่อยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือของรัฐฉานว่า โจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งและฐานทัพ พร้อมกับเตือนว่ากองทัพจะตอบโต้คืน กองทัพเมียนมาสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ในหลายพื้นที่ของในรัฐฉานมาตั้งแต่วันที่ 27 ตุาคม นักวิเคราะห์มองว่า เป็นการท้าทายกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดนับจากการรัฐประหารครั้งล่าสุด โฆษกรัฐบาลทหารเผยเมื่อวันพุธว่า กองทัพได้สูญเสียการควบคุมเมืองชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) ของรัฐฉาน เมืองนี้มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานหรืออวิ๋นหนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ขณะที่จีนเรียกร้องเมื่อวันพฤหัสบดีให้หยุดยิงทันทีในรัฐฉาน ซึ่งมีโครงการสร้างรางรถไฟเชื่อมในข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน.-สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 29 ต.ค.- รัฐบาลทหารเมียนมาแจ้งวันนี้ว่า ได้จับกุมอดีตรัฐมนตรีสารสนเทศและตั้งข้อหาส่งเสริมให้มีคนไม่เห็นด้วยกับกองทัพ นับเป็นบุคคลสาธารณะที่ถูกจับกุมเป็นรายล่าสุด รัฐบาลทหารเมียนมาแถลงว่า นายเย ทุต วัย 64 ปี อดีตรัฐมนตรีสารสนเทศและโฆษกประธานาธิบดีสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีเต็ง เส่งที่ปกครองเมียนมาระหว่างปี 2554-2559 ถูกควบคุมตัวเมื่อค่ำวันเสาร์เนื่องจากพัวพันกับการแพร่กระจายข้อมูลผิด ๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ แหล่งข่าวเผยว่า เขาถูกตั้งข้อหาตามมาตรา 505 ที่ห้ามการกระทำใด ๆ ก็ตามที่ถือว่าสั่นคลอนกองทัพ มีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์ช่องเทเลแกรมที่สนับสนุนรัฐบาลเมียนมากล่าวหาเขาว่า นำที่อยู่ของนายทหารเกษียณราชการไปเปิดเผยในสื่อสังคมออนไลน์ นายเย ทุตได้รับฉายาในช่วงที่ดำรงตำแหน่งว่า รัฐมนตรีเฟซบุ๊ก เพราะมักโพสต์ข้อความต่าง ๆ ผ่านเฟซบุ๊กที่ช่วงนั้นเป็นสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมที่สุดในประเทศ และหลังจากที่เกษียณราชการแล้ว เขายังคงโพสต์อย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องท่องเที่ยว ล่าสุดเขาโพสต์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมเป็นเรื่องไปเที่ยวทะเลสาบอินเล แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมียนมา กองทัพเมียนมาเผชิญการใช้กำลังต่อต้านตั้งแต่รัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลนางออง ซาน ซู จีในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และในช่วงหลายเดือนมานี้ได้จับกุมเจ้าหน้าที่การค้าและพาณิชย์หลายคน ในขณะที่ความไม่สงบในประเทศได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย
โฆษกกลุ่มกบฏที่ปกครองรัฐคะฉิ่น ทางเหนือของเมียนมาเผยว่า มีคนเสียชีวิต 29 คน บาดเจ็บสิบกว่าคน จากการที่กองทัพโจมตีค่ายผู้พลัดถิ่นฐานทางตอนเหนือของเมียนมาเมื่อกลางดึกวันจันทร์
ปารีส 25 ก.ย.- ผู้นำฝรั่งเศสประกาศจะถอนทูตและทหารออกจากไนเจอร์เร็ว ๆ นี้ สร้างความยินดีให้กับรัฐบาลทหารไนเจอร์และประชาชนที่เคยเรียกร้องมาก่อน ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครง ของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า ฝรั่งเศสตัดสินใจถอนทูตออกจากไนเจอร์ โดยเอกอัครราชทูตและนักการทูตอีกหลายคนจะเดินทางกลับฝรั่งเศสในอีกไม่กี่ชั่วโมง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องวันเวลาที่ชัดเจน พร้อมกับเผยว่า