เมียนมายกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน-เตรียมเลือกตั้ง

ย่างกุ้ง 1 ส.ค. – รัฐบาลทหารเมียนมายกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เพื่อเตรียมการเลือกตั้งปลายปีนี้ ขณะเดียวกันได้มีการประกาศกฎอัยการศึกใน 63 เมืองในหลายรัฐเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยก่อนการเลือกตั้ง โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาแถลงวานนี้ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่บังคับใช้มาตั้งแต่การทำรัฐประการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งการบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินครั้งล่าสุดได้ครบกำหนดลงแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากที่มีการขยายเวลามาถึง 7 ครั้ง ขณะเดียวกันพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารได้ปรับโฉมรัฐบาลใหม่ โดยมีการถ่ายโอนอำนาจจากรัฐบาลทหารไปยังรัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยพลเรือน ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ว่าจะต้องถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนเป็นเวลา 6 เดือนก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งนายโน ซอว์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของตัวเองและเป็นผู้ที่ดูแลธุรกิจต่างๆ ให้กับตระกูลของมิน อ่อง หล่าย เป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเฉพาะกาลขณะพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดต่อไป และทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีด้วย เมื่อวานนี้รัฐบาลเมียนมาได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 11 คน นำโดยพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เพื่อกำกับดูแลเรื่องการเลือกตั้ง รัฐบาลทหารประกาศว่าจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมปีนี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินได้ไม่นาน เมื่อวานนี้สภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติได้ประกาศกฎอัยการศึกใน 63 เมือง ซึ่งกระจายอยู่ในหลายรัฐ ได้แก่ ในรัฐกะฉิ่น กะยา […]

“วิโรจน์” ลั่น ปชน. พร้อมโหวต “นายกฯ ชั่วคราว” หากรับเงื่อนไขได้

รัฐสภา 5 ก.ค.-“วิโรจน์” ลั่นพรรคประชาชน พร้อมยกมือโหวต “นายกฯ ชั่วคราว” หากรับเงื่อนไขได้ รอ งบฯ 69 ผ่าน-ยุบสภา ไม่ติดว่าเป็นใคร พรรคไหน ขอให้อยู่ภายใต้กติกา บอกเลิกฝันไปเลยถ้าจะรัฐประหาร นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เพื่อมาแก้วิกฤตบ้านเมืองว่า เราลืมหน้าตานายกฯ-พรรค ไปได้เลย ว่าพรรคไหนหน้าตาเป็นอย่างไร พรรคประชาชนยึดหลักการเป็นหลัก และยังคงยืนยันเงื่อนไขที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ การยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน แต่กรณีเงื่อนไขที่ต้องมีนายกฯ ชั่วคราว เพื่อให้ผ่านงบประมาณปี 69 ไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ดังนั้น หากยังยืนเรื่องการยุบสภาอาจจะเป็นทางตัน เราจึงอยากหาทางออกภายใต้เงื่อนไขที่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักและและคำนึงถึงสัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน แต่ถ้าจำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ประคับประคองให้งบประมาณ ปี 69 ผ่าน แล้วยุบสภา เราพร้อมที่จะยกมือให้ ถ้าจำเป็นที่จะใช้มือของเรา โดยที่เรายืนยันว่า ไม่ขอร่วมรัฐบาล ไหนๆ ก็จะเลือกตั้งใหม่แล้ว จะช่วยประหยัดงบประมาณภาษีของประชาชน และเตรียมในเรื่องของการทำประชามติการตั้ง ส.ส.ร. เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 […]

“วิปรัฐบาล” รับหนังสือดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับปชช.

รัฐสภา 3 ก.ค.- “วิปรัฐบาล” รับหนังสือผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน ขอให้รวมคดี ม.112 ครอบคลุมไม่เลือกปฏิบัติ ด้าน “ชนก” บอก รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่มติของแต่ละพรรคจะเป็นอย่างไรก็ต้องเคารพเพราะเป็นรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคายพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล รับหนังสือจากกลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ที่เรียกร้องให้ 1. ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างเร่งด่วน กรอบเวลา 120 วันของสมัยประชุมสภาฯ ที่จะเริ่มในวันนี้ จะต้องเป็น เส้นตาย ที่รัฐบาลและสภาฯ ร่วมกันผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทุกฉบับให้เข้าสู่การพิจารณาในวาระที่หนึ่งและสองโดยไม่บ่ายเบี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ฉบับประชาชน 2.ขอให้รวมฐานความผิดมาตรา 112 เนื่องจากการดำเนินคดีภายใต้มาตรา 112 มีลักษณะที่ละเมิดต่อเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานจึงถือเป็นการควบคุมตัวโดยมิชอบ อีกทั้งกฎหมายดังกล่าวมีบทลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ และมักถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองนับตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา การรวมฐานความผิดดังกล่าวในร่างกฎหมายจึงจำเป็นต่อการคลี่คลายความขัดแย้ง และทำให้สังคมเดินหน้าต่อไปได้ 3.นิรโทษกรรมต้องครอบคลุมและไม่เลือกปฏิบัติ ครอบคลุมประชาชนทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม การนิรโทษกรรมจะต้องไม่เป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มการเมืองใด แต่ต้องเป็นไปเพื่อการเยียวยาประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมืองอย่างทั่วถึง ด้านน.ส.ชนก กล่าวว่า […]

“ภูมิธรรม” บอกพยายามให้ตายก็ยาก “ปลุกกระแสรัฐประหาร”

ทำเนียบ 30 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ยันปลุกกระแสรัฐประหาร พยายามให้ตายก็ยาก คุย ผบ.เหล่าทัพไม่คิดปฏิวัติ อยากช่วยให้ประเทศผ่านวิกฤติ วอนอย่าทำให้ประเทศมีปัญหา เมินโพล “นายกฯ แพทองธาร” คะแนนร่วง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องประชาธิปไตยไทย ที่มีแกนนำบางคนกล่าวปราศรัยปลุกกระแสรัฐประหาร ว่า การปลุกระแสรัฐประหาร พยายามให้ตายก็ยาก เท่าที่ตนอยู่กระทรวงกลาโหมและได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาทหารทั้ง 4 เหล่าทัพ เขาก็มองว่าวันนี้ประเทศวิกฤติ และเขาก็อยากจะช่วยเพื่อให้ประเทศผ่านพ้นไปได้ ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความคิดของทหาร ซึ่งวันนี้เขาอยากให้เราแก้ปัญหาให้ได้ นายภูมิธรรม กล่าวต่ออีกว่า การชุมนุมถือเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมธรรมนูญ อะไรเป็นข้อเสนอที่ดีเราก็พร้อมรับฟัง แต่อะไรที่เป็นปัญหาต่อระบบการเมือง ต่อระบบกฎหมายเราก็ต้องพิจารณาต่อไป และสิ่งที่ตนคิดว่ากำลังจะยกระดับการชุมนุมไม่ได้มีประโยชน์อะไร แล้ววันนี้กระบวนการเราก็ได้ยื่นทูลเกล้าขอปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆให้เดินหน้าไปให้ได้ จึงขออย่าใช้วิธีการแบบเดิมไม่ว่าจะเป็นการตามไปขัดขวางหรือทำอะไรโดยไม่เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาเคยทำมาแล้วและเสียหายมาเป็น 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ม็อบ กปปส. และหลายคนที่อยู่บนเวทีก็ยังติดคดีเต็มไปหมด ซึ่งก็เป็นปัญหาอยู่ และศาลก็ตัดสินแล้วบางส่วนแม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุดว่าวิธีการที่ทำอยู่ทำไม่ได้ แต่ถ้ายังยืนยันที่จะทำอยู่ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนการกลับมาของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ถือว่าเคยชุมนุมขับไล่รัฐบาลมาทักษิณ ชินวัตร มาแล้ว ถือว่าน่ากังวลหรือไม่สำหรับรัฐบาล […]