ขณะนี้ความร่วมมือทางทหารระหว่างฝรั่งเศสกับไนเจอร์ได้สิ้นสุดลงแล้ว ฝรั่งเศสจะเริ่มถอนทหารออกจากไนเจอร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและจะดำเนินการถอนทหารได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ปัจจุบันมีทหารฝรั่งเศสประจำการอยู่ในไนเจอร์ราว 1,500 คนเพื่อช่วยปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงและการก่อการร้าย ด้านรัฐบาลทหารของไนเจอร์ออกแถลงการณ์ตอบรับอย่างทันควันว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่จะนำไปสู่ความเป็นอธิปไตยของไนเจอร์ ซึ่งเป็นไปตามความมุ่งมั่นและความตั้งใจของชาวไนเจอร์ที่เคยเรียกร้องให้ฝรั่งเศสถอนทหารออกไป ก่อนหน้านี้ผู้นำทหารของไนเจอร์เคยแจ้งให้เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสเดินทางออกนอกประเทศ หลังจากที่มีการทำรัฐประหารโค่นล้มประธานาธิบดีโมฮัมหมัด บาซูม เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ต่อมาในเดือนสิงหาคมไนเจอร์ได้ยื่นคำขาดให้ทูตฝรั่งเศสเดินทางออกไปภายใน 48 ชั่วโมง แต่ทูตฝรั่งเศสก็ยังอยู่ในไนเจอร์จนถึงขณะนี้ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัฐบาลทหารไนเจอร์ได้สั่งห้ามเครื่องบินของฝรั่งเศสใช้น่านฟ้าของไนเจอร์และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อการเดินทางออกนอกประเทศของทูตฝรั่งเศสหรือไม่.-สำนักข่าวไทย
สตรีชาวชิลีหลายหมื่นคนแต่งกายด้วยชุดดำ ร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 50 ปีรัฐประหารโดยนายพลออกุสโต ปิโนเชต์ ด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงซานติอาโก
ผู้แทนถาวรเมียนมาประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น เรียกร้องยูเอ็นดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหยุดยั้งความโหดร้ายทางทหารของรัฐบาลทหารเมียนมา
นีอาเม 10 ก.ย.- คณะทหารที่ทำรัฐประหารในไนเจอร์กล่าวหาฝรั่งเศสว่า กำลังรวบรวมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในประเทศเพื่อนบ้านของไนเจอร์ เพื่อเตรียมใช้กำลังทางทหารแทรกแซงไนเจอร์ โฆษกคณะรัฐประหารกล่าวเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ฝรั่งเศสเดินหน้าส่งกำลังพลไปยังหลายประเทศที่เป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตกหรืออีโควาส (ECOWAS) อันเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมรุกรานไนเจอร์ที่ฝรั่งเศสวางแผนร่วมกับอีโควาส โฆษกอ้างว่า ฝรั่งเศสส่งเครื่องบินทหาร เฮลิคอปเตอร์ และยานเกราะประมาณ 40 คัน ไปยังโกตดิวัวร์หรือไอวอรีโคสต์ และเบนิน เครื่องบินทหารเหล่านี้จะลำเลียงยุทโธปกรณ์จำนวนมากไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไนเจอร์หลายประเทศ คณะรัฐประหารไนเจอร์ประกาศเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ยกเลิกข้อตกลงความร่วมมือทางทหารกับฝรั่งเศส และถือว่าทหารฝรั่งเศส 1,500 นายที่อยู่ต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธในไนเจอร์มีสถานภาพผิดกฎหมาย แต่ฝรั่งเศสไม่ยอมรับคณะรัฐประหาร จึงถือว่าไม่มีอำนาจในการยกเลิก อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสเผยว่า กองทัพฝรั่งเศสกำลังพูดคุยกับคณะรัฐประหารไนเจอร์เรื่องถอนทหารฝรั่งเศสออกจากประเทศอดีตอาณานิคมแห่งนี้ ในขณะที่ชาวไนเจอร์จำนวนมากชุมนุมรอบที่ตั้งบ้านพักทหารฝรั่งเศสในกรุงนีอาเมทุกวันมานานกว่าสัปดาห์แล้ว เรียกร้องให้ทหารฝรั่งเศสออกไป ด้านสหรัฐเริ่มโยกย้ายทหารที่มีอยู่ 1,100 นาย ออกจากกรุงนีอาเม ขึ้นไปยังเมืองอะกาเดซ ที่อยู่ทางตอนกลางประเทศแล้ว.-สำนักข่าวไทย