“อนุสรณ์” ชวนคนไทยแสดงจุดยืน ต้านม็อบเรียกรัฐประหาร

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย.- “อนุสรณ์” มองการชุมนุมเรียกร้องเป็นสิทธิ์ ชวนคนไทย แสดงจุดยืนต่อต้านม็อบเรียกรัฐประหาร นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเรียกร้องให้มีการทำรัฐประหาร ว่า แม้การแสดงความคิดเห็นผ่านการชุมนุมจะเป็นสิทธิ แต่การเลยเถิดไปถึงการเรียกร้องให้ทหารเข้ายึดอำนาจ ถือเป็นแนวความคิดที่อันตราย ถือเป็นปฏิปักษ์ต่อระบบประชาธิปไตย ประเทศไทยเคยผ่านการรัฐประหารมาแล้วหลายครั้งในรอบกว่า 20 ปี แต่ละครั้งฉุดเศรษฐกิจถอยหลัง ความเชื่อมั่นดำดิ่ง การลงทุนหดหาย ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส การเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงรัฐบาล โดยอำนาจนอกระบบ ถือเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ โลกในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับหลักนิติรัฐและการพัฒนาที่ยั่งยืน รัฐประหารไม่เคยทำให้ประเทศชาติก้าวไปข้างหน้า มิหนำซ้ำยังทำลายโอกาสการแข่งขันบนเวทีโลก และกดภาพลักษณ์ของประเทศให้ถอยกลับไปอยู่ในจุดที่ทั่วทุกประเทศไม่ยอมรับ ทราบว่าในขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงได้มอนิเตอร์การชุมนุมรวมถึงเนื้อหาการปราศรัยบนเวทีที่สุ่มเสี่ยงต่อกการกระทำความผิดตามกฎหมาย การปราศรัยของแกนนำบางคนมีความสุ่มเสี่ยงว่าอาจพยายามนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประเทศต้องมีรัฐบาลในการเปลี่ยนผ่านวิกฤต มีรัฐสภา เป็นเวทีในการแก้ปัญหา ขอเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาทุกคน พรรคการเมืองทุกพรรค ออกมาประกาศจุดยืนต่อต้านม็อบเรียกรัฐประหาร ไม่สนับสนุนทั้งในทางแจ้งทางลับ ไม่ขนคนมาเติมให้ม็อบ จนทำให้ประเทศชาติเสียหายบอบช้ำอีก “ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย ร่วมกันยืนหยัดปกป้องประชาธิปไตยและอำนาจอธิปไตยของประชาชน ให้ประเทศมีรัฐบาลมีรัฐสภาที่จะนำพาประเทศชาติและประชาชนออกจากวิกฤติ” นายอนุสรณ์ กล่าว .-316 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เชื่อไม่มีใครหนุนรัฐประหาร

กทม.29 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” เชื่อไม่มีใครหนุนรัฐประหาร ทหารอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปฏิบัติตามกติกาอยู่แล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ วานนี้ ว่าเป็นการแสดงออกของประชาชนที่มีความเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ โดยรัฐบาลยินดีรับฟัง ซึ่งการชุมนุมเมื่อวานนี้ยังไม่ได้มีอะไรที่เป็นปัญหาร้ายแรง ส่วนกรณีที่พรรคประชาชนออกแถลงการณ์ไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตย นายภูมิธรรม ระบุว่าอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนไม่สนับสนุน และทหารเองก็เข้าใจอยู่แล้ว เพราะเป็นทหารอาชีพ เป็นทหารภายใต้รัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เขาก็ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์กติการัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ซึ่งเท่าที่ตนได้มาอยู่ด้วยกับทหาร ทหารก็เป็นทหารสมัยใหม่ ที่เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ขณะที่เรื่องอธิปไตยทหารยอมไม่ได้ รัฐบาลก็ยอมไม่ได้เช่นเดียวกัน นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า หลายเรื่องที่กลุ่มผู้ชุมนุมปราศรัย ยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่ หรือไม่ตรงข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเรื่องอธิปไตยที่พูดเหมือนว่ารัฐบาลไม่รักษาอธิปไตย ต้องยืนยันว่ารัฐบาลประกาศชัดเจนมาโดยตลอด ว่าเรื่องอธิปไตยเรายอมไม่ได้ เราไม่เห็นด้วย ถ้าจะมีการมารุกล้ำ เพียงแต่สิ่งที่เราทำต้องเข้าใจว่า เรามุ่งมั่นในการที่จะรักษาจุดสันติ ความได้เปรียบในการเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงไม่อยากให้เกิดการสูญเสียไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนกัมพูชา นอกจากนี้ที่มีการพูดถึงคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีเป็นเพียงกระบวนการ หรือกลไกในการพูดคุย และยังเป็นความตั้งใจที่จะหาทางออกให้กับประเทศโดยสันติ ซึ่งการพูดคุยไม่ได้มีการยกอะไรให้เขา ขณะที่ประชาชนจะต้องฟังข้อมูลและพิจารณาว่าหัวใจสำคัญ คือ ภายนอกประเทศต้องการให้ภายในประเทศของเราอ่อนแอหรือไม่ อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝ่ายความมั่นคง กำลังรวบรวมเอกสารหลักฐานการปราศรัย อะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะนำมาปรับใช้ อะไรที่ยังเข้าใจผิด […]

คปท.แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่หนุนรัฐประหาร

กทม. 29 มิ.ย.- คปท. แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่สนับสนุนรัฐประหาร และไม่คิดสนับสนุนรัฐประหารแน่นอน นัดหารือใหญ่ 1 ก.ค.นี้ ยกระดับขับไล่นายกฯ-พรรคร่วม เวลา 14.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ร่วมแถลงจุดยืน ภายหลังการชุมนุมใหญ่เมื่อวานนี้ แต่ปรากฏว่าการปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร ทำให้ในวันนี้นายพิชิต ต้องออกมาแถลงการณ์ด่วน ชี้แจงว่า พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลกำลังกล่าวหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมว่าสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งที่ควรจะกดดันให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางของ คปท. ไม่เคยเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหารจากกองทัพใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อคำพูด และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และการที่ คปท. ยืนเคียงข้างกองทัพปกป้องอธิปไตยของชาติ ก็ไม่ได้มีความหมายถึงการรัฐประหารแต่อย่างใด ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ แกนนำ คปท. จะประชุมร่วมกับแกนนำทุกของคน “รวมพลังแผ่นดิน” ในวันอังคารที่ 1 กรกฎาคมนี้ ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งจะเป็นการยกระดับกิจกรรมหลังวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เพื่อทำกิจกรรมให้เข้มข้นขึ้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่พื้นที่การชุมนุมก็คงจะใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น และไม่ใช้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว […]

“เท้ง” ขอบคุณประชาชนไว้วางใจให้เป็นนายกฯ อันดับ 1

กทม. 29 มิ.ย.-“เท้ง” ขอบคุณประชาชนมอบความไว้วางใจให้เป็นนายกฯ อันดับ 1 ดึงสติคนไทยไม่เป็นเครื่องมือ “แกนนำผู้ชุมนุม” กวักมือเรียก “รัฐประหาร” หวั่น “แพทองธาร” ทำประเทศไปอยู่ในจุดที่ไม่อยากเห็น จวกบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ทำตัวเองร่วงกราวลงอันดับ 5 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลนิด้าโพล ในหัวข้อคะแนนความนิยมทางการเมืองไตรมาสสอง ซึ่งประชาชนไว้ใจนายณัฐพงษ์เป็นอันดับหนึ่งให้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องขอบคุณประชาชนทุกคนที่มอบความไว้วางใจให้กับตนและพรรคประชาชนในการโหวตมากยิ่งขึ้น แต่หากวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่ง เราจะเห็นว่าคะแนนนิยมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตกลงมาก ซึ่งเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ทำให้ประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่น และยังมีคะแนนนิยมที่เพิ่มขึ้นต่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีท่านอื่น เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ตนและพรรคประชาชนมีข้อเป็นห่วง เพราะเมื่อวานนี้ ในการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลายข้อเรียกร้องอาจจะเลยเถิดไปถึงการเรียกร้องนายกรัฐมนตรีที่ใช้กระบวนการนอกระบบ เรียกร้องให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร ผลโพลที่เราเห็นอาจจะนิยมตัวนายกรัฐมนตรีที่มาจากฝั่งทหารมากยิ่งขึ้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ยึดอำนาจมาด้วยตัวเอง จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เราค่อนข้างมีข้อกังวล ว่าความล้มเหลวของ น.ส.แพทองธาร อาจจะนำไปสู่การเมืองที่พวกเราไม่อยากเห็น คือการใช้อำนาจนอกระบบหรือนายกรัฐมนตรีที่มาจากทหาร เมื่อถามว่าคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาอันดับสาม แสดงว่ามีคนส่วนหนึ่ง […]

เรียกร้องยืนหยัดไม่เอารัฐประหาร สร้างบาดแผลลึกในบ้านเมือง

กทม. 29 มิ.ย. – เด็กเพื่อไทย ชี้ชุมนุมเป็นสิทธิ เรียกร้องยืนหยัดไม่เอารัฐประหาร – สร้างบาดแผลลึกในบ้านเมือง น.ส. ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โพสต์ผ่าน X ระบุว่า การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิของประชาชน แต่ไม่ว่าเราจะคิดเห็นต่างกันเพียงใด สิ่งหนึ่งที่ต้องยืนหยัดร่วมกัน คือ ไม่เปิดทางให้รัฐประหาร เราเคยเห็นมาแล้วหลายครั้งว่าวิธีนี้ไม่ได้แก้ปัญหา กลับสร้างบาดแผลลึกในบ้านเมือง การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ต้องเกิดจากประชาชน ผ่านกลไกประชาธิปไตย ไม่ใช่อำนาจนอกระบบ และรัฐบาลในวันนี้ก็กำลังทำหน้าที่ปกป้องอำนาจอธิปไตยของประเทศ ยืนอยู่บนหลักนิติรัฐ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และจะไม่ยอมให้เงื่อนไขใดๆ กลายเป็นช่องทางของการทำลายประชาธิปไตยอีกต่อไป ถ้อยคำที่ได้พบเห็นจากการชุมนุมเมื่อวานนี้จำนวนมาก ล้วนเป็นข้อความที่บิดเบือน และมีลักษณะบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณ ไม่ปล่อยให้ข้อความอันเป็นเท็จทำลายรากฐานของการฟื้นฟูประเทศ” #ไม่เอารัฐประหาร #ยึดมั่นประชาธิปไตย .-314-สำนักข่าวไทย

แกนนำม็อบเรียกหารถถัง หวังล้มกระดานการเมืองไทย

ทำเนียบ 29 มิ.ย. – รัฐบาลยืนหยัดทำหน้าที่ปกป้องระบอบประชาธิปไตย ชี้แกนนำชุมนุมเรียกหารถถัง “ปฏิวัติ” หวังล้มกระดานการเมืองไทย เชื่อมโยงคำกล่าวของ “ฮุนเซน” ชัดเจนทั้งข่มขู่ยิงขีปนาวุธลงกรุงเทพ ทั้งระบุรัฐบาลปฏิวัติดูแลเขาได้ดีกว่ารัฐบาลชุดนี้ ย้ำหากไทยปฏิวัติอีกครั้ง มีโอกาสจะนำกลับไปสู่เป็น “ประเทศ ด้อยพัฒนา” นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าการชุมนุมเมื่อวานที่ผ่านมา เป็นสิทธิในการแสดงออกตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่ในส่วนของเนื้อหาการปลุกระดมและปราศรัยของแกนนำผู้ชุมนุมนั้น ในยุคที่ประเทศไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมา 93 ปีของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขนั้น เห็นเป็นทฤษฎีของประเทศไทยแล้วว่า การปฏิวัติรัฐประหารไม่เคยเป็นคำตอบที่ “ใช่” มาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ละครั้งมีแต่จะฉุดรั้งให้ประเทศถอยหลังลงคลองมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเชื่อว่าหากมีการปกครองด้วยระบอบรัฐประหารอีก ไทยจากประเทศกำลังพัฒนา คงจะถูกปรับไปเป็นประเทศด้อยพัฒนาในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน นายจิรายุ กล่าวอีกว่าแกนนำหลายคนที่เรียกร้องหารถถังบนเวที เป็นสิ่งที่คนไทยและประเทศไทย ไม่อาจยอมรับได้ แกนนำหลายคนในอดีตปากเคยบอกว่าขอต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นอย่างไร จึงขอเรียกร้องให้คนไทยท้้งประเทศ ร่วมกันต่อต้านแนวทางดังกล่าว และรู้ทันบุคคลเหล่านี้ ที่แสวงหาอำนาจจากการปฏิวัติ ยึดอำนาจมาตลอด 20 ปี ที่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ต่างเจ็บปวด และเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้จากการเรียกร้องของคนกลุ่มเดิมๆ “รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชนนอกจากมีหน้าที่จะต้องปกป้องอธิปไตยของประเทศแล้วยังมีหน้าที่หลักสำคัญที่จะต้องปกป้องอำนาจอธิปไตยของประชาชนคนไทยทุกคน เราจะรวมใจกันแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่าจะไม่ สนับสนุนการทำปฏิวัติ รัฐประหาร และจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศนี้ได้อีก” นายจิรายุ […]

“ณัฐวุฒิ” ย้ำไม่เอารัฐประหาร หลังแกนนำม็อบปลุกกระแส

กทม. 29 มิ.ย. – “ณัฐวุฒิ” ย้ำไม่เอารัฐประหาร หลังแกนนำม็อบปลุกรัฐประหาร กลุ่มนี้นำทางยึดอำนาจมาแล้ว 2 รอบ บอกในรอบ 20 ปีนี้ การขับเคลื่อนม็อบต้องมีพรรคการเมืองเข้าร่วมอย่างมีนัยสำคัญ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ ว่าเป็นไปตามคาดว่าคนมาม็อบจะเยอะกว่าทุกครั้งตั้งแต่ยุครัฐบาลเศรษฐา เพราะเห็นความเคลื่อนไหวเชิงเครือข่าย และการทำงานแนวร่วมในทุกภูมิภาค รวมทั้งกลุ่มพลังทางสังคมต่างๆ ในรอบ 20 ปีนี้การขับเคลื่อนม็อบจำนวนมากต่อเนื่องได้แรมเดือนแรมปี ต้องมีพรรคการเมืองเข้าร่วมอย่างมีนัยสำคัญ ม็อบนี้เริ่มนับหนึ่งและเดินต่อแน่ๆ อีกไม่นานน่าจะเห็นภาพพรรคการเมืองชัดขึ้น ถ้าไม่เห็นจะถือเป็นเรื่องใหม่และแปลกมาก ทั้งต่อการเมืองไทยและต่อกลุ่มแกนนำเอง พลังหลักเป็นมวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่เคยเคลื่อนไหวในนามกลุ่มพันธมิตรฯ และ กปปส. จะมีนอกเเหนือบ้างก็เป็นส่วนน้อย ไม่ค่อยเห็นคนหนุ่มสาว ภาพรวมเป็นวัยกลางคนไปถึงสูงอายุ ข้อเรียกร้องและเนื้อหาการปราศรัยทำให้เห็นจุดหมายแต่น่ากังวลเรื่องปลายทาง จุดหมายคือล้มรัฐบาล ปลุกกระแสชาตินิยมกดดันให้นายกฯ แพทองธาร ลาออก บีบพรรคร่วมถอนตัว แต่ออกแล้วก็คงไม่จบ เพราะดูเหมือนปลายทางไม่ใช่การมีรัฐบาลใหม่ในสภาชุดนี้ ถ้านายกฯ ลาออก พรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาลยังมีแคนดิเดตนายกฯ อีกคนคือนายชัยเกษม เชื่อว่าแกนนำม็อบก็ไม่ยอมรับ การชุมนุมต่อต้านยังมีต่อ เอาคนอื่นมาเป็นนายกฯ ก็ไม่แน่ว่าจะได้ เพราะแกนนำหลักพูดชัดว่าถ้าทหารจะทำอะไร (หมายถึงรัฐประหาร) ก็ไม่ขัด […]

ปชน.ประณามแกนนำม็อบปราศรัยเจตนาปูทางรัฐประหาร

พรรคประชาชน 29 มิ.ย.-พรรคประชาชน ประณามแกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรัฐประหาร ย้ำทางออกจากวิกฤตการเมือง คือ ยุบสภา เปิดทางเลือกตั้งใหม่  พรรคประชาชนแสดงความเห็นถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า ความเห็นของพรรคประชาชนต่อการชุมนุมของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” การชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต  พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง  พรรคประชาชนขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดิน ที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย ผลพวงจากการรัฐประหารกลับซ้ำเติมปัญหาการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล การคอร์รัปชัน กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและกลุ่มทุนผูกขาดเสียด้วยซ้ำ วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชน ขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา […]

1 2 3 29
...